บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือเป็นอาหารที่ต้องมีติดบ้านไว้ เป็นอาหารจานด่วนที่ทั้งสะดวกรวดเร็วในการรับประทาน และราคาสบายกระเป๋า ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยม โดยในปีที่ผ่านมาสถิติการบริโภคบะหมี่กึ่งฯ ของคนไทยเฉลี่ยประมาณ 53.2 ซองต่อคนต่อปี มากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก
หากพูดถึงประวัติของบะหมี่ฯ หลายคนคงพอจะรู้ว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในไทยครั้งแรกราวปี 2514 ยี่ห้อแรกที่เข้ามาทำการตลาดในประเทศ คือ “ซันวา” จากนั้นวันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ยำยำ” ตามมาติด ๆ และในปีถัดไปก็เป็นคิวของ “ไวไว” และ “มาม่า” ตามลำดับ
ปัจจุบันแม้จะมีแบรนด์อื่น ๆ เข้ามาทำการตลาดในไทยจำนวนมาก แต่มาม่า ยำยำ และไวไว ยังคงเป็นเจ้าตลาด ที่ผู้บริโภคไทยหยิบซื้อด้วยความคุ้นเคย
ในตลาดบะหมี่ฯ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท (มูลค่า ณ ปี 2563) มาม่าครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณครึ่งหนึ่ง ตามด้วยไวไวและยำยำในสัดส่วนที่เกือบจะเท่า ๆ กัน ส่วนที่เหลือเป็นของแบรนด์อื่น ๆ จากทั้งในและต่างประเทศในปริมาณไม่เกิน 10%
บะหมี่ฯ จัดอยู่ใน Inferior good หรือสินค้าด้อย คือเป็นสินค้าที่เมื่อผู้บริโภคมีรายได้สูงขึ้นจะต้องการบริโภคลดลง ด้วยการผลิตในปริมาณที่มากทำให้เกิด Economy of Scale บะหมี่ฯ จึงสามารถขายในราคาต่ำได้อย่างยาวนาน จะเกิดการขยับราคาครั้งหนึ่งใช้เวลาเกือบสิบปี แต่ถึงอย่างนั้นบะหมี่ฯ ซองมีกำไรต่อซองที่ต่ำมาก ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกสู่กลุ่มพรีเมียมและพรีเมียมแมสมากขึ้น เพราะให้กำไรได้มากกว่า
ยกตัวอย่าง มาม่า ที่มีด้วยกันทั้งหมด 48 รสชาติ ทั้งแบบซองและถ้วย มาม่าเริ่มลุยกลุ่มพรีเมียมครั้งแรกในปี 2546 ด้วยการส่ง ‘มาม่าบิ๊กแพค’ ที่ขายในราคาสูงขึ้น ตามด้วยผลิตภัณฑ์ ‘มาม่า ออเรียนทัล คิตเช่น’ ในปีถัดมา จนถึงแบบคัพในปี 2549 ก่อนจะออกผลิตภัณฑ์แบบคัพมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บะหมี่ฯ ซองในราคาย่อมเยา 6 บาทนั้นมีปริมาณผลิตภัณฑ์ในสัดส่วนที่มากพอสมควรของทุกแบรนด์ อย่างมาม่า มีบะหมี่ฯ ราคา 6 บาทอยู่ประมาณสูงถึง 70-80% ของผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งฯ ขณะที่ยำยำและไวไวอยู่ที่ประมาณ 70%
จากข่าวขอขึ้นราคาเป็น 8 บาทต่อซอง วันนี้ Marketeer จึงอยากพาทุกท่านมาย้อนดูรายได้และประวัติการขึ้นราคาบะหมี่ฯ ซองของแต่ละบริษัทว่ามีภาพรวมเป็นอย่างไร
“มาม่า ยำยำ ไวไว” ใครขายดีกว่ากัน พร้อมย้อนรอยราคาก่อนจะขอขึ้น 8 บาท
| เครื่องหมายการค้า | มาม่า | ยำยำ | ไวไว |
| บริษัท | ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จัดจำหน่ายโดย บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) | วันไทย อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด และเข้าร่วมทุนเป็นกลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ | โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด |
| ปีก่อตั้ง | 2515 | 2514 | 2515 |
| ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งฯชิ้นแรก | บะหมี่รสซุปไก่ | บะหมี่รสหมูสับ | ไวไวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรุงสำเร็จ |
| รายได้ปี 2564 (ลบ.) | 25,410 | 5,077 | 6,798 |
| กำไร 2564 (ลบ.) | 3,574.64 | 267.24 | 306.04 |
| ราคาขายบะหมี่ซอง | 2515 : 2 บาท
2540 : 5 บาท 2550 : 6 บาท |
แต่เดิมขายที่ 4.50 บาท/ซอง
2540 : 5 บาท(พ.ศ.ไม่แน่ชัด) 2550 : 6 บาท |
แต่เดิมขายที่ 4.50 บาท/ซอง 2555 : 5.50 บาท 2565 : 6 บาท *เป็นราคาไวไวรสดั้งเดิม |
ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, เว็บไซต์บริษัท, Marketeer รวบรวม
–

