วันที่ 7 มิถุนายนนี้ เราจะได้ดูหนังแฟรนไชส์ไดโนเสาร์ภาคใหม่ระดับตำนานที่มีอายุยาวนานกว่า 25 ปีอย่าง Jurassic World : Fallen Kingdom ที่ว่ากันว่านี้เป็นหนัง Jurassic ภาคที่ใช้ทุนสร้างสูงสุดเกือบๆ 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การที่หนัง “สวนสนุก ไดโนเสาร์” จะมีภาคต่อถึง 5 ภาค แถมทุกภาคยังทำกำไรเข้ากระเป๋าได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แม้ภาค 3 ที่มีรายได้ต่ำสุดแค่ 369 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมมีเสียงวิจารณ์ในแง่ลบมากมายว่านี้อาจจะเป็นภาคอวสานจุดจบของหนัง “สวนสนุกไดโนเสาร์” แต่หากมองไปที่ทุนสร้างแค่ 93 ล้านเหรียญสหรัฐ ในแง่การทำธุรกิจก็ยังถือว่า “คุ้มค่า”
การกลับมาของ Jurassic World
แต่การสะดุดกับรายได้ที่น้อยเกินคาดในภาคที่ 3 ก็ทำให้หนัง “สวนสนุกไดโนเสาร์” ต้องหายไปนานถึง 14 ปี แม้ตอนที่ภาค 3 กำลังฉายทั่วโลก จะมีการเตรียมความพร้อมที่จะถ่ายทำภาค 4 ต่อในทันที โดยตอนแรกนั้น “สตีเฟ่น สปีลเบิร์ก” ถูกวางตัวเป็นกำกับ Jurassic World หรือภาค 4 นั้นเอง
แต่ลงท้ายก็เกิดการเปลี่ยนตัวผู้กำกับมาเป็น “คอลิน เทรโวร์โรว์” เจ้าของผลงาน “Safety Not Guaranteed” พร้อมกับการได้รับอนุมัติทุนสร้าง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากค่าย “ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส” ซึ่ง ณ เวลานั้นถือว่าเป็นทุนสร้างหนังที่เยอะที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของหนัง “สวนสนุกไดโนเสาร์” ในขณะที่ “สตีเฟ่น สปีลเบิร์ก” เองก็ขยับไปนั่งเก้าอี้ Executive Producer
โดยการกลับมาครั้งนี้ Jurassic Worldโกยเงินมากที่สุดขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของหนังแฟรนไชส์ “สวนสนุกไดโนเสาร์” ทุกภาคที่เคยฉายนั้นคือ 1,672 ล้านเหรียญสหรัฐ
แต่กับภาคใหม่Jurassic World: Fallen Kingdom ที่กำลังจะเข้าฉายในเดือนหน้า พร้อมกับทุนสร้างที่เพิ่มจากภาคที่แล้วจาก 150 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐมาสู่ 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บวกกับกระแสการปล่อยคลิป 2 ตัวอย่างภาพยนตร์ที่มีกระแสตอบรับเชิงบวกให้คนทั่วโลกตั้งตารอชม
“ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส” จึงกล้าตั้งเป้าหมายรายได้กับการฉายทั่วโลก 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากทำได้ จะทำลายสถิตในภาคที่แล้วทันที
ถึงหนัง “สวนสนุกไดโนเสาร์” จะอยู่ในกรอบเดิมๆ คือ “ไดโนเสาร์หลุดออกจากกรง” สร้างความโกลาหลให้คนต้องวิ่งหนี แถมยังมีไดโนเสาร์ทะเลาะกัดกันทะลุจอ
แต่ถ้าสูตรหนังเดิมๆ ยังขายได้แล้วถูกใจผู้ชมทั่วโลก
ค่ายหนัง “ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส” ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรให้มากมาย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
