หนึ่งในวิธีที่ Meta ขยายจนเป็นบริษัทใหญ่คือการทยอยฮุบคู่แข่งเข้ามาอยู่ใต้ชายคา เพื่อประหยัดเวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ และเพิ่มฟีเจอร์จากบริษัทที่ซื้อเข้ามา
ดังที่เห็นได้จากการซื้อกิจการของ WhatsApp กับ Instagram และความพยายามในการซื้อ Twitter และ TikTok
Giphy ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ Mata ซื้อเข้ามาเสริมทัพให้ Facebook ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันให้การสนทนาใน Facebook ผ่านภาพเคลื่อนไหวมากมายหรือที่เรียกว่า ไฟล์ GIF มากมายที่ Giphy
แต่ล่าสุดก็มีเหตุให้ Giphy กับ Meta ต้องแยกทางกัน โดยทิ้งความเจ็บใจไว้ให้ Meta
Giphy ก่อตั้งขึ้นต้นปี 2013 จากไอเดียบนโต๊ะอาหารเช้าของ Alex Chung กับ Jace Cooke โดยหลังสามารถแชร์ไปยัง Facebook ช่วงกลางปีก็เริ่มทวีความนิยม และพอถึงสิ้นปีก็เป็น 100 เว็บไซต์ยอดฮิตแห่งปีของนิตยสาร PCMag
อีก 2 ปีต่อมา Giphy ก็ระดมทุนเพิ่ม ซื้อ Nutmeg แอปคู่แข่งพร้อมออกแอปของตัวเองในชื่อ Giphy Cam ขณะเดียวกันก็ใช้ได้กับ Messenger แอปส่งข้อความของ Facebook ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน
พอปี 2017 จำนวนผู้ใช้เป็นประจำต่อเดือนก็เพิ่มเป็น 250 ล้านคน และมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า Facebook จ้องฮุบ Giphy
2020 Facebook ก็ทุ่ม 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 13,800 ล้านบาท) ซื้อ Giphy มาอยู่ใต้ชายคา Giphy ถูกยุบรวบไปอยู่กับ Instagram ซึ่งอยู่ใต้ชายคา Facebook โดยที่ฝ่ายหลังใช้ไฟล์ดุ๊กดิ๊กและสติ๊กเกอร์ของ Giphy มาสร้างสีสันในแพลตฟอร์ม แบบเดียวกับที่แชตแอปอย่าง LINE และ Kakao
แต่กรมควบคุมตลาดและการแข่งขัน (CMA) ของสหราชอาณาจักรก็ชี้ว่าเป็นดีลผูกขาด และเตือนให้แยก Giphy ออกไป
ปี 2021 Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta โดย CMA ยิ่งกดดันให้ Meta ขาย Giphy ทิ้งไป ที่สุด Meta ก็ฝืนกระแสกดดันไม่ไหว ประกอบกับไม่อยากมีปัญหากับรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยตัดสินใจขาย Giphy ให้ Shutterstock เว็บไซต์คลังภาพ ด้วยราคาเพียง 53 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,840 ล้านบาท) เท่านั้น
Meta ยังสามารถเข้าถึงไฟล์ GIF ของ Giphy และยังถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลประเทศหนึ่งประเทศใดสามารถบีบบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ จากย่าน Silicon Valley ให้แยกบริษัทลูกออกไปเพื่อสกัดการผูกขาด แต่ที่เจ็บปวดสุดคือการที่ Mata ต้องขายออกไปด้วยราคาขาดทุน ท่ามกลางการปลดพนักงานล็อตใหญ่อีกด้วย
ด้าน Shutterstock ที่อยู่ในสถานการณ์ส้มหล่น ดีใจที่ได้ Giphy มาในราคาถูกมาก โดยแม้ปีนี้ยังไม่สามรถทำกำไรจาก Giphy ได้มากนักแต่เชื่อว่าปีหน้าสถานการณ์จะดีขึ้นผ่านภาพดุ๊กดิ๊กมากมาย เสริมจากคลังภาพมหาศาลที่ Shutterstock มีอยู่เดิม/theguardian, wikipedia, bbc
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
