ประวัติมาสด้า เปิดที่มาของแบรนด์มาสด้า รถญี่ปุ่นดีไซน์เท่ที่ออกสตาร์ทจากจุกไม้คอร์ก
เกือบศตวรรษมาแล้วที่อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นขุมพลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจญี่ปุ่นและยังเป็นทัพหน้าพา Japanese Brand ให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกความเป็นชาติมหาอำนาจในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังยืนยันได้จากการจัดอันดับแบรนด์รถมูลค่าสูงสุดในโลก 30 อันดับแรกปีนี้ของ Brand Directory เกือบ 1 ใน 3 เป็นแบรนด์รถญี่ปุ่น โดย Mazda ก็เป็นหนึ่งในนั้น
แม้ยอดขายและมูลค่าแบรนด์ตามหลังแบรนด์รถญี่ปุ่นอื่นๆ แต่ Mazda ก็ยังมีความน่าสนใจหลายด้าน ทั้งตัวผู้ก่อตั้งเอง จุดเริ่มต้นห่างจากความเป็นแบรนด์ยานยนต์อย่างมาก ดีไซน์รถที่สะดุดตาอยู่เสมอและการคว้าตำแหน่ง “รถซิ่ง” สองที่นั่งที่ขายดีสุดในประวัติศาสตร์
อดีตโรงงานจุกไม้คอร์กที่ขอติด ‘เครื่องยนต์’จนกลายเป็นแบรนด์รถดัง
Mazda เริ่มจากการเป็นบริษัทผลิตจุกไม้คอร์กปิดขวดในปี 1920 ภายใต้ชื่อ โตโย โคเกียว ซึ่ง จูจิโร่ มัตซุดะ ซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิมในเมืองฮิโรชิม่า หลัง มัตซุดะ อยากกลับมาทำธุรกิจในภูมิลำเนาเดิมหลังห่างบ้านไปสร้างตัวจนเป็นเศรษฐีจากการเป็นเจ้าของโรงหล่อและโรงงานผลิตปืนที่เมืองอื่นอยู่หลายปี
จูจิโร่ มัตซุดะ ผู้ก่อตั้ง Mazda
แต่เมื่อจุกไม้คอร์กเสื่อมความนิยมในปี 1930 โตโย โคเกียวจึงเปลี่ยนไปผลิตอุปกรณ์ในวงการอุตสาหกรรมแทน ช่วงเวลาดังกล่าวโรงงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นต่างมีความทะเยอทะยานในการเอาชนะเทคโนโลยีของชาติตะวันตก ซึ่งโตโย โคเกียว ก็เป็นหนึ่งในนั้น
มัตซุดะ ซึ่งมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกได้สั่งให้ทีมวิศวกรสร้างรถจักรยานยนต์ เพื่อลงแข่งในรายการ ชินคอน-โนะ มัตซุริ ที่คู่แข่งอันดับ 1 ไม่ใช่โรงงานญี่ปุ่นด้วยกันแต่เป็น Ariel ของอังกฤษ ซึ่ง ณ ขณะนั้นคือแบรนด์จักรยานยนต์ที่เร็วสุดเร็วโลก
สามล้อเครื่อง Mazda-Go
ปรากฏว่าจักรยานยนต์ขนาด 250cc ซึ่งโตโย โคเกียว สร้างขึ้นเอง ชนะจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษมาได้ จากนั้นสองล้อเครื่องแรงคันนี้ ก็กลายเป็นต้นแบบให้รถสามล้อยนต์ในชื่อ Mazda-Go ที่ถูกผลิตออกมาราว 30 คันและต่อมาจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้โรงงานจุกไม้คอร์กพัฒนาไปเป็นแบรนด์ยานยนต์
ประวัติมาสด้า
ข้ามมาถึงยุค 60 โตโย โคเกียว รุกสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเลือก Mazda ซึ่งใกล้เคียงกับชื่อเทพแห่งแสงของ โซโรอัสเตอร์ ศาสนาเก่าแก่และออกเสียงพ้องกับชื่อของผู้ก่อตั้งเป็นชื่อแบรนด์ มี Mazda 360 รถขนาดกะทัดรัดเป็นรถรุ่นแรก ตามด้วย Mazda Carol ที่มีขนาดและรูปทรงใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย
Mazda 360 รถยนต์รุ่นแรกของ Mazda
Mazda ปิดท้ายยุค 60 อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการพา Mazda Cosmo ที่พัฒนาร่วมกับ NSU ค่ายรถเก่าแก่ของเยอรมนี ลงแข่งและเข้าเส้นชัยในรายการ Marathon de la Route ที่เน้นความทรหดของเครื่องยนต์ ได้สำเร็จ
ในยุค 70 แม้ยังคงชื่อ โตโย โคเกียว ไว้แต่ในทางปฏิบัติอดีตบริษัทผลิตจุกไม้คอร์กและอุปกรณ์อุตสาหกรรมแห่งนี้ได้กลายเป็นบริษัทรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mazda แล้วอย่างเต็มตัว โดยเริ่มขยายสู่ต่างประเทศแล้ว ประเดิมด้วยแคนาดากับสหรัฐฯ ส่วนในญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่าน Tie-in รถรุ่น Mazda Cosmo ใน The Return of Ultraman (Ultraman Jack) ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ตระกูล Ultraman
ยุค 70 ยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ Mazda ในทางธุรกิจอีกด้วย เพราะต้องเผชิญทั้งวิกฤตการณ์น้ำมันในปี 1973 และหนี้สะสมก้อนโตที่เสี่ยงทำให้ล้มละลายในอีก 2 ปีถัดมา แต่ก็ผ่านพ้นมาได้จากการช่วยเหลือของธนาคารซูมิโตโม่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น และ Ford ค่ายรถอเมริกันซึ่งเริ่มเข้ามีบทบาทด้วยฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้น
ส่วนในยุค 80 มีสองเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับ Mazda เริ่มจากเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Mazda อย่างเป็นทางการในปี 1984 และการส่ง Mazda MX-5 รถทรงสปอร์ต 2 ที่นั่งลงตลาดในปี 1989 ซึ่งหลังทำยอดขายได้ถึงกว่า 530,000 คันในปี 2000 ทางสถาบันจัดอันดับ Guinness ยกให้ MX-5 เป็นรถทรงสปอร์ต 2 ประตูที่ขายดีสุดในประวัติศาสตร์
ปัจจุบัน Mazda ถือเป็นแบรนด์รถญี่ปุ่นที่ทั้งคอรถและคนทั่วไปรู้จัก ผ่านรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ขับสนุกและเครื่องแรง ส่วนในทางธุรกิจก็อยู่ช่วงขาขึ้นไม่ต่างจากรถแรงที่เร่งเครื่องได้แบบไม่สะดุด โดยเมื่อปีงบประมาณ 2018 (ราวมีนาคมปีเดียวกัน) ทำยอดขายทั่วโลกได้ 1,631,000 คัน ขึ้นมา 5% จากปีงบประมาณก่อน และเป็นการเพิ่มขึ้น 3 ปีงบประมาณติด
ส่วนรุ่นที่ขายดีสุดคือตระกูล CX ขายได้เพิ่มขึ้นกว่าปีงบประมาณก่อนหน้าถึง 46% สำหรับในเรื่องมูลค่านั้น Mazda ไม่เคยหลุดจากตำแหน่งแบรนด์รถขายดีที่สุดในโลก 30 อันดับแรกมาตั้งแต่ปี 2013 โดยปีนี้อยู่ในอันดับที่ 29
MX-5 : พระเอกจากยุค 80 ที่พา Mazda เจาะตลาดรถสปอร์ต
เพื่อให้สามารถสู้กับแบรนด์อื่นๆ ได้และชิงส่วนแบ่งตลาด Mazda จึงมีรถมากมายหลายรุ่นหลายประเภท แต่รถที่สร้างชื่อให้แบรนด์ได้มากสุดคือ MX-5 เพราะเป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่ง ที่ได้ชื่อว่าขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว
ที่มาของรถรุ่นนี้เริ่มจาก ปี 1981 Mazda ต้องการเจาะตลาดรถสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง ประเดิมในสหรัฐฯ ก่อน หลังรถรุ่นนี้ของแบรนด์อังกฤษและอิตาลีเสี่อมความนิยมลงไป เคนิชิ ยามาโมโต้ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา Mazda ในขณะนั้น ให้โจทย์ Bob Hal หัวหน้าทีมวางผลิตภัณฑ์คนใหม่ชาวอเมริกันผู้ชื่นชอบรถญี่ปุ่นให้ออกแบบรถสปอร์ตน้ำหนักเบา
Bob Hal (ด้านใน) และ Mark C. Jordan (ด้านนอก)
แม้โครงการนี้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แต่ก็ไม่เคยหยุด โดยระหว่างทาง Hal ได้ ซึโตมุ มาตาโนะ และ Mark C. Jordan นักออกแบบรถชาวญี่ปุ่นและอเมริกัน มาเป็นกำลังสำคัญ พอถึงปี 1985 โครงการก็ได้ไฟเขียวให้เดินหน้าได้เต็มกำลังเพราะ ยามาโมโต้ ที่เลื่อนขึ้นมาเป็นประธาน Mazda อยากมีผลงานฝากเอาไว้
ในที่สุดปี 1989 Mazda MX-5 ซึ่งในสหรัฐฯ และยุโรป เรียกกันในชื่อ Miata (หมายถึงรางวัลในภาษาเยอรมัน) ก็เปิดตัว โดยปรากฏว่า ด้วยดีไซน์สะดุดตา น้ำหนักเบา ไฟหน้าแบบที่ซ่อนกลมกลืนไปกับตัวถังรถแต่จะเปิดออกเฉพาะเมื่อใช้งานและราคาถูกรถรุ่นเดียวกันอยู่พอสมควร ยอดขายของ Mazda MX-5 จึงวิ่งฉิวไม่หยุด
MX-5 ยังได้รับรางวัลมากมายและมีการพัฒนารุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน/autowise, automotiveworld, hagerty, mazda, branddirectory, autogratis, wikipedia
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ