ตลาดประกันชีวิตโตต่อเนื่อง แต่ยังห่างไกลจากคำว่า “เข้าถึงทุกคน”

ตลาดประกันชีวิตไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงจากสมาคมประกันชีวิตไทย ระบุว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดมีมูลค่ารวม 653,923 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.23% จากปีก่อนหน้า และคาดการณ์ว่าในปีนี้จะยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น  2–3%

การเติบโตของตลาดในปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวของสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health+CI) ซึ่งเติบโตสูงถึง 13.66% คิดเป็นสัดส่วน 19.08% ของมูลค่าตลาดประกันชีวิตทั้งหมด

สำหรับปี 2568 คาดว่าตลาดประกันชีวิตจะเติบโตต่ออีก 2–3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก ดังนี้

• คนไทยให้ความสำคัญกับสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและโรคร้ายมากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ (Medical Inflation) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 8–10% และยังมีการขยายช่วงอายุรับประกันถึง 80 ปี
• รัฐมีมาตรการสนับสนุน เช่น การส่งเสริมการออมผ่านประกันชีวิต ด้วยสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท สำหรับกรมธรรม์ที่มีแผนความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
• การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงช่องทางการเข้าถึงให้สะดวกยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสในการเติบโต แต่ตลาดประกันชีวิตปี 2568 ยังเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังต้องปรับตัวตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 17 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งเปลี่ยนแปลงการรายงานรายได้ กำไร และหนี้สิน อาจส่งผลให้งบการเงินของบริษัทประกันผันผวนมากขึ้น

หากดูจากส่วนแบ่งตลาดประกันชีวิตในช่วงเดือนมกราคม–พฤษภาคม 2568 พบว่า 5 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ได้แก่

• AIA 25.68%
• FWD 14.90%
• ไทยประกันชีวิต 12.61%
• เมืองไทยประกันชีวิต 10.58%
• กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต 7.35%

กลยุทธ์การตลาดของแต่ละบริษัทในปี 2568 มีรายละเอียดดังนี้

AIA
AIA มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้า High Net Worth (HNW) ที่มีการจ่ายเบี้ยประกันขั้นต่ำ 250,000 บาทต่อปี โดยเปิดตัว “Prompt Program” เพื่อพัฒนาตัวแทนในระดับ Elite Advisor ซึ่งมีความรู้ครอบคลุมด้านการลงทุนและกฎหมาย ตอบโจทย์กลุ่ม HNW โดยเฉพาะ พร้อมกันนี้ AIA ยังออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) เพิ่มเติม เพื่อจับตลาดกลุ่มเป้าหมายนี้

FWD
FWD ประกันชีวิต ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน FWD CUBE สำหรับตัวแทนขาย โดยผสานการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมรายบุคคล ควบคู่กับการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค

ไทยประกันชีวิต
ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “การดูแลด้วยหัวใจ” ซึ่งถูกยกระดับเป็นวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาโปรดักต์และบริการที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิต โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีและการจัดการข้อมูล มุ่งออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่าย เบี้ยประกันเหมาะสม และครอบคลุมทั้งชีวิต สุขภาพ และโรคร้าย โดยเฉพาะกลุ่ม Silver Age หรือผู้สูงวัย พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสัญญาเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับเกณฑ์ Copayment ที่จะเริ่มใช้

เมืองไทยประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิตยังคงตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์แห่งความสุข ด้วยกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People” โดยเน้นพัฒนาศักยภาพคนในองค์กรทั้งฝ่ายขายและพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI, ทักษะสื่อสาร, ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และความรู้ข้ามสายงาน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคลมากขึ้น พร้อมขยายฐานลูกค้าองค์กรร่วมกับธนาคารกรุงไทย และพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าผ่านความร่วมมือกับแอกซ่าประกันภัยในโครงการ One AXA

อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน อัตราการเข้าถึงประกันชีวิตของคนไทยยังอยู่ที่เพียง 38% เมื่อเทียบกับมาเลเซียที่ 56% และสิงคโปร์ที่ 80% สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดไทยในอนาคต

---