MONO จะได้รับทรัพย์จาก พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ มากเท่าไร (วิเคราะห์)
พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 25/26 ได้ดูผ่าน MONO MAX และต่อเนื่อง 6 ฤดูกาล หลังจาก JAS หรือจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ทุ่มเงินกว่า 19,167.72 ล้านบาท เพื่อได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขัน รับชมย้อนหลัง คลิปสั้น และรายการอื่นๆ ตามสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ตทีวี และ ทีวีดิจิทัล ในไทย ลาว และกัมพูชา ตลอด 6 ฤดูกาล จาก FAPL (The Football Association Premier League Limited)
และ JAS ได้นำ MONO MAX เป็นหนึ่งในช่องทางเผยแพร่การแข่งขันพรีเมียร์ลีก เอฟเอ คัพ ด้วยเหตุผล MONO หรือบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแพลตฟอร์ม MonoMax ผ่านบริษัท โมโน สตรีมมิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MONO และ JAS มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนเดียวกัน คือ พิชญ์ โพธารามิก ที่ถือหุ้นใน JAS 52.07% และ MONO 57.73%
โดยบิซิเนส โมเดล ที่ JAS ใช้กับMONOในปัจจุบัน 19 ธันวาคม 2024 อยู่ในระหว่างเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568
และเมื่อมติที่ประชุมอนุมัติ JAS จะเป็นจ่ายเงินมูลค่า 5,400 ล้านบาท ให้กับบริษัท โมโน สตรีมมิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของMONOที่ดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์ม MonoMax ในระยะเวลา 6 ปี และต่ออายุสัญญาได้อีกครั้งละ 1 ปี หลังสัญญาหมดลง
เพื่อให้ โมโน สตรีมมิ่ง เป็นช่องทางถ่ายทอดสิทธิ์ดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์มไปยังลูกค้าที่สมัครสมาชิกแพ็คเกจรายการคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ (รวมถึงอุปกรณ์ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง) ที่ JAS จะเรียกเก็บกับผู้สนใจ และแพ็กเกจนี้โมโน สตรีมมิ่ง จะต้องให้สิทธิ์กับสมาชิกแพ็กเกจรายการคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกชมรายการอื่นๆ ที่MONO MAX มีอีกด้วย
และ JAS ยังจ่ายเงินค่าตอบแทนจากสมาชิกแพ็กเกจรายการคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก 50 บาทต่อสมาชิกต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้กับโมโมโน สตรีมมิ่ง อีกต่อหนึ่ง
ซึ่งค่าตอบแทนจากสมาชิกแพ็กเกจรายการคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก 50 บาทต่อสมาชิกต่อเดือนเป็นอัตราเดียวกับที่ได้รับจากการนำคอนเทนต์MonoMax ให้บริการให้สมาชิก 3BB GIGATV รับชม
สำหรับเบื้องหลังค่าตอบแทนที่ โมโน สตรีมมิ่ง ได้รับ จะต้องแลกกับการทำหน้าที่เสนอขายแพ็กเกจ รายการคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกให้กับลูกค้า สนับสนุนด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมการขายแพ็กเกจดังกล่าว
รวมถึงเป็นผู้เผยแพร่รายการคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกพร้อมเสียงบรรยายไทยผลิตรายการก่อนและเข้าการแข่งจัน และรายการระหว่างการแข่งขัน รวมถึงคลิปไฮไลท์ ผ่านMonoMax และผ่านพัฒนาระบบเพื่อรองรับบริการทุกเครือข่าย ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม และอุปกรณ์
ซึ่งหลังจากที่โมโมโน สตรีมมิ่ง ได้รับการอนุมัติ จากที่ประชุม JAS เป็นที่เรียบร้อย จะเป็นในการสร้างการเติบโตด้านฐานสมาชิกMonoMax ที่คาดการณ์ว่าตลอดระยะเวลา 6 ปีของการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ตามที่JAS ได้รับ จะสามารถสร้างฐานสมาชิกรวมกัน 3 ล้านราย
จากปัจจุบันที่MonoMax มีฐานสมาชิก1.5 ล้านราย (อ้างอิง 30 กันยายน 2024) แบ่งเป็น
สมาชิกทั่วไป 5.9 แสนราย
สมาชิกแพ็กเกจรายเดือน 9.1 แสนราย
และ Marketeer มองว่าจะเป็นหนึ่งในจิกซอที่สำคัญที่เข้ามาเติมเต็มรายได้ให้กับธุรกิจของMONOที่ในปัจจุบันอยู่ในภาวะขาดทุน และรายได้ที่ลดลง
อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบกว่าในช่วงที่ผ่านมาMONO ดังนี้
2022
รายได้ 2,091 ล้านบาท
กำไร 69 ล้านบาท
2023
รายได้ 1,895 ล้านบาท
ขาดทุน 25 ล้านบาท
มกราคม-กันยายน 2024
รายได้ 1,431 ล้านบาท
ขาดทุน 77 ล้านบาท
โดยในไตรมาส3/2024 ที่ผ่านมา MONO มีรายได้รวม 456.5 ล้านบาท มาจากรายได้หลัก 2 ส่วนได้แก่
รายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณา 218.0 ล้านบาท
รายได้จากการให้บริการคอนเทนต์ Monomax/ GIGATV 186.8 ล้านบาท
Marketeer FYI
ธุรกิจของ MONO ประกอบบริการผ่านบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 99.99% ขึ้นไป จำนวน 5 บริษัท ได้แก่
-บริษัท โมโน ไซเบ้อร์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการวางแผน สร้างสรรค์สื่อการตลาดแบบองค์รวม (Holistic Communications) ให้กับแบรนด์เจ้าของสินค้า และหน่วยงานราชการ
-บริษัท โมโน สตรีมมิ่ง จำกัด ประกอบธุรกิจวิดีโอ สตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิก MonoMax และถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท โมโน ไซเบ้อร์ จำกัด
-สำหรับบริษัท โมโน โปรดักชั่น จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการพื้นที่ ธุรกิจผลิต และรับจ้างผลิต สร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ ประเภทบันเทิง เพื่อแพร่ภาพออกอากาศผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่ออื่นๆ และถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท โมโน บรอดคาซ์ท จำกัด
-ส่วนบริษัท โมโน บรอดคาซ์ท จำกัด ดำเนินธุรกิจช่อง MONO29
-และบริษัท โมโน ช้อปปิ้ง จำกัด ประกอบธุรกิจคอมเมิร์ซ โดยจำหน่ายสินค้าและบริการในรูปแบบทีวีโฮม ช้อปปิ้ง ในชื่อ 29Shopping ผ่านช่อง MONO29
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /