ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว อภิมหาโครงการอสังหาริมทรัพย์จากตระกูลใหญ่กำลังเดินหน้าก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
งานนี้ถอยกันไม่ได้แล้ว
“โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ” เผยโฉมใหม่ 27 ก.ย. นี้
พฤษภาคม 2562 โรงแรมดุสิตธานี สูง 23 ชั้นเริ่มทยอยทุบทิ้ง
วันนี้ดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ สูง 39 ชั้น กำลังผงาดขึ้นมาแทนที่ โครงการนี้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์มิกซ์ยูส Dusit Central Park มูลค่า 46,000 ล้านบาท ภายใต้การร่วมทุนของ “ดุสิตธานี” และ “เซ็นทรัลพัฒนา” บนพื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลม
ส่วนเฟสต่อไปที่ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส และดุสิต พาร์คไซด์ รวมถึงอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าปลีกระดับไฮเอนด์ และสวนลอยฟ้าขนาด 11,200 ตร.ม. มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2568
สิ้นสุดการรอคอย “วัน แบงค็อก” โครงการที่เป็นที่สุดของตระกูล “สิริวัฒนภักดี”
เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ประมูลที่ดินแปลงนี้มาได้เมื่อปี 2557
ปี 2561 เริ่มทำการก่อสร้างในพื้นที่ประมาณ 108 ไร่
เป็นโครงการพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุด ลงทุนสูงที่สุด (1.2 แสนล้านบาท) ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” โดยมอบหมายให้ปณตลูกชายคนเล็กเป็นคนรับผิดชอบ
โครงการหลัก ๆ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานแบบพรีเมียมจำนวน 5 อาคาร โรงแรมระดับลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ 5 แห่ง อาคารที่พักอาศัยระดับลักชัวรีอีกจำนวน 3 อาคาร พื้นที่ค้าปลีกอีก 180,000 ตารางเมตร ฯลฯ
เริ่มก่อสร้างได้เพียงปีเดียวก็ต้องเจอกับวิกฤตโควิด-19 นานถึง 2 ปีกว่า จนโควิดไปแล้วแต่ดูเหมือนเศรษฐกิจยังไม่กลับมา
พอใกล้วันเปิดจริง ๆ ก็เกิดคำถามอีกว่าตลาดจะกลับมาเร็วแค่ไหน จะเท่าเดิมหรือเปล่า หรือชะลอการลงทุนไว้ก่อนดี แต่คุณเจริญยืนยันว่าทุกอย่างคิดและสร้างจุดต่างจากโครงการต่าง ๆ ไว้ดีแล้วควรเดินหน้าต่อไป
ในที่สุดภาพ ONE BANGKOK “ของจริง” ได้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของผู้คน และพร้อมที่จะเปิดโครงการประมาณ 70% ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
จากโครงการของลูกชายคนเล็กของเจ้าสัวเจริญ มาดูโครงการของลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ บ้าง
“เดอะ ฟอเรสเทียส์” เร่ง สร้างเมือง สร้างป่า
ทำไม ทิพพาภรณ์ (เจียรวนนท์) อริยวรารมย์ จึงกล้าเปิดขายโครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ท่ามกลางโควิด-19 เมื่อปี 2564
เป็นเพราะเธอมั่นใจว่าช่วงเวลานั้นน่าจะเป็นไทมิ่งที่ดีที่สุด เพราะอภิมหาโครงการนี้ที่มีมูลค่า 125,000 ล้านบาท บนถนนบางนา-ตราด ในพื้นที่ 398 ไร่นั้น เธอจะสร้างผืนป่า 30 ไร่ครอบคลุมพื้นที่ใจกลางของโครงการ และต้องการให้เป็นจุดขายสำคัญสำหรับผู้คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในโลกยุคใหม่ หลังวิกฤตโควิด-19 ที่เรื่องคุณภาพชีวิตสำคัญที่สุด
ภายในโครงการประกอบด้วยที่พักอาศัยระดับบนขึ้นไปถึง 5 แบรนด์ในเครือของ MQDC คือ “วิสซ์ดอม” “มัลเบอร์รี โกรฟ” “มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า” “ดิ แอสเพน ทรี” และ “ซิกส์เซนส์”
รวมทั้งยังมีโรงแรม คอมมิวนิตี้มอลล์ และอาคารสำนักงาน
ปัจจุบันหลายโครงการใน “เดอะ ฟอเรสเทียส์” เสร็จสมบูรณ์และทยอยโอนให้ลูกบ้านแล้วตั้งแต่สิ้นปี 2566
มาคอยดูกันว่าบริหารให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างสมบูรณ์ตามที่เธอตั้งใจไว้ได้หรือไม่
Bangkok Mall “เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ เดอะมอลล์ ทำ”
หลังจากที่โครงการ ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิเอ็มสเฟียร์ รวมร่างกันเสร็จเรียบร้อย กลายเป็น “ดิเอ็มดิสทริค” อภิมหาโปรเจกต์ลักชัวรี มอลล์ใหญ่ในพื้นที่ 50 ไร่ใจกลางถนนสุขุมวิทเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
กลุ่มอัมพุชก็ไปก่อสร้าง Bangkok Mall อีกโปรเจกต์ยักษ์บนพื้นที่ 100 ไร่ ย่านบางนาตรงข้ามศูนย์ประชุมไบเทคบางนาต่อทันที
เป็นการลงทุนครั้งใหญ่อีกครั้งของตระกูลนี้เพื่อหวังพลิกโฉมย่านบางนาให้กลายเป็น LANDMARK สำคัญในย่านตะวันออกของกรุงเทพฯ ด้วยเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
ในโครงการประกอบไปด้วยศูนย์การค้า สวนสนุกและสวนน้ำ, โรงภาพยนตร์, สถานที่จัดแสดงงานต่าง ๆ อย่างคอนเสิร์ต, โรงแรม, อาคารพักอาศัย รวมไปถึงอาคารสำนักงาน
Bangkok Mall เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2557 พอเริ่มก่อสร้างจริงได้ไม่นานก็เจอกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักไปพักหนึ่ง
ศุภลักษณ์ อัมพุช แม่ทัพใหญ่ของเดอะมอลล์ ออกมาให้ข่าวว่าเฟสแรกที่ประกอบไปด้วยที่พักอาศัย โรงแรม และจัดคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดน่าจะเปิดบริการได้ในปี 2569
ด้วยความเป็นองค์กรใหญ่ ของตระกูลใหญ่ ปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนในการก่อสร้างบิ๊กโปรเจกต์ระดับหมื่นล้าน แสนล้านบาทคงไม่มีปัญหา
แต่บทพิสูจน์ความสำเร็จที่สำคัญยิ่งกว่าคือจะสามารถดึงผู้คนให้เข้ามาอยู่ในโครงการในจำนวนตามแผนที่วางไว้ ได้หรือไม่
คือความท้าทายบทต่อไป
–