Lego บริษัทของเล่นสัญชาติเดนมาร์กที่ดังจากตัวต่อประเทืองปัญญาเปิดเผย ยอดขายครึ่งแรกของปี 2025 ออกมาแล้ว ปรากฏว่าอยู่ที่ 3,900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 126,000 ล้านบาท) โตขึ้นมา 12% จากกรอบเวลานี้ของปี 2024
ข่าวดีของ Lego ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะนี่เป็นอัตราการเติบโตที่แซงหน้าตลาดของเล่นทั่วโลก ที่ในช่วงเวลาเดียวกัน โตเพียง 7%
โดยมีสาเหตุมาจากเทรนด์พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็หากิจกรรมให้ลูกหลานทำ เพื่อให้ไกลจากสมาร์ตโฟน และโซเชียลมีเดีย หลังมีผลการศึกษามากมายยืนยันว่า ส่งผลเสียต่อทั้งความสามารถในการจดจ่อและสุขภาพจิต
Niels B Christiansen ซีอีโอ Lego กล่าวว่า บริษัทอาจได้รับประโยชน์จากกระแสที่ผู้ปกครองต้องการให้ลูกหลานอยู่ห่างจากโทรศัพท์มือถือมากขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิต
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับผลวิจัยจาก GWI ที่พบว่า การเสพติดโซเชียลมีเดีย เป็นหนึ่งใน 3 ความกลัวสูงสุดที่ผู้ปกครองมีต่อบุตรหลาน ใกล้เคียงกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศและสงคราม
เทรนด์นี้ยังสะท้อนผ่านความสำเร็จของ Yoto บริษัทผู้ผลิตลำโพงไร้หน้าจอสำหรับเด็กจากอังกฤษ ที่มียอดขายเกือบสองเท่าในปีที่แล้ว และคาดว่าจะทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในปี 2025
นอกจากกลุ่มเด็กเล็กแล้ว Lego ยังคิดค้นของเล่นเพื่อจับกลุ่มเด็กช่วงใกล้วัยรุ่น (Tween) แม้ต้องแข่งขันกับโซเชียลมีเดียโดยตรง โดยมีการจับมือคาแรกเตอร์ดังของเด็กกลุ่มหลังอย่าง Bluey และ Pokémon เพื่อออกเกมดิจิทัล
ด้านตัวเลขและความเคลื่อนไหวในการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ของ Lego ช่วงครึ่งแรกปี 2025 ก็เป็นไปเชิงบวกและชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้า โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 645 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20,800 ล้านบาท) เพิ่มมา 10%
ขณะที่ยอดขายในจีนก็กลับมาโตอีกครั้ง พร้อมคาดว่ายอดขายทั่วโลกจะเติบโตต่อเนื่องอีก 9% ในช่วงครึ่งปีหลัง และเตรียมเปิดโรงงานในเวียดนามปีนี้ หลังเลื่อนมาจากปี 2024
ตามด้วยขยายโรงงานในเม็กซิโกและฮังการี นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดโรงงานแห่งที่ 7 ในสหรัฐอเมริกา ในปี 2027 อีกด้วย
สำหรับยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ Lego จากเทรนด์การหากิจกรรมและของเล่นให้ลูกๆ ของผู้ปกครอง เพื่อให้ลดหรือละจากสมาร์ตโฟน มีขึ้นท่ามกลางจำนวนประเทศหรือฝ่ายปกครองตามเมืองต่างๆ ที่ออกมาตรการห้ามหรือลดใช้ สมาร์ตโฟน
เช่นเมือง คางาวะ ของญี่ปุ่น ที่ออกกฎให้เด็กเล่นเกมบนสมาร์ตโฟน ได้เพียงวันละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เมื่อปี 2020 และมาสิงหาคมปีนี้เมืองโทโยอาเกะ ก็เตรียมออกกฎห้ามไม่ได้เด็กนักเรียนใช้สมาร์ตโฟนหลัง 4 ทุ่มไปแล้ว
ส่วนที่เกาหลีใต้ก็ได้ออกกฎห้ามไม่ให้เด็กนักเรียนใช้ สมาร์ตโฟนและสมาร์ตดีไวซ์ต่างๆ ในโรงเรียน เริ่มบังคับใช้มีนาคมปี 2026 เป็นต้นไป / theguardian