| เหตุใด ภูเก็ต ถึงเป็น
Tourist Destinations ระดับโลก |
||
| ประชากรรวมจังหวัดภูเก็ต | 2 ล้านคน | แบ่งเป็น ตามภูมิลำเนา 4 แสนคน/ประชากรแฝงกับนักท่องเที่ยว 1.6 ล้านคน
|
| นทท. ต่างชาติเข้าภูเก็ต ปี 2565 – Q1/2566 | 12% จากทั่วประเทศ
|
30% ของรายได้จาก นทท. ต่างชาติเข้าไทยทั้งหมด |
| ท่าเรือสำคัญ, ท่าเรือน้ำลึก | 5 แห่ง, 1 แห่ง | เรือยอชต์ และเรือสำราญดำเนินงานอยู่ในพื้นที่ 1,500 ลำต่อปี |
| ชายหาด | 13 แห่ง | |
| เกาะรอบจังหวัด | 6 เกาะ | |
| สายการบินระหว่างประเทศ | 16 สายการบิน | |
| สนามบินนานาชาติภูเก็ต | 1 แห่ง (อยู่ระหว่างขยายสนามบิน เฟสที่ 2) | |
| โรงเรียนนานาชาติ | 10 แห่ง | |
| สนามกอล์ฟ | 9 แห่ง | |
| สวนน้ำ | 5 แห่ง | |
| ราคาเฉลี่ยที่ดินเพื่อการพัฒนาคอนโดมิเนียม | 30-40 ล้านบาท/ไร่ | |
| เซกเมนต์อสังหาริมทรัพย์ | City Condominium, City Housing, Luxury Villas , Leisure Condominiums | |
| * ไฮซีซั่นของจังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างช่วงปลายเดือน ต.ค. – กลางเดือน เม.ย. | ||
| ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, แอสเซทไวส์, ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้/กรกฎาคม 2566 | ||
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า จากข้อมูลข้างต้น สะท้อนให้เห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในจังหวัดภูเก็ต
กอปรกับพฤติกรรมการซื้ออสังหาฯ แนวราบ และแนวตั้งของชาวต่างชาติส่วนใหญ่ในภูเก็ต ยังเป็นแบบ Leasehold ถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของตามกำหนดระยะเวลา 30, 60, 90 ปี และ 99.99% เป็นการซื้อขายผ่านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เกือบ 200 คน และส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ทำให้ปลายปี 2565 – ต้นปี 2566 แอสเซทไวส์ได้เข้าไปลงทุนกับบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ด้วยการถือหุ้น 30-60% ซึ่งเป็นบริษัทด้านการพัฒนาโครงการพูลวิลล่า ระดับลักชัวรี (Luxury Villas) ในภูเก็ต
เริ่มต้นการร่วมทุนด้วยการพัฒนาโครงการ BOTANICA Grand Avenue (โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว) ให้เป็น พูลวิลล่า ลักชัวรี่ ที่ดีที่สุดบนหาดบางเทา คาดว่าจะพร้อมเปิดให้ชมในเดือนกันยายน 2566
11 กรกฎาคม 2566 แอสเซทไวส์ ได้รับการอนุมัติเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE สัดส่วน 57.79% มูลค่าเงินลงทุน 1,040 ล้านบาท และมีส่วนรอซื้อเพิ่มเติมอีก 760 ล้านบาท
โดย TITLE นับเป็นหนึ่งในสองบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นอกจากศักยภาพการถือครองที่ดินของ TITLE แอสเซทไวส์ ยังมองเห็นถึงจุดเด่นของ TITLE อย่างเครือข่ายคนทำงานในพื้นที่ ทั้งเซลส์ซึ่งมาจากชาติที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดในจังหวัดอย่างรัสเซีย, นายหน้าอสังหาฯ ในจังหวัดที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับ TITLE กว่า 100 คน
ก่อนการเข้ามา Joint Venture ของ แอสเซทไวส์ ทาง TITLE มีการพัฒนาโครงการ Leisure Condominiums ไปแล้วรวม 7 โครงการ มูลค่า 5,928 ล้านบาท
หลังการเข้ามาร่วมทุนของ แอสเซทไวส์ TITLE มีโครงการเตรียมพัฒนาในกรอบระยะเวลาถึงปี 2569 อยู่ 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 14,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 80 ไร่ ใน 3 ทำเลศักยภาพของภูเก็ต ได้แก่ หาดในยาง 5 โครงการ, หาดบางเทา 3 โครงการ, หาดราไวย์ 1 โครงการ
ยอดรับรู้รายได้ตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท กรอบระยะเวลา ปี 2567-69 เฉพาะเป้าปี 2566 มูลค่าการพัฒนาโครงการ 6,500 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้ ปี 2567 อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
ด้านเป้าโครงการเปิดใหม่ทั้งหมดของแอสเซทไวส์ ปี 2566 รวม 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท ครึ่งแรกปีนี้ เปิดตัวแล้ว 7 โครงการ โดยตั้งเป้าให้ TITLE เข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) แก่แอสเซทไวส์ อยู่ที่ 20% หลังจากนี้
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ