ตลาดส่งออกของเล่น ปี 64 ไทยโต 30% อานิสงส์จีนส่งออกชะงัก
สมาคมการค้าของเล่นฯ หอการค้าไทย และพันธมิตรธุรกิจ จัดงาน Kind + Jugend ASEAN 2023 รับโอกาสตลาดส่งออกของเล่นเด็กของไทย โตต่อเนื่อง ปี 64 ขยายตัว 30% มูลค่า 8 พันล้านบาท จากอานิสงส์จีนส่งออกชะงัก
นางอุไรวรรณ บุนนาค นายกสมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย เผยว่า ตลาดของเล่นเด็กในไทย ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะพฤติกรรมคนไทยไม่นิยมซื้อของเล่น คาดการณ์ว่าหากเทียบกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 100% จะมี 10% ที่ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย และในจำนวนนี้มีเพียง 1% ที่เลือกซื้อของเล่นเด็ก
สวนทางกับ ตลาดส่งออกของเล่น เด็กของไทย ที่มีมูลค่า 7,000 ล้านบาท ขยายตัว 5-10% ในสถานการณ์ปกติ ก่อนที่การมาของโควิด-19 ปีแรก (2562) จะทำให้ตลาดลดลง 3-5% และกลับมาโต 30% หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท ในปี 2564
เหตุจากจีนที่ครองตลาดใหญ่ในการส่งออกของเล่นเด็ก ต้องหยุดชะงักเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไทยมีช่องในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดส่งออกของเล่นเด็ก โดยมีตุ๊กตาผ้าและของเล่นมีล้อ เป็นผลิตภัณฑ์ของเล่นส่งออกสำคัญ
ขณะที่ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 80% ที่เหลืออีก 20% ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย เป็นต้น ส่วนปี 2565 คาดการณ์ว่าตลาดส่งออกของเล่นเด็กของไทย จะโตขึ้นอีก 20% หรือมูลค่ากว่า 9,600 ล้านบาท ส่วนการจะกลับไปแตะที่ 10,000 ล้านบาทอีกครั้ง อาจจะเป็นไปได้ยาก เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นรายย่อย จากเดิมที่เคยเป็นต่างชาติเข้ามาจ้างผลิตเพื่อส่งออก
ด้านสมาคมการค้าของเล่นฯ ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กประมาณ 100 ราย แบ่งเป็นโรงงานผลิตเพื่อส่งออก 50-60 ราย ส่วนหนึ่งรับจ้างผลิตให้กับผู้ส่งออก และเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย
เชื่อว่าการจัดงาน Kind + Jugend ASEAN 2023 (คิน-อัน-ยู-เก้น-อา-เซียน) จะช่วยเสริม ตลาดส่งออกของเล่นเด็ก ของไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น
กอปรกับการที่ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สมาคมการค้าของเล่นฯ จึงมุ่งเน้นผลักดันและสนับสนุน เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว ด้วยการเริ่มหาช่องทางการตลาดและสร้างโอกาสให้กับสมาชิกฯ สำหรับปี 2566 อาทิ
การเข้าร่วมงานทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกให้มีแนวคิดการออกแบบของเล่นนำเทรนด์ ด้วยการจัดการอบรมการออกแบบของเล่น เพื่อพัฒนาให้เกิดนักออกแบบรุ่นใหม่อยู่เสมอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำไปสู่การรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเล่นที่ยอมรับกันทั่วโลก ตลอดจนการส่งมอบสินค้าตามกำหนดเวลา เพื่อรักษาฐานลูกค้าและครองตลาดต่อไป
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยว่า หนึ่งในแนวโน้มที่น่าจับตามองในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ การนำเข้า-ส่งออกด้านผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2565 ถึงปี 2569
คาดว่า ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) กว่า 7.69% อย่างต่อเนื่อง และมีขนาดตลาดกว่า 47.71 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.68 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นคิดเป็น 59% เทียบกับปี 2562
โดย Kind + Jugend ASEAN 2023 (คิน-อัน-ยู-เก้น-อา-เซียน) งานแสดงสินค้าชั้นนำระดับนานาชาติสำหรับทารกและเด็กวัยหัดเดิน (ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด-6 ขวบ) ระดับพรีเมียมที่ใหญ่ที่สุด เปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้วยการสนับสนุนและความร่วมมือจากสมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย ตลอดจนหอการค้าไทย จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการค้า โดยคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,000 รายทั่วภูมิภาคฯ มียอดผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 บริษัททั่วโลก และสร้างเม็ดเงินสะพัดภายในงานกว่า 1,000 ล้านบาท
| ภาพรวมตลาดส่งออกของเล่นเด็กของไทย | ||
| ช่วงเวลา | ขยายตัว (%) | มูลค่า (ล้านบาท) |
| ก่อนโควิด-19 | 5-10 | 7,000 |
| โควิด-19 ปี 2562 | -3 ถึง -5 | N/A |
| ปี 2564 | 30 | 8,000 |
| ปี 2565 (คาดการณ์) | 20 | 9,600 |
| ตลาดส่งออกหลัก | ||
| ประเทศ | ส่วนแบ่งตลาด (%) | มูลค่า |
| สหรัฐอเมริกา | 80 | N/A |
| อาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย | 20 | N/A |
ที่มา: สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /


