แอสเซทไวส์ ปี 2025 ปั้น 10 โครงการใหม่ บน Strategic location กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต มูลค่า 22,000 ล้านบาท ยังเน้นหนักกลุ่มคอนโด ขยายพอร์ตภูเก็ต รุกตลาดวิลล่าหรูครั้งแรก ตั้งเป้ายอดขายรวม 19,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 10,500 ล้านบาท ส่วนพอร์ต Recurring income เดินหน้าลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพต่อเนื่อง
คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ASW’ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2025 มีความท้าทายจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงที่ช่วยกระตุ้นการผลิตการลงทุน ไปจนถึงเทรนด์รักสุขภาพและ Aging Society ทำให้ธุรกิจ Health & Wellness เติบโตขึ้น
ประเทศไทยเองได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่ส่งสัญญาณดีขึ้น การเข้ามาลงทุน Data Center ของบริษัทระดับโลก ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานทั้งคนในประเทศและ Expats ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของคนในประเทศและกระตุ้นแรงซื้อจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นพอร์ตหลักในการทำตลาดของบริษัท
ปี 2024 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ 19,330 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในปี 2025 โอกาสก้าวสู่ปีที่ 20 บริษัทมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงต่อเนื่อง
บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยปีนี้ บน Strategic location ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต รวมเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 20,500 ล้านบาท ผ่านแบรนด์หลักอย่าง KAVE, ATMOZ และ MODIZ
พร้อมสานต่อโครงการ Leisure residences ในภูเก็ตแบรนด์ THE TITLE ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในเครือแอสเซทไวส์ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท โดยเตรียมขยายแบรนด์ THE TITLE สู่โครงการ Luxury Villa เป็นครั้งแรกอีก 2 โครงการบนทำเลหาดในยางและเชิงทะเล
ปี 2025 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 19,500 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 10,500 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2025 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท และปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปี 2024 มูลค่ารวมกว่า 25,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 12,600 ล้านบาท โครงการในทำเล EEC จำนวน 2,700 ล้านบาท และโครงการในภูเก็ตอีกกว่า 9,900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้สร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2027
การดำเนินงานในกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับบริษัท หรือ Recurring income ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ประมาณไม่เกิน 5% จากพอร์ตโครงการเพื่อขาย บริษัทยังเดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพผ่านบริษัทย่อยในเครือ และเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในพอร์ตโครงการที่อยู่อาศัย
โดยบริษัทเริ่มจากธุรกิจ Health & Wellness ผ่าน WHB ให้บริการ Rocket Fitness ฟิตเนสทางเลือกใหม่ในราคาและทำเลเข้าถึงง่าย และ Vitala คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย มีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน ZAAP World ในการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่าง ๆ โดยในปีที่ผ่านมาได้จัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ไปแล้วกว่า 40 งาน
ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์และรีเทล ผ่าน Treasure M โดยพัฒนา Mingle Mall แหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์กีฬาในร่ม ซึ่งล่าสุดเปิด ‘Mingle Naiyang’ จ. ภูเก็ต
ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 20 บริษัทเปิดตัวพรีเซนเตอร์ ‘โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร’ และ ‘ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ’ คู่รักศิลปินและผู้ประกาศข่าว ที่มีคาแรกเตอร์สมาร์ท อบอุ่น มาร่วมสะท้อนตัวตนของแบรนด์แอสเซทไวส์ ผ่านการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ‘AssetWise 20 years of Happiness’ ซึ่งตัวหนังร่วมสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กลุ่มคนทุกเจเนอเรชันผ่านโซเชียลมีเดียครั้งแรกในวันที่ 5 ก.พ. 2025
อ่านเพิ่มเติม: ภูเก็ตสร้างรายได้ต่างชาติเที่ยวไทย 30% จากสัดส่วน นทท. เพียง 12% ทั่วประเทศ
อ่านเพิ่มเติม: แอสเซทไวส์ ลุยเปิด 12 โครงการใหม่
–