แม้วิทยาการและนวัตกรรมส่วนใหญ่ได้รับการคิดค้นขึ้นจากประเทศแถบตะวันตกและยุโรป แต่ประเทศเอเชียก็นำมาปรับมาพัฒนาในรูปแบบของตัวเอง จนที่สุดก็สามารถผลิตได้เอง เริ่มรุกตลาดต่างประเทศ
หรือแม้กระทั่งขึ้นมาท้าทายเบอร์ใหญ่ จนไปถึงผงาดเป็นเบอร์หนึ่งได้สำเร็จ เช่นที่เกิดขึ้นตลอดช่วงหลายทศวรรษของบรรดาแบรนด์รถและเทคโนโลยีเอเชียตะวันออก เริ่มจากญี่ปุ่นต่อด้วยเกาหลีใต้ และจีนในปัจจุบัน
ซึ่งล้วนเริ่มด้วยการตามหลัง เผชิญการดูถูกว่าด้อยคุณภาพมาก่อนแต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสินค้าที่ทั่วโลกยอมรับ หรือกำลังถูกจับตามอง
เรื่องราวลักษณะใกล้เคียงกันกำลังเกิดขึ้นกับ Vinfast แบรนด์รถ EV เวียดนามอายุเพียง 6 ปีที่เพิ่งทำ IPO ในสหรัฐฯ และได้รับความสนใจจากนักลงทุน จนมูลค่าบริษัทแซง Ford แบรนด์เก่าแก่อายุ 120 ปีของสหรัฐฯ
Pham Nhat Vuong
Vinfast ก่อตั้งเมื่อปี 2017 โดยเป็นแบรนด์รถใต้ชายคา VinGroup ของ Pham Nhat Vuong มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเวียดนามที่ได้เหล่ามือดีแวดวงยานยนต์ยุโรป เช่น อิตาลีและเยอรมนีมาช่วย
หลังผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันได้ไม่นาน Vinfast ก็หันมาผลิตรถ EV เต็มตัว พอปี 2021 ก็ทุ่ม 174 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,000 ล้านบาท) สร้างโรงงานแบตฯ รถ EV ในเวียดนาม พร้อมตั้งเป้าทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
พร้อมความหวังว่าจะเป็น IPO บริษัทเวียดนามมูลค่าสูงสุดในสหรัฐฯ แซงหน้า Vinhomes บริษัทอีกแห่งในเครือ VinGroup เมื่อปี 2018
ปี 2022 แผน IPO ในสหรัฐฯ ขยับเข้าใกล้ความจริง ด้วยการยื่นเอกสารการเงินและข้อมูลจำเป็นต่าง ๆ ให้คณะกำกับหลักทรัพย์และดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC – เทียบเท่า ก.ล.ต. ของไทย)
มาปี 2023 ก็ถูกจับตามองว่าจะทำ IPO ได้หรือไม่ เพราะช่วงกุมภาพันธ์เกิดปัญหาซอฟต์แวร์กับรถล็อตแรกที่กำลังจะส่งขึ้นเรือไปสหรัฐฯ จนต้องเลื่อนกำหนดการส่งออกไปและกระทบถึงการ IPO แต่มีนาคมสัญญาณบวกก็กลับคืนมา หลังแก้ปัญหาได้และรถล็อตแรกลำเลียงมาถึงสหรัฐฯ
ข้ามมากรกฎาคม โรงงานที่รัฐนอร์ทคาไรไลนาก็ได้เริ่มก่อสร้างแม้ยังรอถึงปี 2025 กว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ก็ตาม
ที่สุด Vinfast ก็มาถึงหมุดหมายสำคัญในตลาดโลกตามที่หมายมั่นปั้นมือไว้ โดยช่วงกลางสิงหาคมที่ผ่านมา Vinfast ทำ IPO ในสหรัฐฯ ด้วยการร่วมกับบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์พิเศษในการซื้อกิจการ (SPAC) หรือที่นักลงทุนเรียกกันว่าบริษัทเช็คเปล่า
บริษัทเช็คเปล่าที่ Vinfast ใช้เป็นทางลัดทำ IPO คือ Black Spade โดยปรากฏว่า หุ้น Vinfast เปิดตัวอย่างร้อนแรง ราคาพุ่งไปมากถึง 270% ดันมูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 85,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.9 ล้านล้านบาท) แซงหน้า Ford ที่มูลค่าบริษัท ณ เวลานั้นอยู่ที่ 48,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท)
Le Thi Thu They
แน่นอนว่านี่ถือเป็นความสำเร็จที่ Le Thi Thu They – CEO หญิงของ Vinfast และทีมบริหาร รวมไปถึงชาวเวียดนามดีใจ แต่ Vinfast ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมาก
เพราะทำยอดขายตลอดปี 2022 ทั่วโลกได้เพียง 24,000 คัน เทียบไม่ได้เลยกับ Ford ที่มากถึง 4.2 ล้านคน นอกจากนี้ ตัวบริษัทยังไม่ทำกำไร มีรีวิวรถแย่ ๆ ไล่ตั้งแต่ วัสดุ การประกอบและการขับ ออกมาเรื่อย ๆ
ขณะเดียวกันก็ถูกวิจารณ์ว่าปั่นกระแสจนเกินจริง และหุ้นที่ออกมาทำ IPO ก็เป็นเพียง 1% ของทั้งบริษัท โดยมี Pham Nhat Vuong ถือหุ้นที่เหลือทั้งหมดเอาไว้
พร้อมกันนี้ตลาดรถ EV ปัจจุบันก็แข่งขันกันดุเดือดอีกด้วย เพราะมีแบรนด์ให้ผู้บริโภคเลือกมากมายนับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ต่างก็เร่งผลิตรถ EV ออกมา ไปจนถึงแบรนด์จีนราคาเข้าถึงได้ที่กำลังดาหน้าตีตลาดโลก/cnn, cnbc, wikipedia, forbes
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ