MEGA ทำความรู้จักกับอาณาจักรยาและวิตามินหมื่นล้านที่โควิดอาจเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส (วิเคราะห์)

จากแรกเริ่มเป็นแค่บริษัทรับจ้างผลิตยา วิตามิน มีโรงงานผลิตฯ แห่งแรกที่สมุทรปราการ 

สู่อาณาจักรผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริมที่รู้จักกันในชื่อ “MEGA” ที่ปัจจุบันมีรายได้หมื่นล้าน 

ปี 2525 บริษัทมีชื่อแรกเริ่มว่า “วิคาส” เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เมดิแค็ป” และชื่อในปัจจุบันคือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือMEGA

มีทุนจดทะเบียนเพียงแรกเริ่ม 5 ล้านบาท มีผู้ก่อตั้งคือ “กิริต ชาห์”

ในตอนนี้สิ่งที่ทำให้โรงงานผู้ผลิตยา เวชภัณฑ์ แห่งนี้พิเศษกว่าที่อื่นคือ “แคปซูลเจลนิ่ม” หรือ Sofe Gelcapsule ที่ยังไม่มีผู้ผลิตในไทย และต้องอาศัยการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ

สิ่งที่ทำให้ เมก้า ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง รวมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นในธุรกิจรับจากผลิต (OEM) คือ ได้ผลิตยาความดันโลหิตสูงให้กับบริษัทแห่งหนึ่งและประสบความสำเร็จสูง จนในตอนนั้นเมก้าได้กลายเป็นหุ้นส่วนในการผลิตแต่เพียงผู้ดียว

ปี 2529 อีกหนึ่งคีย์แมนที่เข้ามาร่วมงาน และมีส่วนพาอาณาจักรเมก้าผ่านวิกฤตต่าง ๆ และยิ่งใหญ่ถึงทุกวันนี้คือ “วิเวก ดาวัน” ที่ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

จากที่เป็นแค่บริษัทรับจ้างผลิต OEM ปี 2537 บริษัทฯ ได้เริ่มทำแบรนด์ของตัวเองภายใต้บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด และรู้จักในเครื่องหมายการค้า “MEGA We Care”

และจากที่ผลิตจำหน่ายแค่ในไทย ก็เริ่มขยับขยายไปยังต่างประเทศทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลางรวม 34 ประเทศ และตั้งโรงงานผลิตในออสเตรเลีย

นอกจากนั้น ยังเข้าตลาดหลักทรัพย์ใส่นามสกุลมหาชนในปี 2556

สิ้นปี 2562 เมก้าฯ มีโรงงานผลิตยาทั้งหมด 3 แห่ง ในไทย 2 แห่ง และออสเตรเลีย 1 แห่ง

 3 โรงงาน มีกำลังผลิตยาเท่าไร

แคปซูลเจลนิ่ม 3.8 พันล้านแคปซูล/ปี

แคปซูลเจลแข็ง 117.9 ล้านแคปซูล/ปี

ยาผง 1,051.1 เมตริกตัน/ปี

ยิ่งใหญ่ขนาดนี้อาณาจักร MEGA รายได้เท่าไร

ต้องบอกก่อนว่าปัจจุบันอาณาจักรMEGA  มีรายได้จาก 3 กลุ่มธูรกิจด้วยกัน คือ

1. ธุรกิจผลิตภัณฑ์วิตามิน อาหารเสริมภายใต้แบรนด์MEGA We Care

2. ธุรกิจจัดจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า “Maxxcare” ใน 3 ประเทศคือ กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา

3. ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM)

โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์MEGA We Care ทำรายได้ให้เครือมากที่สุด มีสัดส่วนที่ 49.8%

 

ปี 2560 รายได้รวม 9,639.82 ล้านบาท กำไร 1,112.80 ล้านบาท

ปี 2561 รายได้รวม 10,456.21 ล้านบาท กำไร 1,206.01 ล้านบาท

และปี 2562 รายได้รวม 11,179.17 ล้านบาท กำไร 1,138.52 ล้านบาท

 

แม้ปีนี้จะเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ภาคธุรกิจสั่นคลอน แต่อีกหนึ่งธุรกิจที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ดีนอกจากหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ก็ยังมีกลุ่มยาและอาหารเสริม ที่นอกจากจะได้เทรนด์รักสุขภาพที่กำลังมา ยังได้อานิสงส์ของการซื้อตุนของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา

เพราะอาณาจักรเมก้ามีรายได้ในไตรมาสแรกของปีเพิ่มขึ้นจากเดิม 19% มีรายได้รวม 3,099.96 ล้านบาท และกำไร 319.98 ล้านบาท

ปีนี้คงต้องจับตาดูว่าวิกฤตในครั้งนี้อาณาจักรเมก้าจะต้องกินวิตามินเสริมมากน้อยแค่ไหน หรือจะแข็งแกร่งในวัยใกล้ 40 ปี

และคาดหวังรายได้และกำไรโตขึ้น 2 เท่าในอีก 5-7 ปีข้างหน้า

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer