Lenovo เปิดเกมรุกตลาด พร้อมมัดใจลูกค้าด้วย Premium Service (วิเคราะห์)
คนในแวดวงไอทีประเทศไทย คงคุ้นหน้าคุ้นตากับผู้บริหารหนุ่มท่านนี้เป็นอย่างดี ด้วยหลากหลายบทบาทคร่ำหวอดในวงการมากว่า 2 ทศวรรษ ตั้งแต่สายงานผู้ผลิต โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ตลอดจนตัวแทนจำหน่าย และในวันนี้กับบทบาทใหม่ที่ บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จํากัด หนึ่งในผู้นำแห่งวงการไอที
ตอบโจทย์ครอบคลุมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
Lenovo เป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลก และมีความพร้อมที่จะตอบโจทย์เทรนด์ของตลาดโลก”
วรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการประจำประเทศพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ ประจำประเทศไทย เลอโนโว ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ มกราคม 2563 ที่ผ่านมา กล่าวกับ Marketeer ถึงประเด็นหลักในการเลือกรับภารกิจใหม่ดูแลผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ในไทย ตลอดจน 3 ตลาดเพื่อนบ้านอย่าง พม่า ลาว และกัมพูชา
“ผมศึกษาด้านบริหารระหว่างประเทศ และบริหารจัดการองค์กร และมีโอกาสทำงานหลากหลายตั้งแต่การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และอยู่ในแวดวง IT คอมพิวเตอร์มากว่า 20 ปี ทั้งในบริษัทที่เป็นผู้ผลิต และในบริษัทที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้า IT ซึ่งที่ผ่านมาได้ดูแลทั้งในด้านการตลาด การขาย การบริการ การพัฒนาองค์กร และเมื่อได้รับการทาบทามจากเลอโนโวให้เข้ามาช่วยดูแลในส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ของไทยก็รู้สึกสนใจ เพราะไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก สำหรับเลอโนโว และก็เป็นตลาดที่คึกคัก มีการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสูง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นความท้าทายที่ผมชอบเพราะจะได้เอาประสบการณ์ที่มีมาใช้ได้อย่างเต็มที่ บวกกับได้มีโอกาสดูแลในอีก 3 ตลาดเพื่อนบ้านคือ พม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งก็น่าสนใจเพราะเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ดูจากอัตราการโตของ GDP ก็สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
อีกปัจจัยหนึ่งที่ผมมองแบรนด์เลอโนโวก่อนที่จะตัดสินใจมาร่วมงานคือ เลอโนโวเป็นบริษัทที่พร้อมมาก ตั้งแต่สินค้าที่นำเสนอ วันนี้ Lenovo ไม่ได้ขายแค่สินค้าที่จับต้องได้เพียงอย่างเดียว เรายังมีซอฟต์แวร์โซลูชั่น มีการบริการ มีระบบ infrastructure และอื่น ๆ คือเรียงตั้งแต่โน้ตบุ๊ก เดสก์ทอป ที่เป็นอันดับ 1 ของโลก สมาร์ทโฟนที่มีการ Integration กับ Motorola มีผลิตภัณฑ์ เวิร์กสเตชัน สตอเรจ เซิร์ฟเวอร์ ซอฟต์แวร์ ศูนย์บริการ ตลอดจนเทคโนโลยีล้ำสมัยหลาย ๆ อย่างบนระบบ IoT ซึ่งเรียกว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้กว้าง ครบวงจร
ผมมองว่าเทรนด์ของตลาดโลกที่กำลังถูก disrupt and transform ด้วยเทคโนโลยี กับนโยบายของ Lenovo Worldwide ไปด้วยกันได้ดี น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจในจุดที่รับผิดชอบได้”
นำเสนอ Smarter Technology For All
พร้อมบริการแบบ End to End
เมื่อมองย้อนไปจะเห็นว่า Lenovo เป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวจีน ซึ่งวันนี้จีนเป็นประเทศที่ Disrupt อุตสาหกรรมไอทีทั่วโลก
“เราก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2527 และเติบโตอย่างรวดเร็ว และ Lenovo มีวัฒนธรรมองค์กรอย่างหนึ่งคือ เรายึดถือในสิ่งที่เราให้สัญญากับคู่ค้าและลูกค้า และนำเสนอสิ่งที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความแปลกใจได้อยู่เสมอ ซึ่งเราเรียกสิ่งนี้ว่า ‘Smarter Technology For All’ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ Smarter Technology คือเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นเรื่อย ๆ ช่วยพัฒนาไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันให้ง่ายและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์จากเลอโนโว ซึ่งเรามีความพร้อมในสินค้าแบบครบวงจร หรือ End to End
ดังเห็นได้จากสถานการณ์ COVID-19 วันนี้ Smart Technology มีผลมาก ๆ เช่น การทำงาน Work From Home ซึ่งคนที่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ Lenovo จะเห็นได้ชัดเจนว่า ของเราต่างจากยี่ห้ออื่น ทั้งในเรื่องการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการ boost ที่รวดเร็ว ระบบตัดเสียงรบกวนขณะประชุมออนไลน์ ความคล่องตัวต่อการเคลื่อนย้าย และการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์เสริมอื่น ๆ เพื่อการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ เรื่องของระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งสำคัญมาก การเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยที่อัจฉริยะ ทั้งระบบสแกนหน้า ลายนิ้วมือ ระบบกล้องอัจฉริยะ เรามีการประมวลผลด้วย AI เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์กล้องสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิเราก็มี เลอโนโวมีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Smarter Technology For All อย่างแท้จริง และในอนาคตอันใกล้ เราจะเข้าไปสู่ IoT อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราได้เปิดตัวแผนกนี้ออกมาแล้วทั่วโลก”
Services led รองรับทุกความต้องการ แบบ Customize
“เรากำลังเติบโตไปในทางของ Services-led Organisation เน้นการให้บริการที่ทันสมัยแบบ Customize เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม”
วรพจน์กล่าวเสริมถึงการนำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจอยู่เสมอ
“การให้บริการเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ วันนี้ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก เป็น Tailor Made หรือ Customization ต้องให้บริการที่เหนือความคาดหมาย คนต้องการการให้บริการที่เกินคาด ซึ่ง Lenovo มีสินค้าที่พร้อมปรับให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ เห็นได้จากในไลน์อัพสินค้าของเรา
ยกตัวอย่าง โน้ตบุ๊ก ซึ่งเป็นสินค้าหลัก เราตอบสนองทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ Entry Level เป็นรุ่นราคาย่อมเยาสำหรับการศึกษา ไม่ถึงหมื่น หรือหาก On The Go แบบแท็บเล็ต เรามีระดับเริ่มต้นราคาเพียง 3-4 พันบาท ซึ่งเติบโตมากในช่วง 3 เดือนของ COVID-19
ในระดับราคากลาง สินค้าของเราใส่เทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทำร่วมกันกับพาร์ตเนอร์ ไม่ว่าจะเป็น AMD หรือ Intel เช่น โน้ตบุ๊กซีรีส์ใหม่อย่าง IdeaPad Slim 3, IdeaPad Slim 5 และหากเป็นกลุ่มที่ต้องการ Executive ต้องการแบบ thin & light บางเบา ประสิทธิภาพสูง พกพาสะดวกทุกที่ แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
สินค้าแบบพรีเมียม ของเราก็พร้อมตอบโจทย์ในตระกูลของ Yoga ส่วนกลุ่มที่ต้องการสินค้ากลุ่มไฮบริด กลางวันทำงาน กลางคืนอยากเล่นเกม ส่วนนี้เราเติบโตอย่างมาก เราเปิดตัว Legion Family ซึ่งจะมีตระกูลแยกย่อยลงไปอีกมากมาย”
ไม่เพียงแต่สินค้า ในเรื่องของโปรโมชั่นก็ยังทำแบบ Customize อีกด้วย
“ด้วยความที่สินค้าตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลาย ในแง่ของโปรโมชั่นเราก็ทำโปรโมชั่นในแบบ Tailor Made ให้กับลูกค้า ทุกกลุ่มจะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มนักศึกษาก็จะได้สิทธิ์อย่างหนึ่งแบบที่เขาพึงจะได้ที่สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งาน หรือกลุ่มผู้ใช้งานที่ Work From Home เราก็จะมีแพ็กเกจพิเศษให้ ส่วนคนเล่นเกมเราก็มีโปรแรงบางอย่างให้สอดคล้องกับคอเกม
เราทำทุกอย่างเป็น Customize หมด เน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง และด้วย Smarter Technology For All ที่นำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม ทุกรูปแบบ และ services-led organization ที่ดูแลบริการอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละบุคคล ผมเชื่อว่านี่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นการเข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้า และนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าได้”
บริการไร้รอยต่อ พร้อมรับ 5G สมบูรณ์แบบ
ด้วยประสบการณ์ในแวดวงไอทีกว่า 20 ปี วรพจน์วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน พร้อมถอดความต้องการได้อย่างน่าสนใจ
“วันนี้มีการพูดถึง 5G ซึ่งประเทศไทยก็ไปได้อย่างรวดเร็ว วันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคด่วนง่าย ใจเร็ว รอไม่ได้ ซึ่งเทคโนโลยีต้องตามให้ทัน ซึ่งเทคโนโลยีที่สนองตอบความรวดเร็วขนาดนั้นได้คือ 5G และสินค้าเราก็ตอบโจทย์พร้อมใช้งานกับ 5G ควบคู่ไปกับบริการที่ไร้รอยต่อ
อย่างตระกูล Legion มาพร้อมการเชื่อมต่อที่เร็วมาก ภายใต้เทคโนโลยี Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของ Wi-Fi เพราะวันนี้เกมเมอร์เล่นเกมกัน ถ้าดาต้าอัปโหลด ดาวน์โหลด หรือสตรีมมิ่งช้า มีผลทันที ซึ่งเทคโนโลยีตรงนี้ตอบโจทย์ได้
ส่วนเรื่องของบริการนั้น ผมเชื่อว่าลูกค้าต้องการให้บริการที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกแบบ ซึ่งที่เรานำเสนอนั้น เป็นสุดยอดการให้บริการ เราประกันการเกิดอุบัติเหตุ และเรายังมองว่า ‘การซ่อม ไม่ใช่แค่ซ่อมแล้วจบ’ แต่เราทำ Onsite Service และมี Call Center 24 ชั่วโมง 7 วัน ที่จะตอบได้ทุกเรื่อง และแก้ปัญหาให้คุณได้ทันที โดยการดูแลของทีมวิศวกรโดยตรง และเรายังมีเครื่องให้ใช้ระหว่างซ่อมอีกด้วย
คุณค่าที่หลากหลายเหล่านี้ คือ Premium Service ซึ่งในตลาดยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่คือสิ่งที่เราคิดให้แตกต่าง เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน”
ไฮไลต์สินค้าหลากหลาย ภายใต้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างจาก Lenovo
เมื่อดูจากไลน์อัพโปรดักส์ จะเห็นว่าปีนี้ Lenovo ยกทัพสินค้ามากมายมานำเสนอให้กับลูกค้า ครบไลน์ ครอบคลุมในทุกความต้องการ โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจมากมาย
“สำหรับประเทศไทยในช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา เราเห็นได้อย่างชัดเจนถึงการเติบโตของตลาด IT devices เนื่องมาจากความต้องการใช้งานอุปกรณ์ IT และเทคโนโลยีทั้งเพื่อรองรับการทำงานแบบ WFH และการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งเลอโนโวเองเรามีทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่พร้อมรองรับความต้องการของผู้บริโภคในทุก ๆ กลุ่มอยู่แล้ว นี่คือข้อที่ทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนได้อย่างทันท่วงที
ยกตัวอย่างในส่วนไลน์อัพของผลิตภัณฑ์เราก็เริ่มตั้งแต่ ตัว Entry Level เราก็มี IdeaPad ซึ่งแน่นอนว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้ประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้อย่างครบถ้วน ในราคาที่เอื้อมถึงได้ อย่างรุ่น IdeaPad Slim 3i กับ IdeaPad Slim 5i ซึ่งนอกเหนือจากฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วนแล้ว ก็ยังเป็นครั้งแรกที่เราทำตัวเครื่องให้ได้บางเบาระดับนี้ น้ำหนักเริ่มต้นไม่ถึง 2 กก. และในบางรุ่น CPU ยังเป็น Gen ล่าสุดของทั้ง Intel และ AMD
นอกจากนี้ ยังมีตระกูล Yoga ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมียม เป็นซิกเนเจอร์ของเรา จุดเด่นคือ ประสบการณ์ใช้งานระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็นสเปก ความบางเบา เทคโนโลยี ฟีเจอร์ทั้งหมด และแบตเตอรี่คงทน ที่สำคัญอีกส่วนคือดีไซน์ที่สวยงาม เรียบหรู สะดุดตา
สำหรับคอเกม เราก็มีผลิตภัณฑ์ตระกูล Lenovo Legion ที่จัดงาน Legion the New Episode เปิดตัวรุ่นต่าง ๆ เรามีตั้งแต่ Entry Level คือ Lenovo IdeaPad Gaming สำหรับคอเกมที่ทำงานเป็นหลัก เล่นเกม 30% ซึ่งเร็วมากในแง่การทำงาน พร้อมเล่นเกมได้อย่างสะดวก ในราคาที่ถูกมากสำหรับสเปก Gaming
ส่วน Lenovo Legion 5 เป็นครั้งแรกที่เรามีให้เลือกทั้ง AMD Gen4000 หรือ Intel Gen10 ซึ่งเราใช้เทคโนโลยี CPU ที่ดีที่สุดของทั้งสองตระกูล และเราใส่จอถึง 144 hertz ในตัวทอปของ Lenovo Legion 7 และให้ประสบการณ์การตอบสนองรุนแรงมาก ด้วยคีย์บอร์ดทนแรงกระแทกได้หลายหมื่นครั้ง หรือแม้แต่จอที่สว่างถึง 500 nitts, Response Time ต่ำกว่า 1 Milliseconds เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรานำมาเปิดตัวควบคู่ไปกับการให้บริการระดับสูงสุด
โดยรวมแล้วเฉพาะในโน้ตบุ๊กเรามีสินค้า 50-60 รุ่น ไว้ตอบโจทย์ลูกค้า ไม่นับรวมเดสก์ทอปที่เรามีไลน์อัพของ All In One ตั้งแต่ จอ 21 นิ้วขึ้นไป มีเดสก์ทอปสำหรับคอเกมสเปกขั้นเทพที่ได้เปิดตัวไปแล้ว และยังมีสินค้าที่ต่อเนื่องจากตระกูล Legion Family เช่น หูฟัง ไมค์ เมาส์ คีย์บอร์ด และ Yoga ก็มีหูฟัง wireless ด้วย
เหล่านี้คือสิ่งที่ผมบอกว่า ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม คนที่ใช้สินค้าของเราจะรู้สึกถึงความเป็น Family ร่วมกัน ซึ่งเป็นการนำเสนอที่ค่อนข้างแปลกในตลาดปัจจุบัน เราไม่ได้นำเสนอแค่สเปกกับราคาซึ่งใคร ๆ ก็ทำได้ แต่เรานำเสนอสินค้าภายใต้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่าง ครอบคลุมและตอบโจทย์ในทุกความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล และเรายังดูแลแบบ End to End ดูแลตั้งแต่หยิบของออกจากร้าน จนกระทั่งการใช้งานมีปัญหาปรึกษาเรา เราคือครอบครัวเดียวกัน ความรู้สึกแบบนี้ผมเชื่อว่าในตลาดยังไม่เคยมีมาก่อน แล้วเรากำลังนำเสนอให้กับทุกคน”
พร้อมดูแลในทุกเทรนด์ที่เปลี่ยนไป
ให้ลูกค้ามั่นใจและเชื่อมั่นในสินค้าและคุณภาพ
เมื่อถามถึงเทรนด์ไอทีในอนาคต ผู้บริหาร Lenovo ได้กล่าวว่า นอกจาก 5G ที่จะเป็นเทรนด์หลัก ๆ แล้วยังมีในส่วนอื่น ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกด้วย
“5G เป็นไปตามเทรนด์โลก นอกจากนี้ จะเป็นเรื่องของ Foldable เทรนด์นี้จะมาเรื่อย ๆ และเราเป็นรายแรกที่เปิดตัวในงาน CES ที่ผ่านมา มีทั้งแล็ปทอปจากในฝั่งของธุรกิจ และสมาร์ทโฟน คือ Motorola ซึ่งจะเปิดตัวแน่นอนในครึ่งปีหลัง
ขณะที่โน้ตบุ๊กยังมีซีรีส์ใหม่ที่เราจะขยายขึ้นไปอีก เร็ว ๆ นี้ได้เจอแน่นอน ส่วนเดสก์ทอปก็มีการเปลี่ยน Chassis ในช่วงไตรมาสนี้ เป็นต้นไป”
อย่างไรก็ดี วรพจน์ให้ความสนใจถึงเทรนด์ความต้องการใหม่ ๆ ของผู้บริโภค ซึ่งจะกำหนดทิศทางของโปรดักส์และการบริการ ที่ทุกองค์กรต้องพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ให้ทันกับกระแสที่เปลี่ยนไป
“ที่สำคัญมาก ๆ ตอนนี้คือเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีความต้องการอะไรใหม่ ๆ ที่คนอื่นไม่มี นั่นก็คือ Customization วันนี้เราใช้บริการระดับพรีเมียมมาเป็นตัวนำ เรามาทำเป็น Tailor Made Service ให้กับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ซึ่งผมว่านี่แหละตอบโจทย์
เราทำ Cross Functional Working Teams Together ไม่ว่าจะเป็นทีมเซอร์วิส ทีมขายคอนซูมเมอร์ ทีมโปรดักส์ ทีมมาร์เก็ตติ้ง เราทำงานสอดรับกันแบบ End to End เพื่อดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด
และยังทำงานภายใต้ Partner Ecosystem คือมีตัวแทนจำหน่ายที่มุ่งมั่นเข้มแข็ง มากกว่าหลายร้อยรายทั่วประเทศ และตัวแทนเหล่านี้ก็ได้รับการดูแลจากเราเป็นอย่างดี
ผมเชื่อว่าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนต่อทุกความต้องการแบบ end to end เครือข่ายของการขาย กลยุทธ์ Go to Market พร้อมด้วย Services-led ทั้งหมดนี้น่าจะเพียงพอในการจะทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจ และเชื่อมั่นในสินค้าและคุณภาพของเรา และแสดงถึงจุดยืนแห่งความเป็นผู้นำในฐานะผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ IT อันดับ 1 ของโลก”
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ