เชื่อได้เลยว่าตอนที่ทุกคนยังเป็นเด็ก ทุกคนคงเคยมีประสบการณ์เกือบรับประทานของเล่นกันแน่ ๆ แล้วเคยจินตนาการไหมว่าหากมีของเล่นที่รับประทานได้จะดีแค่ไหน ซึ่งมีแบรนด์แบรนด์หนึ่งที่มีแนวคิดอย่างนี้ นั่นก็คือ Lunchables (ลันช์อะเบิล)
โดย Lunchables เป็นแบรนด์อาหารและของว่างของอเมริกาที่ผลิตในปี 1988 โดย Kraft Heinz (คราฟท์ ไฮนซ์) ในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และทำการตลาดภายใต้แบรนด์ Oscar Mayer (ออสการ์ เมเยอร์) ผู้ผลิตเนื้อและโคลด์คัทสัญชาติอเมริกัน ขึ้นชื่อเรื่องฮอตดอก โบโลนา เบคอน แฮม และผลิตภัณฑ์สำหรับมื้อกลางวัน
ครั้งหนึ่ง Lunchables เคยเป็นศัตรูตัวฉกาจของบรรดาพ่อแม่ที่ใส่ใจสุขภาพเด็ก ๆ เพราะพวกเขาคิดว่าไม่ดีต่อสุขภาพและไม่คุ้มกับราคาที่จ่าย เนื่องจากสามารถรับประทานอาหารอย่างอื่น ๆ จริง ๆ ได้เลยแทนที่จะเป็นของเล่นรับประทานได้ ส่วนในปัจจุบันบรรดาคนที่เติบโตมาพร้อมกับ Lunchables ก็ได้กลายเป็นพ่อแม่ที่สนับสนุนอาหารชนิดนี้แทน
แน่นอนว่า Kraft Heinz ออกมาโต้แย้งว่า Lunchables ได้ปรับปรุงโภชนาการให้เป็นไปตามแนวทางโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งชาติ (NSLP) โดยจำกัดน้ำตาลและโซเดียม
Lunchables อาหารสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร
Lunchables ถูกออกแบบให้มีรูปแบบเหมือนของเล่นทำอาหารของเด็ก ๆ ซึ่งออกแบบโดย Tom Bailey (เบลีย์) Bob Drane (บ็อบ เดรน) Christine James (คริสติน เจมส์) Jeff James (เจฟฟ์ เจมส์) Dave Wesolowski (เดฟ เวโซลอฟสกี้) และ Deborah Giarusso (เดโบราห์ เจียรุสโซ)
โดยหลังจาก Lunchables ได้เปิดตัว ก็ได้รับความนิยมทันที เพราะทางแบรนด์ได้เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวที่ไม่มีเวลาทำอาหารให้ลูก ๆ ทำให้ Lunchables มีแนวคิดในการสร้างอาหารกลางวันแบบบรรจุล่วงหน้าที่สะดวกสบาย สามารถเปิดรับประทานได้ในทันทีในกล่องรูปแบบคล้ายกับของเล่นที่มาพร้อมกับแครกเกอร์ ชีส หรือแฮม ซึ่งได้แบ่งเป็นสัดส่วนไว้เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถนำมาประกอบกันเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้
นอกจากนี้ Lunchables ยังได้นําเสนออาหารหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า นักเก็ตไก่ ฮอตดอก เบอร์เกอร์ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นของขนาดเล็ก โดยนอกจากอาหารแล้ว Lunchables ยังมีเครื่องดื่มและของหวานหลากหลายประเภทอีกด้วย
ข้อโต้แย้งด้านสุขภาพของ Lunchables
ในปี 1997 Lunchables ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูงในขณะที่วางตลาดเป็นอาหารสำหรับเด็กที่ดีต่อสุขภาพ อย่างเช่น แฮมและสวิสลันช์เบิลหนึ่งหน่วยบริโภคมีโซเดียม 1,780 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ของค่าเผื่อรายวันที่แนะนําสำหรับผู้ใหญ่ ส่งผลให้ Lunchables ได้ปรับปรุงสูตรใหม่เผื่อตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
และเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นของโรคอ้วนในวัยเด็ก ทางแบรนด์เลยสร้างทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพสำหรับเด็กให้มากขึ้น ซึ่งได้ทำการยกเลิกเครื่องดื่ม Capri Sun และมินิ Daim บาร์ ก่อนที่จะแทนที่ด้วยเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและขนมที่ประกอบไปด้วยน้ำส้มและโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รีในปี 2004
ปัจจุบัน Lunchables มีส่วนแบ่งตลาด 84 เปอร์เซ็นต์สำหรับอาหารกลางวันแบบผสมผสานสำหรับเด็ก ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดก็คือ กล่องเนื้อสัตว์ชีสและแครกเกอร์ โดยสามารถทำยอดขายได้มากกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์ และยอดขายเพิ่มอย่างต่อเนื่อง สามารถคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 10 ของรายได้ทั้งหมดของ Kraft Heinz ได้เลยทีเดียว
เรียกได้ว่า Lunchables เป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ มานานกว่าสามทศวรรษ และเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดที่เคยวางจําหน่ายในอเมริกา
เรื่อง: ภริดา มุทิตาภรณ์
ที่มา:
https://www.bbc.co.uk/news/world-us-canada-64956083
https://theweek.com/health/lunchables-lead-health
https://en.wikipedia.org/wiki/Lunchables
https://www.theatlantic.com/family/archive/2018/11/lunchables-30-years-invented-history/576025/
https://www.mashed.com/157874/the-untold-truth-of-lunchables/
https://www.sfgate.com/shopping/article/history-of-Lunchables-15369850.php
–




