ครบรอบ 3 ปี แบรนด์จีน “Hisense” ชิงแชร์ตลาดทีวีแล้ว 1.8-2% ทำรายได้รวมปีที่แล้ว 400 ล้าน ตั้งเป้าปี 62 มากกว่า 700 ล้าน เปิดแผนเพิ่มไลน์อัพสินค้ากลุ่มทีวี-ตู้เย็น ลุย Sport Marketing สนับสนุนฟุตบอลยูโร 2020 ขอสร้างการรับรู้เป็นอันดับแรก
มร.ยี่ เสี่ยวผิง (Mr.Yi Xiaobing) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเป็นการครบรอบ 3 ปี (ปี 2559) ที่แบรนด์ ‘จีน’ อย่าง “Hisense” ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
ปัจจุบัน “ไฮเซ่นส์” ทำตลาด 54 ประเทศทั่วโลก มีฐานการผลิตตั้งอยู่ในต่างประเทศ 5 แห่ง ศูนย์ R&D 7 แห่ง โดยไฮเซ่นส์เป็นแบรนด์ที่ติดอันดับทอปเท็นของ “BrandZ Top 10 Chinese Global Brand Builders” โดยไต่อันดับจากที่ 9 สู่อันดับที่ 6
ในประเทศจีน แบรนด์นี้ครองส่วนแบ่งตลาดทีวีเป็นอันดับ 1 ถึง 15 ปี และเป็นอันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่น
ส่วนตลาดในประเทศไทยปี 2561 บริษัททำรายได้กว่า 400 ล้านบาท เติบโต 300% จากปี 2560 และปัจจุบันบริษัทมีสินค้าเพียง 2 กลุ่มคือ ทีวีและตู้เย็น
โดยไฮเซ่นส์มีส่วนแบ่งตลาดทีวี 1.8-2% จากมูลค่าตลาดทั้งหมดราว 30,000 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดตู้เย็นบริษัทไม่ได้มีการเปิดเผย
เป้าหมายรายได้ของปี 2562 คือ เติบโตให้ได้เกือบ 2 เท่า หรือทำรายได้มากกว่า 700 ล้านบาท
ด้านฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้จะเพิ่มไลน์อัพสินค้าทั้งกลุ่มทีวีและตู้เย็นให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคตั้งแต่ระดับกลางถึงพรีเมียม
“กลุ่มทีวีที่ไฮเซ่นส์เพิ่มไลน์อัพคือ ขอขนาดใหญ่ 75 นิ้ว และ 65 นิ้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาขนาด 55 นิ้ว ถือเป็นขนาดมาตรฐานของผู้บริโภคไปแล้ว และจะเน้นไปที่รุ่น 4K” ฉันท์ชายกล่าว
“กลุ่มตู้เย็นที่เพิ่มไลน์อัพ จะเน้นขนาดใหญ่แบบตู้เย็น 2 ประตู และช่วงเปิดตัวจะนำเสนอโปรโมชั่นราคาที่ดึงดูดใจผู้บริโภค” นายฉันท์ชายเสริม
ด้านช่องทางจัดจำหน่าย บริษัทยังคงจับมือกับพาร์ตเนอร์หลัก ได้แก่ “เทสโก้ โลตัส” “โฮมโปร” และ “เพาเวอร์บาย” และในปี 2562 บริษัทเพิ่มพาร์ตเนอร์โดยจับมือกับมาร์เก็ตเพลสออนไลน์อย่าง “Lazada” “Shopee” และ “JDCentral” จากนั้นจึงขยายไปช่องทางโมเดิร์นเทรดอื่นๆ (Modern Trade)
ฉันท์ชายกล่าวถึงกลยุทธ์การตลาด Sport Marketing ว่า บริษัทเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือ UEFA EURO 2020
ประกอบกับกลยุทธ์การสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) รีวิวผลิตภัณฑ์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของสินค้า
สอดคล้องกับการวางจุดยืนของบริษัทคือ สร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค (Brand Awareness)
อย่างไรก็ตาม ฉันท์ชายกล่าวอีกว่า ในปี 2563 บริษัทมีแผนจะนำสินค้ากลุ่ม ‘เครื่องปรับอากาศ’ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
4 เทรนด์ทีวีปี 2562
(1) 4K TV: ทีวี 65 นิ้วมีการเติบโตจาก 18% ในปี 2561 เป็น 24% ในปี 2562
(2) HDR (High Dynamic Range)
(3) Technology TV อาทิ OLED TV, LCD TV แบบแบล็กไลต์, 4K Laser, 8K TV, MicroLED
(4) Smarter and Faster TV เช่น การดูหนังออนไลน์ Streaming หรือการสั่งงานทีวีด้วยเสียงอย่าง AI, Alexa, Google Assistant
–