SPBT ตั้งเป้าโตกว่าตลาดเท่าตัวในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมทุ่มงบโฆษณา 1,000 ล้าน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ตลอดปี หวังขึ้นเเท่นเป็นบริษัทเครื่องดื่มไทยที่ผู้บริโภครัก
บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT เปิดตัวในปี 2561 จากการลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่าง บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด จำกัด บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มประเทศญี่ปุ่น และบริษัท เป๊ปซี่โค อิงค์ ผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสหรัฐอเมริกา โดยที่ Suntory เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 51% เเละ PepsiCo 49%
เพื่อเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทยมูลค่า 150,000-200,000 ล้านบาท (ไม่รวมน้ำเปล่าและมิกเซอร์) จากมูลค่าดังกล่าว กลุ่มน้ำอัดลมมีส่วนแบ่งประมาณ 30%
ตลอดห้าปีบริษัทฯ เติบโตเฉลี่ย 5.9% ซึ่งเป็นตัวเลขที่โตกว่าตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ถึง 3 เท่า
นายอชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) บริษัทประสบความสำเร็จได้ ผ่านกลยุทธ์ ‘Must Win Battle’ 5 ข้อสำคัญ คือ
1) เสริมแกร่งธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลม ออกผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด ชิงส่วนแบ่งตลาดถึง 2.6% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มน้ำตาลน้อยและไม่มีน้ำตาล รองรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง
2) ขยายกลุ่มนวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รุกตลาดกลุ่มชาและกาแฟพร้อมดื่ม รวมถึงเครื่องดื่มให้พลังงานเซกเมนต์พรีเมียม
3) ขยายฐานคู่ค้าทั่วประเทศ ทั้ง Modern Trade เเละ Traditional Trade เครือข่ายร้านอาหาร และช่องทาง E-commerce ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
4) สร้างการเติบโตระยะยาวด้วยการผลิตที่มีประสิทธิภาพ มุ่งสู่ความยั่งยืน ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้ 100% (Insulated Long Term)
5) พัฒนาองค์กรด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและสร้างคน (Develop Organization)
ปัจจุบันพอร์ตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ ชาพร้อมดื่ม กาเเฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม เครื่องดื่มให้พลังงาน เเละน้ำอัดลม/9 แบรนด์ ได้แก่ Pepsi, Mirinda, Lipton, Aquafina, 7up, TEA+, BOSS Coffee, Rockstar เเละ Gatorade
เครื่องดื่มน้ำอัดลมมีสัดส่วนมากกว่า 75% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดใน SPBT ขณะที่เครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลมอยู่ที่ 25% เเต่ในอนาคตอาจเพิ่มสัดส่วนอยู่ในระดับ 30% ได้
รุกตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมทางเลือกใหม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ เเละเเตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปในกลุ่มชา เปิดตัวชาอู่หลง TEA+ และกาแฟพร้อมดื่ม BOSS Coffee ไปจนถึง Rockstar เครื่องดื่มให้พลังงานระดับพรีเมียม เข้าแข่งขันในตลาด พร้อมตั้งเป้าขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภค
ที่ผ่านมากลุ่ม Energy Drink เติบโตมากที่สุดจากทุกกลุ่ม ด้วยไลฟ์สไตล์การบริโภคที่เปลี่ยนไป เครื่องดื่มให้พลังงานไม่จำกัดอยู่เฉพาะเเค่คนใช้เเรงงาน เเต่ขยายไปในกลุ่มคนรุ่นใหม่เเละวัยทำงานมากขึ้น
โดยที่เครื่องดื่ม Energy Drink พรีเมียม มีสัดส่วน 6-7% ของตลาด Hard Energy Drink มูลค่า 20,000 ล้านบาท เเละมีแนวโน้มจะเติบโตสูงสุดในกลุ่มเครื่องดื่มอีก 5 ปีข้างหน้า
นายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากพิจารณาตลาดเครื่องดื่มไทยช่วง 2561-2565 ภาพรวมพบว่า ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล ตามเทรนด์รักสุขภาพของผู้บริโภค
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทขยายการเติบโตของเป๊ปซี่ ไม่มีน้ำตาลได้ถึง 19% เฉลี่ยใน 5 ปี ซึ่งปัจจุบันเซกเมนต์น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล มีส่วนแบ่งในตลาดที่ 10% เเละคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นด้วยอัตราเฉลี่ยต่อปี 30%
ด้านเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป๊ปซี่ เเม้จะเป็นเบอร์สองในตลาด Market share 37% เเต่ในอดีตเป๊ปซี่สามารถเอาชนะคู่เเข่งอย่างโค้กได้ เเละในอนาคตอาจได้เห็นเป๊ปซี่ขับเคี่ยวขึ้นมาใกล้เคียงกับอันดับหนึ่งได้
นางสาวเพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทสานต่อกลยุทธ์ “Must Win Battle” เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายใหม่ของบริษัทในการเป็น “บริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทย” (the Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity)
บริษัทเตรียมทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท สำหรับการโฆษณาในปี 2566 ซึ่งจะมีความเคลื่อนไหวลอนช์มากกว่า 22 เเคมเปญตลอดทั้งปี สร้างประสบการณ์ตรงให้ผู้บริโภค แจกชิมสินค้า 10 ล้านขวด สร้างการรับรู้เเบรนด์ในวงกว้าง สื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์
อีกหนึ่งความพยายาม คือ การใช้บรรจุภัณฑ์ rPET (Recycled polyethylene terephthalate) หรือพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลตที่สามารถรีไซเคิลได้ โดยในปีนี้บริษัทจะปรับบรรจุภัณฑ์ราว 3% ในเเง่ของ Volume ให้เป็น rPET แม้จะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20-30% ก็ตาม
ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ตั้งเป้าโตมากกว่าเท่าตัวของอุตสาหกรรมทุกกลุ่มเครื่องดื่ม กระตุ้นการเติบโตด้วยแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เพื่อรักษาการเติบโตสองเท่าในทุก ๆ ปี
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
