สถานการณ์บริเวณพรมแดนรัสเซีย-ยูเครนที่กำลังตึงเครียดและมีแนวโน้มเลวร้ายลงได้ส่งผลต่อการลงทุนในยุโรปแล้ว
24 มกราคมที่ผ่านมาดัชนี FTSE ของอังกฤษลงมา 2.6% ต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ส่วน DAX ของเยอรมนีลงมา 3.8% และ Cac ของฝรั่งเศส ลดลง 4% โดยทั้งหมดมีสาเหตุเดียวกันคือการเทขายของนักลงทุนเพราะต่างก็กังวลว่ารัสเซียที่เพิ่มกำลังทหารบริเวณพรมแดนติดกับยูเครน อาจยกทัพข้ามพรมแดนได้ทุกเมื่อ ประกอบกับฝ่ายพันธมิตรชาติตะวันตกของยูเครนที่นำโดยสหรัฐฯ ก็ประกาศพร้อมปกป้องยูเครน
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนในสหรัฐฯ ที่เครียดเช่นกัน นำมาสู่การเทขายจนดัชนี S&P ลดลงมา 3%

สำหรับสถานการณ์บริเวณพรมแดนยูเครนกับรัสเซียกำลังถูกประชาคมโลกจับตามอง เพราะสหรัฐฯ กับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ให้การสนับสนุนทางทหารกับยูเครนมากขึ้น และโน้มน้าวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิก
รัสเซียมองว่านี่เป็นการยุยงและยิ่งช่วยให้อดีตประเทศในปกครองสมัยเป็นอดีตสหภาพโซเวียตแกร่งขึ้น จึงต้องเพิ่มกำลังทหารบริเวณพรมแดนติดกับยูเครนเป็น 100,000 นาย
ฝ่ายสหรัฐฯ ก็สั่งให้ทหาร 8,500 นายเตรียมพร้อม และสั่งให้ครอบครัวนักการทูตออกจากยูเครนเพราะคาดว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนได้ทุกเมื่อ ส่วนอังกฤษก็ให้ครอบครัวนักการทูตออกจากยูเครนด้วยเหตุผลเดียวกัน

ด้านสำนักข่าวในอังกฤษเผยข้อมูลอ้างแหล่งข่าวว่าหากรัสเซียบุกยูเครนจะเป็นปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบ และอาจดันหัวหน้ากลุ่มการเมืองนิยมรัสเซียขึ้นเป็นรัฐบาลหุ่นเชิด แน่นอนว่ารัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเรื่องทั้งหมด
ส่วนสถานการณ์ในยูเครน ล่าสุดแม้ประชาชนยังดำเนินชีวิตไปตามปกติ แต่ทุกคนก็ติดตามข่าวสถานการณ์บริเวณพรมแดนติดกับรัสเซียอย่างใกล้ชิดและต่างเตรียมหาที่หลบภัยใกล้ที่สุด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศชาวยูเครนให้ทัศนะต่อสถานการณ์นี้ผ่านบทความใน CNN ว่า ไม่ว่าจะพยายามใช้ชีวิตตามปกติอย่างไร แต่ชาวยูเครนทุกคนต่างก็กังวล เตรียมความพร้อมขั้นสุดและต้องเผื่อใจไว้หากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
เขาเปรียบว่าสถานการณ์ตอนนี้เหมือนในนิยายของ Anton Chekov นักเขียนบทละครชาวรัสเซียชื่อดัง ที่ว่า ปืนที่ปรากฏอยู่ในฉากแม้เพียงกระบอกเดียวก็เป็นสัญญาณว่าฉากต่อไปสถานการณ์ต้องเลวร้าย โดยสิ่งที่ชาวยูเครนเผชิญอยู่เลวร้ายกว่ามาก เพราะคือการมีกองทัพรัสเซียติดอาวุธนับแสนมาตรึงกำลังอยู่ใกล้บ้าน
ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky
และกำลังจะถูกสายลับรัสเซียมาจับตัวไปได้ทุกเมื่อจนไม่มีคืนไหนเลยที่หลับได้เต็มตื่น แต่ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky กลับทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน และไม่ประกาศให้ประชาชนเตรียมพร้อม

นักวิชาการด้านความมั่นคงชาวยูเครนคนนี้ยังให้ทัศนะด้วยว่า ที่เพื่อนร่วมชาติต้องเตรียมเพราะต่างก็รู้ดีว่าประเทศได้เข้าสู่ภาวะสงครามแล้วมาตั้งแต่ปี 2014 ที่รัสเซียให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏในแถบไครเมีย จนส่งกำลังทหารข้ามพรมแดนเข้ามาเกิดการสู้รบและมีผู้เสียชีวิตไปนับหมื่น โดยที่สุดยูเครนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องจำยอมยกพื้นที่แถบไครเมียให้รัสเซียไป/theguardain, bbc, wikipedia, cnn
–
