หลังสงครามเกาหลีจบลงเมื่อเกือบ 70 ปีก่อน เกาหลีใต้เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แต่วันนี้พัฒนาจนเป็นประเทศชั้นนำบนเวทีโลก ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมบันเทิง โดย BTS คือหนึ่งในหัวหอกของวงการ K-pop ยุคนี้ ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาสร้างความสำเร็จไว้มากมาย ทว่าทั้งหมดจะไม่เกิดเลย ถ้าไม่มี Bang Si-Hyuk หัวเรือใหญ่ของ Big Hit Entertainment เป็นคนผลักดัน
Bang Si-Hyuk
Bang Si-Hyuk เกิดเมื่อ 9 สิงหาคม 1972 โดยจากความหลงใหลในเสียงดนตรีและเป็นคนชอบขีดชอบเขียน เขาจึงตัดสินใจเป็นนักแต่งเพลงเต็มตัวหลังจบมหาวิทยาลัย แม้ช่วงแรกเป็นแค่คนเบื้องหลังแต่ก็แต่งเพลงฮิตไว้มากมายจนได้ฉายา Hitman และเป็นฟันเฟืองหลักของวงการเพลงเกาหลีใต้ยุค 90 ในฐานะนักแต่งเพลงคนสำคัญของ JYP
ถัดจากนั้น Bang Si-Hyuk ก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับ JYP พรัอมกับการบุกตลาดเอเชียของเพลง K-pop รุ่นที่ 2 โดยผลงานที่ Bang Si-Hyuk ฝากไว้ช่วงนี้คือปั้น 2 วง Girl Group ดังของ JYP อย่าง T-ara และ Wonder Girls
ปี 2005 Bang Si-Hyukพาตัวเองก้าวไปอีกขั้น โดยเขาตัดสินใจตั้งค่ายเพลงของตัวเองขึ้นในชื่อ Big Hit Entertainment แต่จากการเป็นค่ายเพลงเล็ก ๆ ช่วงแรก ๆ ยังต้องพึ่งพาบริษัทใหญ่และดำเนินธุรกิจแบบร่วมทุน จึงถูกมองว่าเหมือนบริษัทลูกของค่ายใหญ่
Big Hit Entertainment ล้มลุกคลุกคลานอยู่อีกหลายปี ท่ามกลางปัญหามากมาย ไม่มีศิลปินทั้งเดี่ยวหรือกลุ่มแจ้งเกิดได้เลย การไม่ต่อสัญญาหรือย้ายค่ายของศิลปินในสังกัด ซ้ำร้ายสมาชิกในวง GLAM หนึ่งใน Girl Group ยังทำเรื่องฉาว ไป Blackmail นักแสดงชายรุ่นใหญ่อย่าง Lee Byung-hun จนต้องยุบวง
GLAM
มรสุมมากมายทำให้ Big Hit Entertainment ใกล้ล้มละลาย ฉุดชีวิตBang Si-Hyukร่วงสู่จุดตกต่ำ โดยเขาย้อนอดีตช่วงวิกฤตให้ฟังว่า ออฟฟิศของค่ายแทบร้าง จนศิลปินที่ไม่มีงานเข้าออฟฟิศมาเล่น Video Game แก้เซ็ง
สถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น หลัง BTS-Boy Band ที่มีสมาชิก 7 คนภายใต้สูตรการปั้นใหม่ของBang Si-Hyukที่ให้วงมีอิสระมากขึ้น แต่งเพลงกันเองโดยที่เนื้อหาขยับไปเรื่องชีวิตและความอึดอัดต่าง ๆ ของวัยรุ่นมากขึ้นไม่ใช่เรื่องรักเพียงอย่างเดียว
BTS ยังวางตัวเป็นเพื่อนผู้เข้าอกเข้าใจแฟนเพลงและเน้นใช้ Social Media สื่อสารกับแฟนเพลง ขณะเดียวกันยังรุกสู่ตลาดเพลงในชาติตะวันตกอย่างสหรัฐฯ กับประเทศแถบยุโรป ด้วยการทำเพลงร่วมกับศิลปินฝั่งตะวันตกมากมาย
นอกจากนี้ BTS ยังเป็น Boy Band วงแรกที่ได้ขึ้นพูดในสหประชาชาติอีกด้วย
ในที่สุด BTS ก็ ’ปักธง’ ในตลาดเพลงชาติตะวันตกได้สำเร็จ หลักฐานคือ การมีเพลงฮิตขึ้นชาร์ต Billboard มากมาย และมีอัลบั้มขายดีเทียบเท่าศิลปินรุ่นพ่ออย่าง The Beatles ขณะเดียวกันไปปรากฏตัวในรายการดัง ๆ มากมาย ส่วนคอนเสิร์ตในยุโรปก็กระแสตอบรับดีสุดๆ
ปัจจุบัน Big Hit Entertainment คือค่ายเพลง K-pop ชั้นนำที่ใต้ชายคาเดียวกันมีทั้งค่ายเพลงขนาดเล็กกว่าที่ซื้อกิจการมาและบริษัทเกม ขณะเดียวกันยังมี Socail Media และ Wallet App ของตัวเองเพื่อให้บรรดา “ติ่ง K-pop” ได้สื่อสารกับวงโปรด และซื้อสินค้าหรือบัตรคอนเสิร์ตต่าง ๆ จนติด Top 5 สุดยอดบริษัทนวัตกรรมและค่ายเพลงเบอร์หนึ่งด้านนวัตกรรมปีนี้ของนิตยสาร Fastcompany
ความสำเร็จของ Big Hit Entertainment ภายใต้การบริหารของBang Si-Hyukยังยืนยันได้จากผลประกอบการปี 2019 Big Hit Entertainment ที่สูงถึงกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15,725 ล้านบาท)
เป็นรองแค่เพียง SM Entertainment เท่านั้น และทิ้งห่าง JYP ต้นสังกัดเก่าของ Bang Si-Hyuk เองอย่างขาดลอย
ส่วนปีนี้ Big Hit Entertainment แรงไม่หยุด โกยเงินก้อนใหญ่จาก Streaming Concert ของ BTS ดันผลประกอบการครึ่งปีนี้เพิ่มขึ้นทั้งที่อุตสาหกรรมดนตรียังซบเซาจากวิกฤตโควิด และพร้อมแล้วสำหรับการทำ IPO
ท่ามกลางการคาดหมายว่าจะเป็น IPO ใหญ่ของบริษัทเกาหลีใต้ปีนี้ ที่จะดันมูลค่าบริษัทให้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 156,000 ล้านบาท)/forbes, variety, fastcompany, bloomberg, koreajoongangdaily, wikipedia seoulbeats
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ