จิราพร ขาวสวัสดิ์ จากนักบัญชีหลังบ้าน สู่แม่ทัพคนแรกของโออาร์
สิ้นเดือนกันยายน 2565 นี้ จิราพร ขาวสวัสดิ์ แม่ทัพคนแรกของโออาร์ ครบวาระเกษียณ
ดูเหมือนเวลาผ่านไปไม่นานเลย หลังจากขึ้นรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2561
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2530 “พี่แดง” จิราพร คือเด็กสาวชาวฝั่งธนฯ รูปร่างเล็ก ๆ วัย 25 ปี ที่ได้เข้ามาร่วมงานกับ ปตท.
https://marketeeronline.co/archives/207747 ประวัติเเม่ทัพหญิงเเกร่ง เเห่งปี
จาก “พี่แดง” พนักงานหลังบ้านที่ทำงานด้านการบัญชีและการเงินมาตลอด
ผ่านตำแหน่งสำคัญอีกหลายตำแหน่ง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญในการนำโออาร์เข้าตลาดหลักทรัพย์
จนในที่สุด “พี่แดง” กลายเป็นผู้นำทัพคนแรกของโออาร์
4 ปีที่ผ่านไปนับว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดขององค์กรแห่งนี้ เพราะเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มตัวเองไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพื่อก้าวข้ามการเป็น “สถานีเติมน้ำมัน”
โดยรุกไปสู่ “ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม” รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ด้วย เช่น Health & Wellness การเดินทางท่องเที่ยว และเรื่องดิจิทัล ฯลฯ
ที่ผ่านมาโออาร์อาจจะเป็น “เบอร์ 1” ที่มีจุดแข็งในเรื่องพลังงาน แต่ธุรกิจอื่น ๆ ไม่ใช่แน่นอน ทำอย่างไรให้โออาร์เป็นที่รู้จัก เป็นที่รัก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เป็นเรื่องที่ท้าทาย “พี่แดง” อย่างมาก
เธอวางแผนขับเคลื่อนแบรนด์ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่วางไว้ 3 เรื่องหลัก คือ
People Planet และ Profit
ในเรื่อง People หากมองกันเร็ว ๆ ที่โดดเด่นมาก คือการวางยุทธศาสตร์การเติบโตแบบ Inclusive Growth ทั้ง ๆ ที่ความใหญ่ด้านเงินทุนของโออาร์สามารถไปเองได้แบบ Exclusive
ดังนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเธอได้ร่วมลงทุนกับบริษัทต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 13 บริษัท เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และเติบโตไปด้วยกันทั้งเอสเอ็มอี สตาร์ตอัป และองค์กรใหญ่บางแห่ง เช่น ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “โอ้กะจู๋” “Flash” สตาร์ตอัปด้านการขนส่ง “อิ่มทรัพย์โกบอล” ร้านอาหารญี่ปุ่น “KNEX” เป็นผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้า
โดยใช้จุดแข็งของโออาร์ทั้งด้าน Physical และ Digital ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่มี Infrastructure ทางธุรกิจที่พร้อมช่วยส่งเสริมยกระดับศักยภาพธุรกิจของพันธมิตร
ด้วยวิธีการนี้ทำให้โออาร์มีเพื่อนและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว
การจัดงาน Inclusive Growth Days Empowered by OR เมื่อวันที่ 22-24 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่สุด ลงทุนมากที่สุดของโออาร์ คือสิ่งที่ตอกย้ำวิธีคิดของผู้นำ และกระตุ้นให้องค์กรต่าง ๆ เปลี่ยนแนวคิดการทำธุรกิจโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ในเรื่อง Planet เมื่อโลกกำลังเผชิญความท้าทายกับวิกฤตซ้ำซ้อนและใกล้ตัวมากขึ้น โออาร์จึงประกาศตัวว่าจะเป็นแบรนด์ผู้นำด้านอีวี
ในเมื่ออีวีอีโคซิสเต็มประกอบไปด้วย 3 เรื่องหลัก คือ 1. เรื่องรถยนต์ไฟฟ้า 2. ที่ชาร์จ 3. การซ่อมบำรุง
ซึ่งทั้ง 3 ตัวนี้โออาร์มีจุดแข็งอยู่แล้ว เช่น วันนี้โออาร์มีสถานีบริการน้ำมันอยู่แล้วประมาณ 2,080 สาขาในประเทศไทย ปัจจุบันติดเครื่องชาร์จไว้แล้วประมาณ 100 สาขา นอกสถานีบริการมี 15 แห่ง เช่น ในมหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม
เธอมั่นใจว่าปี 2565 นี้จะติดเครื่องชาร์จให้ครบ 450 แห่ง ทั่วทั้งประเทศไทย จากกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ล่องใต้ ตะวันออก ตะวันตก ทุกระยะของเส้นทางที่จะต้องเติมอีวี โออาร์ต้องมีจุดชาร์จไว้รองรับ
นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดที่จะร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในรูปแบบของพาร์ตเนอร์ หรือผู้ให้บริการเรื่องรถเช่า หรือบริการซื้อขายรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประเภทรถ 4 ล้อ 2 ล้อ หรือรถปิกอัพที่ใช้เกี่ยวกับการค้าต่าง ๆ
การมีศูนย์ซ่อมรถยนต์ฟิตออโต้คืออีกหนึ่งจุดแข็ง ซึ่งตอนนี้ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าบางแห่งได้เข้ามาเทรนนิ่งให้กับพนักงานเพื่อซ่อมรถอีวี รองรับการเติบโตในด้านนี้ไว้แล้วเช่นกัน
รวมทั้งวางยุทธศาสตร์ให้โออาร์เข้าสู่ความเป็นกลางของคาร์บอน และในปี 2050 จะเข้าสู่ความเป็น Net Zero โดยนำเอาพลังงานสะอาดมาใช้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์ลูฟ หรือ EV
ส่วนในเรื่องของ Profit ในปี 2030 เธอได้วางเป้าหมายไว้ว่า โออาร์ จะมี EBITDA มากกว่า 40,000 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) เติบโตขึ้นมากกว่า 2.5 เท่า โดยกว่าร้อยละ 50 มาจากการเติบโตร่วมกับพันธมิตรของ OR
ทั้งหมดคืองานส่วนหนึ่งที่ จิราพร ขาวสวัสดิ์ ใช้พลังใจและพลังกายในการขับเคลื่อนแบรนด์ ส่วนใครจะมาสานต่อภารกิจนี้ เป็นเรื่องต้องติดตามกันต่อไป
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
