ตลาดรถมือ 2 ปี 2561 อัพเดทสถานการณ์ล่าสุด พร้อมวิเคราะห์สิ่งที่ลูกค้าต้องการเมื่อซื้อรถมือ 2
ในปี 2560 ธุรกิจรถยนต์มือสองได้มีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการรถมือสอง มองว่า ปีนี้ภาพรวมตลาดซบเซามากที่สุดในรอบ 6 ปี โดยมีสาเหตุมาจาก ผู้บริโภคสนใจซื้อรถยนต์มือสองน้อยลง เนื่องจากรถยนต์ใหม่ป้ายแดงในตลาดมีการแข่งขันด้านราคามากกว่าในอดีต บางรุ่นใช้เงินดาวน์เพียง 5,000 บาท หรือ บางรุ่นคิดดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ยาวถึง 5 ปี
ขณะเดียวกัน ปัจจัยเสี่ยงของตลาดรถยนต์มือสองในปี 2560 ก็คือ ธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองก็เข้มงวดมากขึ้นมากกว่ารถยนต์ใหม่ และส่งผลให้ปี 2560 ตลาดรถยนต์มือสองสามารถปิดตลาดที่ 1,396,500 คัน
ตลาดรถยนต์มือสอง ปีนี้กลับมาโต
สำหรับในปี 2561 ที่กำลังจะหมดปีในอีกไม่นานนี้ ถ้ามองดูภาพรวมตลาดรถยนต์ใหม่ทั้งปีเห็นได้ว่าตลาดสามารถเติบโตได้สูงสุดในรอบ 10 ปี โดย ไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ให้ข้อมูลว่า “ปีนี้รถยนต์ใหม่จะทะลุ 1 ล้านคัน หรือประมาณ 1,020,000 คัน เติบโต 17% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ มีการออกโมเดลใหม่ๆ มาอย่างสม่ำเสมอ และมีราคาที่ผู้บริโภคสามารถเอื้อมถึงได้ง่าย รวมทั้งเลือกอัตราดอกเบี้ยของรถยนต์ใหม่ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 2.65%”
และถ้าหันมาดูอีกหนึ่งตลาดที่ใกล้เคียงกันหรือเรียกได้ว่าเป็นพี่น้องกันก็คือ “ตลาดรถยนต์มือสอง” ซึ่งได้ถูกคาดการณ์ว่าในปี 2561 นี้จะกลับมาเติบโตได้ที่ 5% หรือคิดเป็น 1,470,000 คัน นับว่าเป็นการเติบโตในรอบ 5-6 ปีเลยทีเดียว
ทำไมตลาดรถยนต์มือสองถึงโต?
คำถามนี้คงคาใจหลายๆ คน เพราะตลาดรถยนต์ใหม่มีอัตราการเติบโตที่มากถึง 17% และมีจำนวนสูงถึง 1.02 ล้านคัน สามารถกล่าวได้ว่า รถมือสองยังสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้รถได้ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ได้ เพราะรถมีจะราคาถูกลงหลายแสนบาท และยังสามารถลดภาระค่างวดได้อีกจำนวนมากเมื่อเทียบกับรถใหม่
ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของรถยนต์มือสองจะอยู่ที่ 3.75% ถ้าเปรียบเทียบกับค่างวดที่ลดลงก็สามารถประหยัดไปได้หลายแสนบาทเลยทีเดียว
ผู้บริโภคต้องการอะไรจาก “รถยนต์มือสอง”
จะซื้อรถยนต์มือสองทั้งทีนอกจากประหยัดกว่ารถยนต์ใหม่แล้วแต่ก็มีข้อกังวลต่างๆ และนี่คือ 7 สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในตลาดรถยนต์มือสอง
1. ไม่ชนหนัก พลิกคว่ำ หรือโดนตัดหัว ตัดท้าย
2. ไม่ต้องการรถยนต์โดนสวมซาก หรือสวมทะเบียน จากอุบัติเหตุ
3. ไม่ใช่รถยนต์ที่โดนน้ำท่วม หรือจมน้ำ
4. ไม่ใช่รถยนต์ที่เคยโดนไฟไหม้
5. ไม่ใช่รถยนต์ที่ถูกตัดต่อแชสซี
6. ไม่ใช่รถยนต์ที่ผิดกฎหมายจนทำให้โอนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายไม่ได้
7. ต้องมีการรับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 เดือน
ทั้งหมดนี้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองต้องมีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคก่อนการตัดสินใจซื้อ
ตลาดนี้แข่งขันด้วยโปรโมชั่น
เมื่อทราบไปแล้วว่า 7 สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในรถยนต์มือสองนั้นคืออะไร ต่อมาสิ่งที่ต้องรู้คือ “ผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง” ต้องสู้กับรถยนต์ใหม่ด้วยอะไร?
แน่นอนว่ากลยุทธ์ของการสู้ศึก คือ แคมเปญ และโปรโมชั่น ตัวอย่างเช่น 9 บาท ออกรถได้เลย, ไม่ต้องมีคนค้ำ รับทอง, เคลือบแก้วฟรี, ประกัน 1 ปี เป็นต้น เห็นได้ว่าการสู้ศึกยังคงเป็นกลยุทธ์ดั้งเดิมคือ “การอัดโปรโมชั่น” ซึ่งในปัจจุบันคงทำเช่นนี้เพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองจึงเริ่มเดินหน้าอัดแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษผ่านช่องทาง Online ซึ่งเป็นโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนผ่าน Online และเข้ามาทดลองรถยนต์เท่านั้น
และสำหรับรถยนต์มือสองที่ได้รับความนิยมคือ รถยนต์ขนาดเล็ก หรือ Eco Car และจำพวกรถยนต์นั่ง SUV เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเจอรถยนต์ที่มีสภาพมือ 1 ขับเพียงไม่กี่หมื่นกิโลเมตร และสามารถประหยัดไปได้หลายแสนบาท พร้อมออกรถได้ง่ายและมีโปรโมชั่นที่มากกว่ารถใหม่อีกด้วย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ