LAMY ทำไมเป็นแบรนด์ปากกาที่จะมาเติมเต็มให้กับ Mitsubishi Pencil

แบรนด์ปากกาสัญชาติเยอรมันจะตกอยู่ในมือของ Mitsubishi Pencil เจ้าของแบรนด์ปากกา ดินสอ อุปกรณ์เครื่องเขียน Uni จากประเทศญี่ปุ่น

หลังจากที่ Mitsubishi Pencil เข้าซื้อธุรกิจ C. Josef Lamy GmbH เจ้าของแบรนด์ LAMY ในสัดส่วน 100% ธุรกรรมนี้ Japan News รายงานว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 มีนาคม 2567

การซื้อ LAMY เข้ามาอยู่ในพอร์ตของ Mitsubishi Pencil เป็นการเติมเต็มให้กับพอร์ตปากกาของ Mitsubishi Pencil เนื่องจากที่ผ่านมาแบรนด์ปากกา Uni ของ Mitsubishi Pencil เน้นเจาะกลุ่มตลาดปากกาที่มีราคาไม่สูงนัก

ส่วน LAMY เน้นเจาะกลุ่มปากกากลุ่มราคาระดับกลาง ที่มีกลุ่มลูกค้าอยู่ทั่วโลก จากจุดเด่นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และนวัตกรรม “Tintomatik” ที่ทำให้น้ำหมึกไหลจากช่องเก็บหมึกไปยังหัวปากกาได้ดียิ่งขึ้น

และเป็นการพา Mitsubishi Pencil เติบโตในระดับโลกได้ดีขึ้น จากเป้าหมายรายได้ในต่างประเทศ 70,000 ล้านเยน (ประมาณ 16,900 ล้านบาท ภายในปี 2579

จากการมีขาธุรกิจผ่านแบรนด์ Uni และLAMY

ซึ่งที่ผ่านมา Mitsubishi Pencil มีรายได้

ในปี 2565 มีรายได้ 69,000 ล้านเยน (ประมาณ 16,700ล้านบาท)

ปี 2566 รายได้ 74,800 ล้านเยน (ประมาณ 18,100 ล้านบาท)

ส่วนปีนี้ วางเป้ารายได้ 78,000 ล้านเยน (ประมาณ 18,800 ล้านบาท)

โดยรายได้เกือบ 50% มาจากปากกาลูกลื่น (Ballpoint Pen) รองลงมาได้แก่ ปากกาเมจิก และปากกามาร์กเกอร์ (Felt-Tip Pen and Marker Pen), ดินสอกด และดินสอตามลำดับ

แบรนด์ Uni มีจำหน่ายใน 21 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย,ฮ่องกง, จีน, อินเดีย, เกาหลี, ไทย, สิงคโปร, ไต้หวัน, มาเลเซีย, เวียดนาม, เมียนมา, ฝรั่งเศส, สเปน, สหราชอาณาจักร, ตุรกี, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา, บราซิล, เอกวาดอร์

ตลาดหลักของ Uni เป็นประเทศญี่ปุ่น ที่มีสัดส่วนยอดจำหน่ายกว่า 50% จากรายได้ทั้งหมด และตลาดญี่ปุ่นมีความท้าทายในเรื่องของประชากรรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มหลักที่ใช้ปากกาเกิดน้อยลง

ส่วน LAMY มีรายได้ในปี 2566 ที่ 76 ล้านยูโร (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) รายได้ของ LAMY มาจากปากกาหมึกซึมเป็นหลัก

ที่ผ่านมา LAMY ทำตลาดใน 28 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี, ออสเตรีย, บราซิล, แคนนาดา, ชิลี, ,กรีซ, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, โรมาเนีย, สวีเดน, สวิสเซอร์แลนด์, สเปน, อาฟริกาใต้, ตุรกี, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ,ออสเตรเลีย, จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม

โดยมีตลาดหลักอยู่ในยุโรปและอเมริกา และเป็นสองตลาดที่มีขนาดใหญ่ในตลาดปากกาโลก

เมื่อมองไปที่ตลาดปากกาโลกที่ผ่านมาข้อมูลจาก Cognitive Market Research และ The Insight Partner พบว่าตลาดปากกาโลกมีมูลค่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 2.5% จากปี 2565 ไปจนถึงปี 2573

ในปี 2565 มีมูลค่า 16,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 598,500 ล้านบาท)

ปี 2566 มูลค่า 17,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 609,100 ล้านบาท)

ปี 2573 มูลค่า 20,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 726,000 ล้านบาท)

Marketeer FYI

ประเทศไทยแม้จะไม่ใช่ตลาดที่สร้างรายได้หลักให้กับ Mitsubishi Pencil แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่าบริษัท มิตซูบิชิ เพนซิล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ทำตลาดแบรนด์ Uni ในประเทศไทย มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปี 2563 รายได้รวม 134.61 ล้านบาท กำไร 7.56 ล้านบาท

2564 รายได้รวม 157.31 ล้านบาท กำไร 7.64 ล้านบาท

2565 รายได้รวม 170.50 ล้านบาท กำไร 14.65 ล้านบาท

ส่วนLAMYในประเทศไทย จัดจำหน่ายโดย ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) ผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้านานาชนิด และเป็นส่วนหนึ่งของรายได้เท่านั้น

ประกาศเข้าซื้อธุรกิจ