เกิดสถานการณ์ที่น่ากังวลขึ้นใน UK ท่ามกลางเศรษฐกิจวิกฤต ซึ่งแพลตฟอร์ม Fintech เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยกลุ่มที่กำลังมืดแปดด้านในสถานการณ์นี้มากสุดคือคนวัยทำงานรุ่นใหม่
ข้อมูลจากการสำรวจล่าสุดเผยว่ากลุ่มตัวอย่างในสหราชอาณาจักร (UK) จำนวนพอสมควร ใช้แพลตฟอร์มซื้อก่อน จ่าย (แบบผ่อน) ทีหลัง หรือ Buy Now, Pay Later (BNPL) และในจำนวนนี้ต่างก็กำลังติดกับดักหนี้
เพราะเงินที่หามาได้ไม่เพียงพอกับค่าครองชีพยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ซึ่งกลุ่มที่ติดกับดักทางการเงินลักษณะนี้มากสุดคือคนรุ่นใหม่
กลุ่มประเทศใน UK ก็ไม่ต่างจากประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมาตั้งแต่ทั่วโลกตกอยู่ใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อตัดวงจรการระบาดของโควิด-19
ตามข้อมูลเมื่อมกราคมที่ผ่านมาระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของ UK ซึ่งชี้วัดความเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า ขึ้นมาอยู่ที่ 5.5% สูงสุดในนับตั้งแต่ปี 1992
ในเดือนเดียวกันยังมีรายงานตามมาอีกว่า เงินเดือนของคนวัยทำงานใน UK ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี พอไตรมาสสองปีนี้ ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็กระจายไปทั่วยุโรป และยิ่งฉุดให้สถานการณ์ทางการเงินของคนวัยทำงานทรุดลงไปอีก
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ชาว UK ต้องดิ้นรนหาช่องทางบรรเทา ซึ่งหนึ่งในช่องทางยอดฮิตคือการใช้ BNPL อย่าง Klarna, Clearpay และ Paypal ที่เข้าถึงได้ง่าย มาใช้ผ่อนจ่ายสินค้า
แต่จากการที่หารายได้เพิ่มมาได้น้อย เงินจึงยังตึงตัว ต้องไปหยิบยืมเงินครอบครัวกับเพื่อนฝูง และหาช่องทางอื่นมาจ่ายหนี้ให้ BNPL
ที่สุดจึงมีชาว UK จำนวนไม่น้อยติดอยู่ในวังวนกับดักหนี้ โดยจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างชาว UK จำนวน 2,288 คนของ Citizens Advice มูลนิธิให้คำปรึกษาผู้มีปัญหาเรื่องหนี้ ระบุว่ากลุ่มที่ติดกับดักหนี้มากสุดคือคนวัย 18-34 ปี คิดเป็น 51% ของกลุ่มตัวอย่าง
มากกว่ากลุ่มตัวอย่างวัย 35-54 ปี 39% และ 55 ปี 24% ที่เจอปัญหาการเงินแบบเดียวกัน
Citizens Advice ระบุว่า BNPL กลายเป็นเหมือนที่พึ่งยามยากของชาว UK มาตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด และกลุ่มที่ใช้ BNPL มากสุดคือคนรุ่นใหม่ในวัยทำงาน
เพราะหลงผิดคิดว่าเป็น Fintech ที่ทันสมัยเพราะแทบไม่มีดอกเบี้ยให้ต้องกังวล แถมยังไม่มีเงื่อนไขการสมัครที่ยุ่งยาก ต่างจากการขอสินเชื่อบัตรเครดิต เดบิตหรือสถาบันการเงินแบบเดิมอีกด้วย
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจของ UK ก็เผชิญมรสุมลูกแล้วลูกเล่า บริษัทต้นสังกัดของคนวัยทำงานจึงไม่สามารถขึ้นเงินเดือนได้
และเมื่อเงินเดือนยังเท่าเดิมแต่ค่าครองชีพแพงขึ้นมากสุดสวนทางขึ้นมาในรอบหลายปี ชาว UK วัย 18-34 ปี จึงเป็นกลุ่มที่ติดกับดักหนี้มากที่สุด
Citizens Advice เสนอให้รัฐบาล UK โดยเฉพาะอังกฤษในฐานะศูนย์กลางการปกครองของ UK เข้ามาควบคุม BNPL
ส่วนทางแพลตฟอร์ม BNPL ก็ควรเพิ่มเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อและตรวจสอบประวัติผู้ขอสมัครให้มากขึ้น
Citizens Advice ทิ้งท้ายว่า สุดท้ายก็เป็นผู้บริโภคนั่นเองที่ต้องตัดสินใจให้รอบคอบว่ามีกำลังผ่อนจ่ายหลังซื้อมาแล้วไหวจริง ๆ หรือไม่
เรื่องนี้ยังต้องติดตามต่อ เพราะล่าสุด Apple ก็เข้าสู่ตลาด BNPL แล้วซึ่งมีการเผยแผนรุกตลาดนี้ระหว่างเปิดตัว Gadget ใหม่ ๆ และอัปเดต iOS ครั้งล่าสุดเมื่อ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ จะเป็นประเทศแรกที่ได้ใช้ BNPL ของ Apple และมีกรอบเวลาการผ่อนชำระอยู่ที่ 6 สัปดาห์/cnn
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ