Estella ใช้เวลากว่า 2 ปีในศึกษาและการตัดสินใจมาเป็น Exclusive Dealer กับ Asfour ผ่าน 3P (1) Product ตรวจสอบมาตรฐานวัตถุดิบ โรงงาน แพ็กเกจ กระบวนการส่งออก (2) Price ราคาสมเหตุสมผลกับกลุ่มลูกค้า (3) Permission การตัดสินใจ ความเห็นชอบของกลุ่มลูกค้าและหุ้นส่วน
ภัทรจิตรา พิชญวิศิษฏ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเทลล่า เพรสทิจ จำกัด กล่าวว่า บริษัทดำเนินการมามากกว่า 20 ปีและเพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า “คริสตัลของบริษัทเป็นคริสตัลแท้ 100%” จึงได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทยในการเป็น Exclusive Dealer กับ แบรนด์แอสโฟร์ Asfour
ปัจจุบันเอสเทลล่าเป็นตัวแทนจำหน่ายโคมไฟคริสตัลแท้ชั้นนำหลายแบรนด์จากยุโรป เช่น Euroluce, Copenlamp, Iris, Cristal, Novaresi, Pedret และ Castro Lighting นอกจากนี้ ยังเป็น Exclusive Lighting Partner กับโคมไฟสวารอฟสกี้ Swarovski
จุดเด่นของแอสโฟร์ คือ การผลิตคริสตัลจากทรายที่มีคุณภาพจากแถบทะเลอียิปต์ ที่มีส่วนผสมของเหล็กอยู่น้อย และใช้ตะกั่วออกไซด์เป็นส่วนผสมมากกว่า 30% มากกว่าคริสตัลแท้ทั่วไปที่มีเพียง 24% ตามมาตรฐานกำหนดความเป็นคริสตัลแท้ 100%
“Asfour มีประสิทธิภาพการผลิต และมาตรฐานโรงงานที่สามารถผลิตคริสตัลได้มากกว่า 120 ตันต่อวัน”
ทั้งนี้ เอสเทลล่า มีลูกค้าเป็นกลุ่มเจ้าของบ้าน 80% และกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์ 20% โดยคาดว่าปี 2562 ยอดขายทั้งปีจะเติบโต 30% จากปีที่ผ่านมาเนื่องจากได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ามากขึ้น และจากการร่วมมือกับแอสโฟร์ และการเติบโตของที่อยู่อาศัยระดับบน
สำหรับสัดส่วนลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้าน 80% มีอัตราการซื้อต่อคนอยู่ที่ 1-1.2 แสนบาท คิดเป็นงบในการที่ลูกค้าใช้แต่งบ้านที่ 5-10% และสัดส่วนอสังหาฯ 20% เกิดจากลูกค้าไม่สามารถที่จะเลือกปรับสินค้าให้ตรงกับสไตล์ รสนิยม ความต้องการ จึงตัดสินใจมาเลือกซื้อสินค้าเอง
สำหรับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันหันมาแต่งบ้านมากขึ้น อาจจะเกิดจากการ Educate ตลาดที่มากขึ้น แม้เศรษฐกิจโดยรวมอาจจะมีผลกับลูกค้า แต่ไม่ได้ส่งผลกับลูกค้าที่เป็นระดับกลาง-บน มากนัก
“อนาคตมีแผนที่จะขยายสาขาออกไปให้ได้ปีละ 1 สาขา โดยขยายออกไปภายใต้แบรนด์สินค้านั้นๆ โดยทำเลที่น่าสนใจตอนนี้คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งย่านหัวเมืองต่างๆ” ภัทรจิตรากล่าว
มร.อับเดลรามัน วาริด แอสโฟร์ กรรมการบริหาร บริษัท แอสโฟร์ คริสตัล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การแต่งตั้งให้เอสเทลล่าเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย Exclusive Dealer จะทำให้แอสโฟร์สามารถขยายตลาดในประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นฐานขยายตลาดเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังมีการเติบโตไปได้ด้วยเช่นกัน
“ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่เข้ามาขยายตลาดในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอนาคตคาดว่าจะเป็น Hub ศูนย์รวมในการขยายไปยังประเทศต่างๆ อาทิ เวียดนาม (ดำเนินการแล้ว 3 เดือน) ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย”
ภัทรจิตรากล่าวอีกว่า “เรามีมุมมองว่า ตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ที่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปจะยังมีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าในอนาคตตลาดระดับกลาง-บน จะมีการขยายตัวมากขึ้น สำหรับลูกค้าเอสเทลล่าส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีศักยภาพ เป็นผู้มีรสนิยมและซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง”
ผู้เขียน ทยากร ทองสุวรรณ์
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ