ราชาลิปสติกจีนกลับมาไลฟ์ หลังพ้นโทษแบนดราม่าเค้กรถถัง

หลังขึ้นมาเป็นขั้วอำนาจใหม่ในโลกยุคปัจจุบันได้สำเร็จ ผ่านพัฒนาการแทบทุกด้าน ตั้งแต่เศรษฐกิจ เทคโนโลยี ไปจนถึงอิทธิพลที่แผ่ขยายออกไป จีนก็ถูกจับตามองทุกครั้งที่มีความเคลื่อนไหวทั้งของรัฐบาลและคนดังในแวดวงต่าง ๆ

หลี่ เจียฉี

หลี่ เจียฉี หรือที่ชาวจีนส่วนใหญ่และคนที่สนใจตลาด E-commerce รู้จักกันในฉายา ราชาลิปสติกจีน คือหนึ่งในคนดังชาวจีนที่ตกเป็นข่าวและมีความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ โดยตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาเขาเก็บตัวเงียบ หลังนำเค้กรูปร่างคล้ายรถถังมาโชว์ระหว่างการไลฟ์

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เขาต้องงดการไลฟ์ขายของแบบไม่ระบุสาเหตุทั้งที่เป็นกิจกรรมสร้างชื่อเสียงและแหล่งรายได้หลัก โดยบรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนล้วนให้ทัศนะไปในทิศทางเดียวกันว่า เขาถูกรัฐบาลจีน ‘สั่งแบน’ เพราะไลฟ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับวันครบรอบเหตุล้อมปรามที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งมีการนำรถถังเข้ามาจัดการฝูงชนด้วย

และภาพวิดีโอชายยืนขวางรถถังหรือที่สื่อตะวันตกเรียกว่า Tank man ยังกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเป็นภาพที่รัฐบาลจีนต้องการลบทิ้งไป

ล่าสุด หลี่ เจียฉี คืนวงการแล้ว โดยเขากลับมาไลฟ์ขายลิปสติกบนแพลตฟอร์ม Taopao ของ Alibaba เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา และอาจกล่าวได้ว่าเขากลับมาทอปฟอร์มทันที พร้อมได้รับการต้อนรับการกลับมาอย่างอบอุ่น

ยืนยันได้จากขายครีมทาหน้า 50,000 ชุด คิดเป็นมูลค่า 1.75 ล้านดอลลาร์ (ราว 65 ล้านบาท) และมียอดผู้ชมสูงถึง 63 ล้านคน แม้ไลฟ์อยู่เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ช่วงท้าย ๆ ของการไลฟ์คืนวงการ หลี่ เจียฉี กล่าวว่า “เสียดายจังครับที่สาว ๆ หลายคนเอฟของไม่ทัน ขอพอแค่นี้ก่อน ของที่เตรียมมาขายหมดพอดี พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะครับ”

ทั้งการไลฟ์และประโยคทิ้งท้ายถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า หลี่ เจียฉี คืนวงการแล้ว แต่แน่นอนว่าจากนี้ตัวเขาคงต้องระมัดระวังเรื่องอ่อนไหวต่าง ๆ ทั้งภาพหรือคำพูดใด ๆ ที่รัฐบาลจีนสามารถนำไปตีความได้ว่า ท้าทายอำนาจ เหมือนที่เกิดขึ้นกับกรณีเค้กรถถัง

แม้มีความเป็นไปได้ว่า ตัวเขาเองจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะชาวจีนรุ่นใหม่แทบไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่จตุรัสเทียนอันเหมินแล้ว และเค้กกับขนมดันไปคล้ายกับรถถังโดยบังเอิญก็ตาม

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

การเงียบหายไปนานหลายเดือนของ หลี่ เจียฉี เป็นการยืนยันว่า รัฐบาลจีนในยุคประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ดำเนินสองนโยบายหลักควบคู่กันไป คือผลักดันให้ประเทศเติบโตไม่หยุดให้แซงหน้าประเทศอื่น ๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี จนขึ้นมาเป็นมหาอำนาจ สูสีกับสหรัฐฯ ที่โลกต้องยำเกรง

แต่ขณะเดียวกันก็ตีกรอบเพื่อจัดระเบียบในประเทศอย่างเข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงไม่ทนต่อประเด็นหรือสิ่งใดก็ตามที่เห็นว่าไม่เหมาะสม ปลุกปั่นหรือท้าทายอำนาจ

แจ๊ค หม่า

โดยนอกจาก หลี่ เจียฉี แล้ว ยังมีคนดังหลายคนที่ ‘ถูกอุ้ม’ หายไปพักใหญ่ หลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือสร้างความขุ่นเคืองให้รัฐบาล เช่น แจ๊ค หม่า หายตัวไป 3 เดือน หลังไปวิจารณ์ว่ากฎคุมภาคเงินจีนล้าหลัง

เว่ยหยา

และ เว่ยหยา เจ้าของฉายา ราชินีไลฟ์ขายของ ที่ยังไม่คืนวงการมาเกือบครบปีแล้ว หลังถูกสั่งปรับเป็นเงินสูงถึง 187 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,000 ล้านบาท) ฐานเลี่ยงภาษี

กรณีของ หลี่ เจียฉี ยังมีอีกประเด็นที่น่าสนใจ โดยเป็นการชี้ว่ารัฐบาลจีนจะคุมสื่อออนไลน์อย่างเข้มงวดและยังเป็นการปรามคนรุ่นใหม่ ที่อยากเป็นพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ หรือ Online Influencer ให้อยู่ในกรอบและใต้อำนาจได้อีกด้วย/ cnn, nikkei