ปีที่แล้วหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดอันดับ 1 แถมยังสร้างปรากฎการณ์ wow ไปทั่วเอเซียนั้นคือ “ฉลาดเกมโกง” โดยในไทยโกยรายได้เข้ากระเป๋าไป 112 ล้านบาท แต่หากนับรวมรายได้จากฉายต่างประเทศด้วยแล้วนั้นรวมๆ กัน “ฉลาดเกมส์โกง” โกยเงินไปเกือบ 1,500 ล้านบาทเลยทีเดียว
แต่นี่คือเรื่องเดียวในปี 2017 ที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท นอกนั้นอันดับ 2 ถึง 10 รายได้ไม่ได้หวือหวา ซ้ำร้ายอันดับ 10 ยังทำรายได้ไม่ถึง 10 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ติด Top Ten หนังไทยทำเงินในปี 2017 ที่ผ่านมา
แล้วอยากรู้ไหม! สถิติ หนังไทยรายได้ต่ำสุด มีเรื่องอะไรบ้าง แล้วถ้าต่ำสุดนี้รายได้เท่าไร บอกเลยเป็นตัวเลขที่ทำเอาผู้กำกับและนายทุนต้องกระอักเลือด
อ้างอิงจาก : www.thaiquote.org
5 เรื่องนี้รายได้ยังไม่แตะ 1 แสนบาทไม่ต้องบวกลบกำไรขาดทุนให้เสียเวลาและไม่น่าจะอยู่ในโรงภาพยนตร์ได้นานถึง 1 สัปดาห์ คงทำให้นายทุนผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยทั้ง 5 เรื่องบาดเจ็บกันทั่วหน้าและไม่กล้าที่จะเสี่ยงกับการลงทุนสร้างภาพยนตร์ไทยเรื่องใหม่
เหตุผลที่คนไทยไม่ดูหนังไทยก็เรื่องเดิมๆ นั้นคือหากเทียบความคุ้มค่าที่ต้องจ่ายเงินในราคา 150 – 200 บาทแล้วนั้นภาพยนตร์จาก ฮอลลีวูด สร้างความรู้สึกคุ้มค่ากว่า หรือถ้าจะขยี้ตรงประเด็นชัดคือ Content หนังไทยมากกว่า 80% ในความรู้สึกของมหาชนคือไม่ดีพอให้เสียเงินตีตั๋วเข้าไปชม
เมื่อทำธุรกิจแล้วขาดทุน ใครๆ ก็ไม่อยากทำ ภาพยนตร์ไทยในช่วง 2 -3 ปีเริ่มจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์น้อยลงต่อเนื่องจะเหลือแต่ชนิดตัวเต็งที่คาดว่าจะโกยเงินได้
แต่เชื่อไหมว่าผ่านมาเกือบ 5 เดือนมีเพียง 9 ศาสตรา ที่ฉายในช่วงเดือนมกราคมทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท,รองลงมาก็คือ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2 Part I รายได้ประมาณ 50 ล้านบาทที่เป็นภาพยนตร์เจาะคนดูต่างจังหวัด หรือแม้แต่หลวงพี่แจ๊ส 5G ที่โรงหนังต่างช่วยกันสุดฤทธิ์ด้วยการเทรอบฉายกันกระหน่ำยังทำรายได้ไม่ถึง 20 ล้านบาท
แล้วค่ายหนังไหนที่พอจะยิ้มได้บางในวิกฤตินี้ก็คงจะมีเพียง GDH 559 หลังจากเกิดการ “แตกหัก” ทางธุรกิจ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และ หับโหหิ้นบางกอก ก็มาตั้งบริษัทใหม่ด้วยชื่อนี้ โดยในปีที่ผ่านมา “ฉลาดเกมโกง” คือฝีมือของค่าย GDH 559 แม้เรื่องที่ 2 อย่าง “เพื่อนที่ระลึก” จะไม่ได้เปรี้ยงปร้างแต่ก็ยังทำรายได้ไป 50 ล้านบาท และปีนี้ น้อง.พี่.ที่รัก หนังเรื่องที่ 3 ของค่ายที่เพิ่งเข้าฉายในวันที่ 10 พ.ค. ก็กำลังสร้างกระแสโปรโมตแบบ “จัดหนัก”
GDH 559 จะรุ่งหรือร่วงในปีนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ที่ตอบได้คือหนังไทยค่อยๆ เหลือน้อยลงในทุกๆ ปี
จากในปี 2016 มีภาพยนตร์ไทยประมาณ 84 เรื่องที่เข้าโรงภาพยนตร์ ปี 2017 ที่ผ่านมาเหลือแค่ 62 เรื่อง และในปีนี้ 2018 มีการคาดการณ์ว่าจะเหลือไม่ถึง 50 เรื่องที่เข้าโรงภาพยนตร์
หากยังไม่มี Turning point ภาพยนตร์ไทยในเร็ววันในอนาคตอันใกล้ ภาพยนตร์ไทยอาจกลายเป็น Niche market หาชมได้เฉพาะแค่บางโรง หรือถ้าหนักไปกว่านั้นคือนายทุนถอดใจหยุดผลิตภาพยนตร์ไทยไปดื้อๆ
ติดตามเรื่องราวของสงครามการตลาดเพิ่มได้ที่ : Marketeer The Battle
หรือ Facebook Fanpage : Marketeer Online
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ