AI สั่งการ ‘ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไทย’ กลับมาคึกคักตลอดปี 2024-2025 ดันรอบซื้อเครื่องใหม่ของผู้บริโภคเร็วขึ้น โปรดักต์รองรับ AI เริ่มทยอยเข้าไทย คอมมาร์ตประเมิน เงินสะพัดงานรอบกลางปีนี้ 3.3 พัน ลบ. เติบโต 10% แทรฟฟิกร่วม 4 แสนคน
คุณบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า ‘ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไทย’ ปี 2020-2021 สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดกระแสความต้องการในกลุ่มผู้บริโภคอย่างสูง จากการปรับตัวต่าง ๆ อาทิ เวิร์กฟอร์มโฮม ทั้งคริปโทเคอเรนซีเป็นที่นิยม ล้วนส่งผลให้สินค้าขาดตลาด เกิดการกักตุนสินค้า กระทบระบบโลจิสติกส์ และการปรับราคาขาย
ปี 2022-2023 ตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่ได้มีเทคโนโลยีใหม่หรือปัจจัยที่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก จนมาปี 2024-2025 จะเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวใหม่ ๆ จากเทคโนโลยี AI ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนเจเนอเรชั่นเทคฯ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง
สถานการณ์ปกติผู้บริโภคจะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใหม่ทุก 3 ปี แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีแรงกระตุ้นใหม่ ๆ อย่าง AI เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เร็วขึ้น
บริษัทประเมินว่าตั้งแต่กลางปี 2024 ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไทยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากเทรนด์ AI ที่เริ่มเข้ามาถึงตลาดในไทย ไม่ว่าจะเป็นชิปรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI จากแบรนด์ผู้ผลิตชิปประมวลผลระดับโลก
แบรนด์เทคโนโลยีที่เริ่มออกโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งมาพร้อมกับปุ่ม Copilot ที่เป็นปุ่มสำหรับเรียกใช้งาน AI บนเครื่อง
ตลอดจนการที่ AI ถูกย่อส่วนให้อยู่บนสมาร์ตโฟน ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและประสบการณ์ในการใช้งานที่มากขึ้นทั้ง iOS และ Android ก็ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองว่า AI เป็นเรื่องใกล้ตัว และพร้อมตัดสินใจเปลี่ยนอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อรองรับการใช้งาน AI ได้ง่ายขึ้นหลังจากนี้
สำหรับ ‘คอมมาร์ตรอบกลางปี (11-14 ก.ค. 2024 เวลา 10.00-21.00 น. ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา)’ ที่จัดเป็นปีที่ 24 บริษัทในฐานะผู้จัด นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ ‘Commart Megatech’
โดยยังจับมือเป็นพันธมิตรกับแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีหลากหลาย รวมสินค้าในงานหลายหมื่น SKUs จากกว่า 150 บูธ เป็นสินค้าเปิดตัวใหม่หลักร้อยรายการ และจะมาพร้อมการรองรับเทคโนโลยี AI ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, โน้ตบุ๊ก, การ์ดจอ และดีไวซ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ อย่างสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต
บริษัทตั้งเป้าเงินสะพัดในงาน 3,300 ล้านบาท เติบโต 10% จากงานกลางปี 2023 ที่ผ่านมา แทรฟฟิกหมุนเวียน 400,000 คน ขณะที่ยอดซื้อผู้มางานส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 35,000 บาทต่อบิล
กิจกรรมส่งเสริมการขาย คงความสนุกสนานด้วยโชว์เคสใหม่ ๆ การออกแบบพื้นที่ให้เดินเปรียบเทียบราคากันอย่างสะดวก ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานคอมมาร์ต ตลอดจนสินค้าเคลียร์แรนซ์และโปรโมชั่นพิเศษในงานยังคงจัดเต็มเช่นทุกปี
–