ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง คนยิ่งแต่งก็ยิ่งสวย และพฤติกรรมนี้เอง ได้ทำให้ ตลาดความงาม ในประเทศไทย เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในปีที่ผ่านมาจากตัวเลขของกันตาร์ เวิล์ดพาแนล (ไทยแลนด์) พบว่า ตลาดความงามมีมูลค่า 57,000 ล้านบาท เติบโต 3.8% ซึ่งเป็นการเติบโตสวนทางกับการติดลบของตลาด FMCG หรือสินค้าอุปโภค บริโภครวม

 

การเติบของตลาดความงาม 3.8% ได้ถูกแยกย่อยออกมา 4 กลุ่มได้แก่ ดูแลผมและศีรษะ, บอดี้แคร์, ดูแลผิวหน้าและเมคอัพ โดยตลาด เมคอัพ และดูแลผิวหน้า เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุด ส่วน ตลาดดูแลผิวหน้ายังคงเป็นตลาดที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดเพราะอะไร

การเติบโตนี้ อิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจ ได้สรุป เหตุผลว่า มาจากมูลเหตุ 4 ประการได้แก่

 

1.สาวไทยแต่งหน้าพร้อมสวยทุกเวลา

ในปีที่ผ่านมา ตลาดเมคอัพ มูลค่า 9,120 ล้านบาทถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุด ด้วยการเติบโต 8.7%

โดยสินค้าหลักที่ผลักดันให้ตลาดเมคอัพโตคือสินค้าประเภทที่ต้องใช้เป็นประจำ ได้แก่

ดินสอเขียนคิ้ว เติบโต 39%

ลิปสติก เติบโต 32%

ผลิตภัณฑ์ลองพื้น เติบโต 3%

การเติบนี้มาจากสาวไทย เริ่มสนใจความงามมากขึ้น จากการเติบโตของโลกโซเชียล ที่ทำให้สาวไทยรู้สึกว่า ตัวเองต้องสวยพร้อมเสมอ เพราะไม่รู้จะมีการถ่ายรูปกับเพื่อนๆ หรือถ่ายรูปเดี่ยวอัพลงโซเชียลเมื่อไร

และพลังของโซเชียลยังทำให้เกิด Micro Influencer และ Beauty Blogger ที่ใช้ช่องทางโซเชียลรีวิวสินค้าและแนะนำแต่งหน้าในรูปแบบต่างๆ จนสาวไทยที่ไม่เคยใช้เครื่องสำอางมาก่อนคล้อยตาม เกิดความอยากสวย และลองซื้อเครื่องสำอางตามที่แนะนำมาใช้

กันตาร์ ได้ศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าเมคอัพของผู้บริโภคชาวไทยพบว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดเมคอัพ เติบโต จากผู้บริโภค 2 กลุ่มคือ 1. ผู้ที่แต่งหน้าเป็นประจำ 74% และผู้ที่ไม่เคยใช้เครื่องสำอางมาก่อนมากถึง 4% และการเติบโตนี้มาจากสาวไทยในหัวเมืองหลักมากที่สุด

และการเติบโตของการใช้เครื่องสำอางของสาวไทย ยังทำให้ตลาดสินค้าลบเครื่องสำอางเติบโตมากถึง 14% อีกด้วย

 

2.สวย ต้องมีขั้นตอนดูแลผิวเพิ่มขึ้น

ถ้าเทียบกับปี 2556 สาวไทยมีขั้นตอนในการดูแลผิวหน้าที่เพิ่มขึ้น จาก 2.4 ขั้นตอน เป็น 2.52 ขั้นตอน


แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือว่าสาวไทยมีขั้นตอนบำรุงผิวหน้าน้อยว่าประเทศอื่นๆ เช่น จีนมีขั้นตอนในการบำรุงผิวหน้าเฉลี่ย 3 ขั้นตอน เกาหลี 7 ขั้นตอน

การเพิ่มขึ้นของขั้นตอนดูแลผิวมาจากสาวไทยเริ่มมีประสบการณ์ในการใช้สินค้าบำรุงผิวหน้าที่เพิ่มขึ้น จากความหลากหลายของสินค้าบำรุงผิวที่เข้ามาแนะนำให้สาวไทยรู้จัก ทำให้สาวไทยที่เคยเน้นบำรุงด้วย Moisturizer เป็นหลักเริ่มเปลี่ยนขั้นตอนในการบำรุงผิวหน้าไปจากเดิม

 

จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมา Mask ได้กลายเป็นหนึ่งในขั้นตอนหลักของการดูแลผิวหน้า มีการเติบโตมากถึง 12% เหตุผลจากพฤติกรรมสาวไทยที่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากการใช้สินค้าอย่างรวดเร็ว เช่นต้องเห็นผลภายใน 1 สัปดาห์

และ Mask ก็เข้ามาตอบโจทย์ตรงจุดนี้ เพราะเมื่อ Mask เสร็จ หน้าจะรู้สึกนุ่มและชุ่มชื่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

 

Mark Penetration

2558       7.1%

2559       8.2%

2560       10.2%

เทียบเทียบกับ Penetration ของผู้ใช้สินค้าบำรุงผิวหน้าทั้งหมด

 

3.วัยทำงานผู้สร้างการเติบโต

การเติบโตของสินค้าความงามในประเทศไทยอีกประการหนึ่งมาจากกลุ่ม Millennials ที่มีอายุระหว่าง 23-39 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนในการซื้อสินค้าความงามมากถึง 43% ในส่วนของ Value และ Volume

4.Mass ยังเป็นเจ้า ตลาดความงาม

ประการสุดท้ายของการเติบโตของตลาดความงามไทย ยังคงมาจาก สินค้า ระดับแมสเป็นหลัก

ซึ่งสินค้าระดับแมสเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทุกเซ็กเมนต์ จากประเทศไทยเป็นประเทศที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงเน้นไปยังสินค้าระดับราคาประหยัด

ใครๆ ก็ใช้ความงามระดับแมส

Mass Premium
Gen Z 74% 26%
Millennials 66% 34%
Gen X 65% 35%
Baby Boomer 69% 31%

กันตาร์ให้คำจำกัดความของตลาดแมส คือสินค้าที่มีราคาเฉลี่ย 176 บาท ต่อ 100 มิลลิลิตร และพรีเมียมมีราคาเฉลี่ย 536 บาท ต่อ 100 มิลลิลิตร

ทั้งนี้กันตารฯ ยังเชื่อว่า การเติบโตของตลาดความงามไทย ยังไปได้ไกลได้อีกมาก เพราะตลาดความงามในประเทศไทยนยังอยู่ในระยะเริ่มต้นในวงจรของการเติบโต  แต่ประเทศไทยจะเติบโตได้รวดเร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นตัวผลักดันกำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นสำคัญด้วยเช่นกัน  

 

อ่านคอนเทนต์การตลาด อ่าน MarketeerOnline

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online