ฝันร้ายที่สุดของคนทำงานไม่ว่าอาชีพไหนหรืออยู่ในออฟฟิศใดคือต้องตกงาน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ฝันร้ายนี้เป็นจริงขึ้นมาคือการปรับระบบหรือวิธีทำงาน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้ ทำให้สามารถลดต้นทุนและตัดตำแหน่งงานที่ไม่จำเป็นออกไป  

 

ความกังวลว่าเทคโนโลยีจะทำให้ตกงานหรือมาแย่งงาน เป็นความกังวลที่ไม่เคยหายไปจากตลาดแรงงาน แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ความกังวลดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะประสิทธิภาพของ AI พัฒนาขึ้นเร็วจนน่าตกใจ

ประสิทธิภาพของ ChatGPT–AI ใต้ปีก Microsoft ที่ทั้งสามารถโต้ตอบ หาข้อมูล และเขียนรายงานต่าง ๆ ออกมาได้ดี แบบใกล้เคียงหรือดีกว่ามนุษย์ นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานที่ใช้ทักษะการเจรจาโต้ตอบ ความละเอียด หรือแม้กระทั่งความคิดสร้างสรรค์  

จนทำให้บริษัทเทคยักษ์รายอื่น ๆ ทั้ง Google และ Baidu แข่งกันพัฒนา AI แบบ Chatbot ออกมาบ้าง

สถานการณ์ดังกล่าวจึงทำให้คนทำงานและชาวออฟฟิศทั่วโลกกลัวว่าจะถูก AI แย่งงาน โดย Goldman Sachs วาณิชธนกิจใหญ่ของสหรัฐฯ คาดว่าในอนาคต AI จะเข้ามาแทนพนักงานเต็มเวลา 300 ล้านคนในสหรัฐฯ และยุโรป

ขณะที่ PR หญิงในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งของอังกฤษ เปิดใจกับ BBC ว่าช่วง 6 เดือนมานี้ คิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องที่อนาคตจะถูก AI แย่งงาน

ด้านผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อปีที่แล้วของ PWC 1 ใน 4 บริษัทบัญชีใหญ่สุดในโลก ระบุว่า 3 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างคนวัยทำงานทั่วโลกกลัวว่าอีก 3 ปีจากนี้อาจตกงาน เพราะบริษัทนำ AI มาใช้แทนคน

BBC วิเคราะห์เรื่องนี้ผ่านบทความจากทัศนะของที่ปรึกษาด้านการจ้างงานว่า ความกังวลว่าจะถูก AI แย่งงาน (AI Anxiety) ก็ไม่ต่างจากคนวัยทำงานในอดีตที่กลัวระบบอัตโนมัติ และความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ในอนาคตที่กำลังใกล้เข้ามา

แต่ยุคนี้ที่กลัวกันมากกว่าปกติเพราะเทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็วหลายเท่ากว่าในอดีตมาก และเรายังมีช่องทางรับรู้ข้อมูลข่าวสารมากมายกว่าในอดีตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากมัวแต่กลัวหรือตื่นตระหนกมากเกินไป อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพงาน และเมื่อทำงานได้ไม่ดีเหมือนเก่า ความถดถอยดังกล่าวอาจเป็นเหตุให้ต้องถูกปลดก่อนที่จะถูก AI เข้ามาทำงานแทน

ทางออกจากความกังวลเหล่านี้ คือการทำความเข้าใจเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น AI หรือระบบใหม่ต่าง ๆ ที่กำลังจะถูกนำมาใช้ และให้มองว่าเป็นเครื่องมือ เพื่อยกระดับการทำงานของตัวเอง และสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้

เหมือน PR หญิงที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ โดยเธอกำลังปรับตัวและทำความเข้าใจ AI แทนการเมินหรือมองว่าเป็นสิ่งน่ากลัวที่เข้ามาคุกคาม เพราะเชื่อว่า AI ต้องเข้ามาในสายงานอยู่แล้ว และต้องทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างแน่นอน

บทความของ BBC ยังคาดว่า มนุษย์คงไม่ถูกตัดออกไปจากระบบงานโดยสิ้นเชิง โดยน่าจะยังมีบทบาทการสานสัมพันธ์ และงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงในงานที่ต้องใช้ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)

แต่ก็ย้ำว่าหากไม่อยากตกงานก็ต้องปรับตัว พัฒนาความสามารถ ทำความเข้าใจ ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับงานและเลิกมองมันเป็นศัตรู/bbc



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน