แม้ไม่ใช่เบอร์หนึ่งอย่าง Facebook แต่ Twitter ก็เป็นหนึ่งในสื่อโซเชียลยอดฮิต ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากถึง 450 ล้านคน ขณะเดียวกันยังยืนระยะมาได้กว่า 17 ปีแล้ว และ Facebook เคยอยากได้ไปอยู่ใต้ชายคาอีกด้วย
ตลอดกว่า 17 ปีนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายกับ Twitter ตั้งแต่ขาขึ้นและขาลง รวมไปถึงเปลี่ยน CEO มาแล้ว 5 คน เริ่มจาก Jack Dorsey ที่รวมตัวกับเพื่อนอีก 3 คนตั้ง Twitter ขึ้น (ต่อมาถูกขายเป็น NFT จนกลายเป็นข่าวดัง)
Jack Dorsey ขณะเป็น CEO ของ Twitter รอบแรก
และเปิดตัวผ่านทวิตข้อความที่ว่า Just set up my twttr ในปี 2006 จากนั้นในปี 2008 เขาก็ลาออกแล้วให้ Evan Williams หนึ่งในสามผู้ก่อตั้งที่เหลือมานั่งเก้าอี้แทน
Twitter ในยุคของ Evan Williams เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านจำนวนผู้ใช้ที่ทยอยเพิ่มขึ้นมา การใช้เหตุการณ์ระดับโลก เช่น สถานการณ์อิรัก และการทวิตข้อความมาจากอวกาศ
Evan Williams
Evan Williams ยังผลักดันให้แพลตฟอร์มที่เน้นข้อความและมีสัญลักษณ์เป็นนกสีฟ้านี้ดังขึ้นไปอีก ด้วยแผนโปรโมตผ่านคนดังในแวดวงต่าง ๆ และเปิด Promoted Tweets ให้แบรนด์มาซื้อโฆษณา ช่วยให้ทำเงินได้มากขึ้น
ปี 2010 Evan Williams ก็โบกมือลา Twitter ซึ่งผู้ที่ขึ้นมาเป็น CEO แทนคือ Dick Costolo ที่เคยนั่งเก้าอี้ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) มาก่อน โดยหมุดหมายสำคัญที่เขาได้พาบริษัทไปถึงคือทำ IPO ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปี 2013
Dick Costolo
Dick Costolo อยู่ต่อมาอีก 2 ปีแล้วก็โบกมืออำลา Twitter ไปอีกคน และเพื่อให้บริษัทยังเดินหน้าต่อไปได้ Jack Dorsey จึงกลับมาเป็น CEO
Jack Dorsey กลับมาช่วงบริษัทตกอยู่ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในแวดวงสื่อโซเชียล ซ้ำร้ายบริหารระดับสูงยังพากันลาออก และยังมีข่าวว่าทั้ง Facebook กับ Google จ้องเข้ามาฮุบ
Jack Dorsey กลับมาเป็น CEO ของ Twitter ด้วยภาพลักษณ์ใหม่
แต่ Jack Dorsey ที่เปลี่ยนลุคจาก First jobber หน้าใสไปเป็น CEO สุดเก๋าหนวดเคราเฟิ้ม ก็ประคองบริษัทผ่านมรสุมมาได้ โดยหนึ่งในแผนแก้เกมของเขาคือ การเพิ่มตัวอักษรในแต่ละโพสต์เป็น 280 ตัวอักษร เพื่อให้โพสต์ข้อความได้ยาวขึ้น และไม่จำกัดอยู่แค่ 140 ตัวอักษรที่ใช้มานาน
Parag Agrawal
ปี 2021 Jack Dorsey สละเก้าอี้ CEO แล้วให้ Parag Agrawal ประธานฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ขึ้นมารับช่วงต่อ โดยมีนัยสำคัญอยู่ที่ เขาคือหัวเรือใหญ่ชาวอินเดียของบริษัทกลุ่มยักษ์เทคในสัญชาติอเมริกัน ต่อจาก CEO จาก Adobe Microsoft Google และ IBM
แต่ Parag Agrawal ก็อยู่ไม่ทันได้ฉลองความยิ่งใหญ่ของอินเดียที่แซงจีนขึ้นเป็นประเทศประชากรมากสุดในโลก โดยปี Elon Musk มหาเศรษฐีเบอร์ต้น ๆ ของโลก ที่สร้างตัวขึ้นมาจากการปั้น Tesla ให้เป็นแบรนด์รถ EV ทุ่มเงินถึง 44,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) ซื้อกิจการ Twitter พร้อมปลด Parag Agrawal กับทีมบริหารหลายคนพ้นตำแหน่ง
Elon Musk
หลังเขี่ยทีมบริหาร Twitter เพื่อเอาคืนที่ไม่ยอมรับดีลจนการซื้อกิจการติดขัด และไม่ต้องมีใครมาขัดใจอีก Elon Musk ทำให้คนต้องทึ่งกับการมีหลายบริษัทที่ต่างธุรกิจกัน คือ Tesla (รถ EV) SpaceX (ขนส่งอวกาศ) และ Twitter (สื่อโซเชียล) แต่บริษัทล่าสุดกลับกลายเป็นปัญหา
Twitter ในมือของ Elon Musk ขาดทุนอย่างหนัก จากทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ ผู้ใช้ไม่ตอบรับกับแผนเก็บค่าสมาชิก และแบรนด์ดัง ๆ ถอนโฆษณา จนนำมาสู่การปลดพนักงานไปครึ่งบริษัท
จากนั้นก็มีข่าวออกมาต่อเนื่องว่า Elon Musk กำลังเฟ้นหาผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ CEO แทนเขา โดยเมื่อ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา Elon Musk ทวิตข้อความว่าได้ตัว ‘ผู้หญิง’ ที่จะเป็น CEO ของ Twitter แล้ว และเธอจะเริ่มงานในอีก 6 สัปดาห์
ส่วนตัวเขาจะเปลี่ยนตำแหน่งเป็น CTO พร้อมควบเก้าอี้ประธานบอร์ดบริหาร โดยในวันเดียวกัน Wall Street Journal รายงานว่าคนที่ Elon Musk กล่าวถึงคือ Linda Yaccarino ประธานฝ่ายโฆษณาของ NBC ที่อยู่กับต้นสังกัดปัจจุบันมา 19 ปี
Linda Yaccarino
นอกจากเป็นมือเก๋าในวงการสื่อแล้ว Linda Yaccarino ยังเป็นคนปั้น Peacock แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งให้ NBC และเชื่อมกับ E-commerce ให้ต้นสังกัดมีรายได้มากขึ้น
ขณะเดียวกันเธอยังรู้จักคนวงในของ Twitter มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน ชื่นชม Elon Musk เป็นทุนเดิม และเคยพูดกับเพื่อน ๆ ว่าอยากเป็น CEO ของ Twitter อีกด้วย
นี่ทำให้ Linda Yaccarino คือตัวเต็งอันดับหนึ่งที่ได้เป็น CEO คนที่ 6 และผู้หญิงคนแรกของ Twitter โดยถ้าเธอได้เป็นตัวจริง งานหลักที่รอเธออยู่คือการพา Twitter ฝ่าวิกฤต และคิดทางทำเงินเงินใหม่ ๆ เข้าแพลตฟอร์ม พร้อมดึงผู้ใช้กับแบรนด์ดังที่โบกมือลาไปให้กลับมา
อย่างไรก็ตาม ถ้า Linda Yaccarino ย้ายมาเป็นนายหญิงของ Twitter จะถือเป็นความสูญเสียแบบติด ๆ กันของ NBC เพราะเพิ่งไล่ Jeff Shell พ้นเก้าอี้ CEO จากเหตุอื้อฉาวทางเพศเมื่อเมษายนที่ผ่านมานี่เอง/theguardian, yahoonews, wikipedia, theverge, variety, hindustantimes
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
