วัน แบงค็อก การเดิมพันครั้งใหญ่กับโครงการที่เป็นที่สุดของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” ที่รอวันพิสูจน์
ท่ามกลางโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนทั้งหมดในอดีตถึงปัจจุบันของเมืองไทย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีก 8 ปีข้างหน้าคงต้องบันทึกไว้ว่า โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok) คือโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุด มีมูลค่าที่แพงที่สุด ในยุคหนึ่ง
รวมทั้งยังเป็นโครงการที่มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจอีกหลายๆ เรื่องทีเดียว

ใหญ่ที่สุด แพงที่สุดอย่างไร
วัน แบงค็อกเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูสในพื้นที่ 104 ไร่ (พื้นที่อาคารรวม 1.83 ล้าน ตร.ม) ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงที่สุด 120,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานจำนวน 5 อาคาร รวมกว่า 500,000 ตร.ม. ที่พักอาศัยระดับลักชัวรี 3 อาคาร พื้นที่ร้านค้าปลีกรวมกว่า 180,000 ตร.ม. และโรงแรมหรู 5 โรงแรม
Signature Tower ทุบสถิติตึกสูงเมืองไทย
ไฮไลต์อย่างหนึ่งของโครงการนี้ คือการมี Signature Tower สูง 430 เมตร หรือกว่า 90 ชั้น ภายในคือส่วนของอาคารสำนักงานและโรงแรม ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในสิบตึกที่สูงที่สุดในอาเซียน และแน่นอน คือตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทำลายสถิติตึกสูงเดิม คือ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเด้นซ์ ณ ไอคอนสยาม ที่มีความสูงถึงยอดแหลม 317.95 เมตร

มีโรงแรมในโครงการมากที่สุดถึง 5 โรงแรม
ทางโครงการมีตัวเลขว่าเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จจะมีคนเข้ามาใช้พื้นที่ในโครงการไม่ต่ำกว่าวันละ 2 แสนคน นอกจากเป็นคนภายนอกที่เข้ามาใช้บริการแล้ว ยังมีคนที่อยู่ในคอนโดที่อยู่อาศัย และพนักงานของบริษัทต่างๆ อีกไม่ต่ำกว่า 500 บริษัท หรือประมาณ 5 หมื่นคน
สำหรับกลุ่มลูกค้าโรงแรมคาดหวังชาวต่างชาติถึง 70% ลูกค้าคนไทยเพียง 30% แต่สำหรับห้องจัดเลี้ยงต่างๆ คาดหวังลูกค้าจากออฟฟิศต่างๆ ในโครงการเป็นหลัก
โดยโรงแรมแต่ละแห่งจะครอบคลุมตั้งแต่ระดับบูทีคโฮเทล โรงแรมเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักชัวรี รวมแล้วประมาณ 1,100 ห้อง โรงแรมลักชัวรีแห่งแรกคือ The Ritz-Carlton, Bangkok ที่ใช้งบลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท จะพร้อมเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2566
เป็นครั้งแรกเช่นกันที่แบรนด์นี้เข้ามาเปิดในกรุงเทพฯ หลังจากที่เคยมาเปิดไปแล้วที่สมุยและภูเก็ต

ใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าสูงที่สุดของตระกูล “สิริวัฒนภักดี”
วัน แบงค็อกเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของเจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี ราชาที่ดินเมืองไทย นอกจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ รายชื่อยาวเหยียดใน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือธุรกิจโรงแรมและการบริการ และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ธุรกิจ Retail & Wholesale และอาคารสำนักงาน
ภายใต้การบริหารของ “บริษัท แอสเสท เวิรด์” ที่ลูกสาว วัลลภา ไตรโสรัส เป็นคนดูแล และกำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว เจ้าสัวเจริญยังมีโครงการที่กำลังพัฒนาอีกหลายโครงการ
แต่ทั้งหมดที่พัฒนามาแล้วและที่กำลังพัฒนา “วัน แบงค็อก” เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าสูงที่สุด

วัน แบงค็อก ความท้าทายครั้งใหญ่ของ ปณต สิริวัฒนภักดี
เจ้าสัวเจริญมีลูกสาว (วัลลภา) และ ปณต ลูกชายคนสุดท้อง เป็นคนรับผิดชอบหลักกับทรัพย์สมบัติมหาศาลที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ในมือ สำหรับโครงการที่ท้าทายของตระกูลนี้เป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งมีปณตเป็นคนรับผิดชอบในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด
ปณตพิสูจน์ฝีมือในการทำธุรกิจอสังหาฯ ครั้งแรกๆ ของตระกูลด้วยการเข้าไปรับผิดชอบโครงการเอเชียทีค เมื่อประมาณปี 2555
ปัจจุบันนอกจากโครงการนี้แล้วเขายังมีโครงการอสังหาฯ ที่กำลังรับผิดชอบในมือหลายโครงการ เช่น เดอะ ปาร์ค (The PARQ) โครงการมิกซ์ยูสอีกแห่งบนถนนพระราม 4 ที่เฟสแรกจะแล้วเสร็จในต้นปีหน้า และโครงการพัฒนาที่ดินในย่านเวิ้งนาครเขษม
ปณตได้กล่าวในวันแถลงข่าว เผยมาสเตอร์แพลนระดับโลกของโครงการนี้ ณ เดอะ พรีลูด วัน แบงค็อก ว่า ตรงที่ทุกคนนั่งในห้องแถลงข่าวนี้ในอดีตคือที่ตั้งของสถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทย
ที่ดินแปลงประวัติศาสตร์ เป็นอีกเรื่องเล่าด้วยความภาคภูมิใจของตระกูล สิริวัฒนภักดี เพราะเดิมเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหาร และสวนลุมไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่ได้เอามาเปิดให้เอกชนประมูลรอบที่ 2 เมื่อปี 2556 โดยในปี 2557 เจ้าสัวเจริญประมูลชนะผู้ประกอบการอื่นอีก 18 รายมาได้
วันที่ 3 เมษายน 2560 เป็นวันเผยโฉมและเปิดโครงการวัน แบงค็อก เป็นครั้งแรก
วันที่ 8 มีนาคม 2561 เวลา 05.19 น. เริ่มดำเนินการก่อสร้างด้วยพิธียกเสาเอกต้นแรก
โดยเฟสแรกจะเปิดให้บริการในปี 2566 แล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2569

“วัน แบงค็อกจะสร้างนิยามใหม่และพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ความมุ่งมั่นของเราคือการเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดหลักความยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และผสานเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างสมบูรณ์ เราเชื่อมั่นว่า วัน แบงค็อก จะมอบสิ่งที่คู่ควรกับกรุงเทพฯ พร้อมชูให้ประเทศไทยโดดเด่นเป็นสง่าในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียนต่อไป”
คือคำพูดที่ ปณต ยืนยันว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
และแน่นอนเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับตระกูลของเขาเช่นกัน

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
