เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิดมากน้อยแค่ไหน ?

โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ และลานสเกตน้ำแข็ง ถูกปิดเพราะฤทธิ์ของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563

แล้ววันนี้ก็ยังไม่มีกำหนดเปิดเพราะถือเป็นธุรกิจบันเทิงที่มีความเสี่ยงสูง ทางเมเจอร์ก็เตรียมความพร้อมด้านมาตรการต่างๆ เพื่อให้คนดูได้รับความปลอดภัยที่สุดวนไปในหลายๆ เรื่องเพื่อรอเวลา

พร้อมๆ กับลดต้นทุนด้วยการเลิกจ้างพนักงานเดินตั๋ว ปรับลดเงินเดือนพนักงานประจำ เป็นเรื่องที่บริษัทได้ทำไปตั้งแต่เดือนมีนาคม

ส่วนแผนการเปิดสาขาใหม่ ปีนี้ราว 13 แห่ง โดยมีโรงภาพยนตร์ 30-40 โรง ทั้งในไทยและต่างประเทศคงต้องหยุดไว้ก่อน

ช่วงเวลาทองของเมเจอร์เองก็กำลังจะผ่านไปเพราะปกติแล้วไตรมาส 2 จะเป็น high season ที่จะมีหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ดทยอยเข้ามาฉาย

และจะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการของเมเจอร์สวยงามที่สุดแห่งปี

แต่เพราะพิษโควิด-19 ทำให้หนังฟอร์มยักษ์แทบทุกเรื่องประกาศเลื่อนฉายออกไปไปในช่วงปลายปีหรือปีหน้า

ในขณะที่รายได้หลักส่วนใหญ่ของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มาจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ หรือจากการขายตั๋วหนัง เครื่องดื่ม และป๊อปคอร์นถึง 74%

แต่ตอนนี้คงต้องบอกว่า ใครคิดถึงหนังก็สั่งป๊อปคอร์นสูตรลับเฉพาะของเมเจอร์ฯ ไปรับประทานก่อนแล้วกัน

ย้อนกลับไปดูผลประกอบการของบริษัทนี้จะพบว่ารายได้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ากำไรจะยังคงที่ จากการขยายสาขาต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ เพราะตั้งเป้าไว้ว่า ปี 2568 จะต้องมีโรงหนังให้ครบ 1,200 โรง ครอบคลุมทั่วประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม CLMV (ปัจจุบันมีทั้งหมด 812 โรง)