ตั้งฮั่วเส็ง รายได้เท่าไร ? วิเคราะห์สถานการณ์ห้างดังในอดีตและกลยุทธ์ที่ทำให้ตั้งตระหง่านไม่สูญหายไปตามกาลเวลา
ใครเคยเดินผ่านไปผ่านมาแถวย่านเก่าแก่อย่าง “บางลำพู” คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาห้างสรรพสินค้าที่ชั้นล่างฝั่งหนึ่งเป็นโซนขายอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยและเครื่องสำอาง
ส่วนอีกฝั่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างครบครันที่มีชื่อว่า “ตั้งฮั่วเส็ง” เป็นแน่
ที่ในวันนี้ชื่อชั้นของ ตั้งฮั่วเส็งอาจจะดูแผ่วไปไม่เหมือนในอดีต เพราะหากสังเกตตั้งฮั่วเส็งสาขาแรกที่บางลำพูจะพบว่าจำนวนลูกค้าที่เดินเข้า-ออก ไม่ได้มีมากเหมือนเดิมอีกแล้ว รวมถึงรายได้ที่ลดลงเรื่อยๆ
และหากลองถามเด็กรุ่นใหม่จะมีสักกี่คนกันที่รู้จัก “ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง”
แต่ถ้าหากถามรุ่นพี่ ป้า น้า อา แล้วคงไม่มีใครไม่รู้จักห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
เพราะว่า ตั้งฮั่วเส็งก่อตั้งขึ้นในปี 2505 ของ ’ตระกูลจุนประทีปทอง’ แรกเริ่มดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย เครื่องสำอาง ผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ จากนั้นให้หลังกว่า 10 ปี จึงค่อยๆ ขยายมาเป็นแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต เครื่องไฟฟ้า เครื่องเขียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องแต่งกายบุรุษ-สตรี
ในปี 2534 ขยายสาขาจากสาขาแรกที่อยู่แถวบางลำพู มาเป็นสาขา 2 บนถนนสิรินธร ย่านบางพลัด เป็นอาคารพาณิชย์ 10 ชั้น มีพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร
มาจนถึงวันนี้ “ตั้งฮั่วเส็ง” ก็อยู่คู่คนไทยมาเกือบจะครบวัยแซยิด เพราะ มีอายุถึง 57 ปีแล้ว และอยู่ในมือของทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลอย่าง ‘วิโรจน์ จุนประทีปทอง’
แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป มีห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต มินิมาร์ทใหม่ๆ ขึ้นมาตอบโจทย์ผู้บริโภคมากมาย ห้างเก่าแก่อย่างตั้งฮั่วเส็งที่เราไม่ค่อยได้เห็นการทำตลาดสักเท่าไร ดูเหมือนจะสู้ศึกค้าปลีกในยุคนี้ได้ไม่ง่ายนัก
เพราะเมื่อย้อนดูตัวเลขรายได้ของ ตั้งฮั่วเส็ง นั้นลดลงเรื่อยๆ แถมยังขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมามีรายได้ไม่ถึง 1 พันล้านเหมือนที่เคยทำได้ในอดีตอีกต่อไปแล้ว
ถึงแม่ตัวเลขสีแดงในพอร์ตจะไม่น่าแฮปปี้เท่าที่ควร แต่มองว่าสิ่งที่ทำให้ ‘ตั้งฮั่วเส็ง’ ยังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ มองว่าเพราะ
– ตั้งฮั่วเส็งมีโพสิชั่นนิ่งของตัวเองที่ชัดเจนด้วยการชูจุดแข็งที่เป็นจุดเริ่มต้นของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้คือ อุปกรณ์เย็บปักถักร้อย ของตกแต่งประดิดประดอย อุปกรณ์งานฝีมือ
ที่ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของห้างแห่งนี้ก็ยังเป็นกลุ่มเดิมคือ “กลุ่มคุณแม่บ้าน” มีโอกาสได้ลองไปเดินตั้งฮั่วเส็งทั้ง 2 สาขา ก็จะเห็นกลุ่มคุณป้าแม่บ้านมาเดินกันเสียส่วนใหญ่
นอกจากจุดแข็งในเรื่องอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย ของตกแต่งประดิดประดอยแล้ว ในห้างเองก็ยังมีคอร์สงานฝีมือต่างๆ ให้เหล่าแม่บ้านได้มานั่งทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
ทำให้ “LIZ” บริการอุปกรณ์งานฝีมือจากต่างประเทศและในประเทศ เป็นหนึ่งในไลน์ธุรกิจด้านงานฝีมือของตั้งฮั่วเส็งที่มีออกไปวางจำหน่ายยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (ปัจจุบันมีสาขาดังนี้ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม, เดอะมอลล์ รามคำแหง, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ ท่าพระ, เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และโตคิว)
– แม้แม่ทัพใหญ่อย่าง ‘วิโรจน์ จุนประทีปทอง’ ยังคงจุดแข็งของห้างตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอะไร
และเพราะรู้ว่าสงครามห้างค้าปลีกมีการแข่งขันกันรุนแรงและการขยายสาขาใหญ่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์
ในปี 2549 ตั้งฮั่วเส็งจึงขยายสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตไซส์เล็กลงไปตามชุมชน หรือโซนที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น โดยใช้ชื่อที่ทันสมัยขึ้นอย่าง “Get it” แต่ก็ดูเหมือนว่ายังจับจุดไม่ถูก และไม่ได้ขยายสาขาตามที่เคยวางเป้าเอาไว้
สิ่งที่ทำได้คือ การเลือกปิดบางสาขา และรีโนเวตบางสาขา เพื่อควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย และปรับพื้นที่ควบคู่ไปกับส่วนบริการอำนวยความสะดวกลูกค้าอื่นๆ
และในปี 2554 ยังได้รีโนเวต ตั้งฮั่วเส็งสาขาธนบุรี พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “T-Square” ในคอนเซ็ปต์ Creative Lifestyle Center ให้ดูทันสมัย และจดจำง่ายขึ้นเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้มีช่วงวัยที่กว้างขึ้น
– นอกจากรายได้ที่มาจากดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ปัจจุบันตั้งฮั่วเส็งยังมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ลานกิจกรรมภายในห้างสาขาธนบุรีที่ได้รีโนเวตไปก่อนหน้านี้อีกด้วย
ปัจจุบันตั้งฮั่วเส็ง รวมถึงเก็ทอิท มินิมาร์ท มีทั้งหมด 8 สาขา
ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาบางลำพู
ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี
ตั้งฮั่วเส็งมินิมาร์ท สาขาโรงพยาบาลศิริราช อาคารเฉลิมพระเกียรติ
เก็ทอิทซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาโรงพยาบาลเด็ก
เก็ทอิท ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
เก็ทอิทซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาอิมเมจมอลล์ พุทธมณฑลสาย 4
เก็ทอิท ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาหมู่บ้านเศรษฐกิจ
เก็ทอิท ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาบางกรวย
– ราคาสินค้า และบัตรสมาชิกของตั้งฮั่วเส็งคืออีกหนึ่งจุดเด่น เพราะสินค้าที่ห้างแห่งนี้มีราคาถูกกว่าที่อื่น รวมถึงการเป็นสมาชิกที่ห้างใช้กลยุทธ์สมัครฟรี และแต้มไม่มีวันหมดอายุมาเป็นจุดขาย และถึงแม้ภาพรวมของห้างจะดูโบราณ แต่ห้างแห่งนี้ก็ยังมีเว็บไซต์ให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของผ่านออนไลน์ในเว็บไซต์ของห้างเองเช่นกัน
นอกจากราคาสินค้าจะถูกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือ ตั้งฮั่วเส็งจะมีขายสินค้าแบบคลาสสิกที่ใช้ในสมัยก่อน ที่ปัจจุบันอาจจะหาซื้อไม่ได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป นอกจากตามร้านโชห่วยต่างๆ
ซึ่งเกมลดราคาสินค้า หรือการขึ้นป้าย sale ต่างๆ ในระยะยาว หรือทำโปรโมชั่นมากมายนั้นตั้งฮั่วเส็งอาจจะสู้ห้างค้าปลีกรายอื่นๆ ไม่ได้
แต่มองว่าสิ่งที่ทำได้คือการ “แบรนดิ้ง” ของห้างสรรพสินค้ามากกว่า
ใครยังไม่เคยไปเดินตั้งฮั่วเส็ง ห้างสรรพสินค้าอายุ 57 ปีนี้คงต้องลองไปเดินดูกันสักครั้ง
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /