ยูโอบี ผนึกกำลัง ดิ เอ็มดิสทริค และ AEG คว้าสิทธิ์ใช้ชื่อแบรนด์ “ยูโอบี ไลฟ์” เเพลตฟอร์มใหม่ที่จะเข้ามาดันไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงเอเชีย จัดงานอีเวนต์ระดับโลก
จากเเผนโครงการใหญ่ของ The Mall ในการสร้างย่านการค้าที่สมบูรณ์แบบ “THE EM DISTRICT” ยกระดับกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นย่านการค้าระดับสากล โดยการรวมเอา THE EMPORIUM, THE EMQUARTIER และจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย THE EMSPHERE ที่จะเปิดตัว 1 ธันวาคมนี้
ดิ เอ็มสเฟียร์ คือศูนย์การค้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 200,000 ตารางเมตร เเบ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีก ร้านแฮงก์เอาต์ เเละส่วนเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยมี ยูโอบี ไลฟ์ เป็นไฮไลท์สำคัญ
“ยูโอบี ไลฟ์” (UOB LIVE) คือ แพลตฟอร์มที่จะผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์รวมกิจกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับสากล โดยเกิดจากความร่วมมือของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ธนาคารชั้นนำของเอเชีย ร่วมกับ ดิ เอ็มดิสทริค ผู้คร่ำหวอดในวงการรีเทล และ AEG ผู้ประกอบธุรกิจบันเทิง และกีฬาระดับโลก
โดยให้สิทธิ์ยูโอบี ใช้ชื่อแบรนด์ “ยูโอบี ไลฟ์” ตามระยะสัญญาห้าปี โดยมี ASM Global ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงและการบริหารจัดการพื้นที่จัดงานระดับโลก เข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการ
ตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ยูโอบี ไลฟ์ จะเข้ามาเป็นพื้นที่จัดงานความบันเทิงระดับโลก ด้วยกิจกรรมด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ ทั้งการจัดคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินชื่อดังระดับโลก, กิจกรรมอีเวนต์ระดับเวิลด์คลาส, มหกรรมการแสดงดนตรีขนาดใหญ่, การจัดแมตช์กีฬาครั้งสำคัญต่าง ๆ, การแสดงผลงานศิลปวัฒนธรรม, Live Performance, การสัมมนาของผู้นำระดับโลก และนิทรรศการต่าง ๆ (MICE) ฯลฯ ด้วย World Class Arena ความจุ 6,000 ที่นั่ง
ตั้งเป้าการจัดงานอีเวนต์หลังการเปิดตัวในปี 2024 ไว้ที่ 100 อีเวนต์ต่อปี เเม้ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเเต่มีผู้จัดงานหลายรายติดต่อเข้ามาก่อนเเล้ว
ด้านศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวว่า ไทยคือประเทศที่ได้เปรียบในด้านธุรกิจความบันเทิง เพราะเป็นจุดรวมของทุกกระเเส ทั้ง J-Pop, K-Pop หรือ T-Pop ล้วนชูให้ไทยเป็นเมืองแห่งความบันเทิงเเละความสนุกสนาน จึงไม่ใช่เรื่องยากในการจะสร้างให้ไทยเป็น ‘Entertainment Hub of Asia’
และ ยูโอบี ไลฟ์ จะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่มาประกอบร่าง ดิ เอ็มดิสทริค ไปสู่การเป็น Iconic Landmark ดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมความบันเทิง
ทั้งนี้ เม็ดเงินการลงทุนในส่วนโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์ของเดอะมอลล์รวม 500 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มจากงบเดิม 300 ล้านดอลลาร์) เเบ่งออกเป็นการลงทุนใน BANGKOK ARENA ตั้งอยู่ที่โครงการแบงค็อก มอลล์ 350 ล้านดอลลาร์ ความจุ 16,000 ที่นั่ง และยูโอบี ไลฟ์ 150 ล้านดอลลาร์
“ขณะนี้ไทยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ กลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ปัจจุบันกำลังซื้อของกลุ่มฐานรากยังไม่ดีเท่าใดนัก จากปัญหาหนี้ครัวเรือน”
นอกจากนั้น สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันยังส่งผลถึงงบประมาณการก่อสร้างโครงการดิ เอ็มดิสทริค บานปลายจากเเผนเดิมไปมาก ด้วยค่าแรงงานที่ปรับขึ้น ค่าไฟ ค่าวัสดุก่อสร้าง ต่างก็ส่งผลกระทบต่องบประมาณโดยรวม
ยูโอบี ไลฟ์ จะเข้ามาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมค้าปลีกและความบันเทิงเข้าสู่ยุคใหม่ กระตุ้นการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้มาลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ทว่า คอนเซ็ปต์การเป็น “ศูนย์รวมด้านกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ระดับสากล” นั้น ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ก้าวนำหน้าไทยไปหลายก้าวเเล้ว สะท้อนจากการประกาศทัวร์ของ Taylor Swift ในคอนเสิร์ต The Eras Tour ที่ National Stadium สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ผู้จัดเลือกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุผลด้าน facility ที่ครบครัน สถานที่รองรับที่มีขนาดมาตรฐาน อีกทั้งระบบขนส่งมวลชนภายในประเทศ
ตลอดจนนโยบายการผลักดันประเทศเป็น “ศูนย์กลางแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย” ของการท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board) ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่ได้รับความสำเร็จในการสร้างฐานะตนเองเป็นฮับเอนเตอร์เทนเมนต์ก่อนประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อดัม วิลคส์ ประธาน และ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เออีจี แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้ความเห็นว่า การที่สิงคโปร์สามารถไปถึงจุดนั้นได้ โดยมีจุดหมายปลายทางของ Taylor Swift เป็นตัวการันตีความสำเร็จ เพราะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เเละ facility ที่มีอย่างครบครันได้มาตรฐาน แต่ไทยเองก็สามารถไปถึงจุดนั้นได้เช่นกัน โดยมี ยูโอบี ไลฟ์ เป็นผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกิจกรรมเเละความบันเทิงไทย ความร่วมมือครั้งนี้จะนำไทยไปสู่ยุคใหม่ของความบันเทิง ยกระดับไปในระดับเวิลด์คลาส
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ