ข้อแตกต่างที่ทำให้ถูกจับจ้องหรือเป็นสาเหตุของการเลือกปฏิบัติในช่วงแรก จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป หากระยะยาวสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่ามีความรู้ ความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำงานคู่ควรกับตำแหน่ง พร้อมกับสร้างผลงานน่ายกย่องเอาไว้ เหมือนที่ Indra Nooyi (อินทรา นูยี) ผลักดันยอดขาย Pepsi ให้โตถึง 80% ตลอด 12 ปี บนเก้าอี้ประธานบริหาร (CEO)
แน่นอนว่าแม้ลงจากตำแหน่งไปเมื่อ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่พนักงานแบรนด์น้ำอัดลมดังทั่วโลกกว่า 260,000 คน และเหล่า CEO คงยังจดจำเธอไปอีกนาน ในฐานะสตรีอินเดียที่ทั้งเก่งและแกร่ง ท่ามกลางนักบริหารที่ส่วนใหญ่เป็นชายชาวอเมริกัน
World Marketeer หญิงคนล่าสุด เกิดเมื่อ 28 ตุลาคม 1955 เป็นลูกสาวคนเล็กในตระกูล Krishnamurthy (กฤษณมูรติ) ครอบครัวฐานะปานกลางในเมืองเจนไน รัฐทมิฬนาดู ทางตอนใต้สุดของอินเดีย โดยครอบครัวให้ความสำคัญทั้งด้านการศึกษา ความเป็นผู้นำ และส่งเสริมให้กล้าแสดงความคิดเห็น ยืนยันได้ระหว่างมื้อเย็น แม่ให้ลูกสาวทั้งสองคนบอกสิ่งที่อยากทำหากได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งในภายหลังเธอตระหนักว่าเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก
หลังจบมัธยมปลาย สาวอินเดียใต้จากครอบครัวชนชั้นกลางผู้นี้เลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่คณะฟิสิกส์ เคมี และคณิตศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยมัทราส ต่อด้วยปริญญาโทด้านการบริหารจัดการ จากสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านนี้ในบ้านเกิด จนจบการศึกษาในปี 1976
จากนั้นเริ่มทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Johnson & Johnson บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ระดับโลก ประจำสาขาในอินเดีย
ปี 1978 เธอเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อศึกษาต่อในคณะบริหารจัดการองค์กรสาธารณะและบริษัทเอกชน ของมหาวิทยาลัย Yale หลังคว้าปริญญาอีกใบด้วยอายุเพียง 25 ปี ก็เข้าทำงานใน Boston Consulting Group และแต่งงานกับ Raj K. Nooyi ประธานบริษัท Amsoft System จากนั้นเปลี่ยนไปรับตำแหน่งในทีมวางแผนธุรกิจให้บริษัทในแวดวงเทคโนโลยี ทั้ง Motorola และ ABB
ปี 1994 Indra ที่กลายเป็นสะใภ้ตระกูล Nooyi เต็มตัว มีลูก 2 คน และได้สถานะพลเมืองอเมริกันเรียบร้อย ได้รับข้อเสนอจาก General Electric และ Pepsi ซึ่งปรากฏว่าเธอเลือกทำงานกับบริษัทหลัง
ภายใต้ชายคาบริษัทน้ำอัดลมดังคู่แข่งของ Coca-Cola เธอมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการตัดสินใจสำคัญๆ ขององค์กรหลายครั้ง เช่น การขายกิจการ Tricon (ปัจจุบันคือ Yums! Brands บริษัทแม่ของ KFC และ Pizza Hut) ในปี 1997 และการซื้อกิจการ Tropicana แบรนด์น้ำผลไม้เก่าแก่ในปีถัดมา
ปี 2001 Indra ได้นั่งอี้ผู้บริหารระดับสูงเต็มตัวครั้งแรก ในตำแหน่งประธานฝ่ายการเงิน (CFO) โดยในปี 2006 ขึ้นเป็น CEO ของ Pepsi ต่อจาก Steven Reinemund ซึ่งเธอเผยว่านอกจากการทำงานอย่างจริงจัง และศึกษาข้อมูลที่จำเป็นจนกระจ่างแล้ว การกล้าแสดงความคิดเห็นที่แม่ปลูกฝังมาก็มีส่วนสำคัญต่อความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน
ส่วนผลงานสำคัญในฐานะผู้บริหารสูงสุดคือการแยกผลิตภัณฑ์ของบริษัทออกเป็น 3 กลุ่มอย่างชัดเจน ประกอบไปด้วย Fun For You ผลิตภัณฑ์หลักซึ่งผู้บริโภครู้จักดีอย่างน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยว
ตามด้วย Better For You ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใส่ใจสุขภาพอย่างเครื่องดื่มน้ำตาลน้อยกับขนมขบเคี้ยวแคลอรีต่ำ และ Good For You ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ อย่าง ข้าวโอ๊ตปรุงสำเร็จแบรนด์ Quaker และน้ำผลไม้ ซึ่งแน่นอนว่าทำให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมียอดขายเพิ่มขึ้น
Indra ซึ่งปีที่แล้วมีรายได้ถึง 31 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,023 ล้าบาท) ยอมรับว่า ตัวเองมาไกลมาก จากเด็กสาวชาวอินเดียที่เคยฝันถึงการเป็นผู้บริหาร ซึ่งสมัยทำงานแรกๆ มีสูทเพียง 2 ตัวเท่านั้น
การลงจากตำแหน่ง CEO ของ Indra ยังทำให้จำนวนผู้บริหารหญิงในกลุ่มบริษัทชั้นนำ 500 บริษัทของนิตยสาร Fortune (Fortune 500) ลดลงเหลือเพียง 24 คน เนื่องจากก่อนหน้านี้ Marissa Mayor, Irene Rosenfeld และ Meg Whitman ก็ประกาศลงจากตำแหน่งเดียวกันของ Yahoo, Mondalez และ Hewlett Packard/cnn, cnbc, forbes, business insider, wikipedia
–