พิพิธภัณฑ์อาหารและขนม 5 แห่งจากทั่วโลกที่ต้องไปชิมด้วยตา

เคยได้ยินชื่อพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ไหม พิพิธภัณฑ์ไอศกรีม พิพิธภัณฑ์ราเมนสำเร็จรูป หรือพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต พิพิธภัณฑ์เหล่านี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์อาหารและขนมชื่อดังของโลก โดยแต่ละพิพิธภัณฑ์มีเป้าหมายที่จะบอกเล่าเรื่องราว ประวัติ และความเป็นมาของอาหารแต่ละประเภทอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง

ของกินอย่างอาหารและขนมเป็นมากกว่าสิ่งที่อยู่ในจาน เพราะวัตถุดิบทุกอย่างล้วนมีที่มา พิพิธภัณฑ์อาหารหลายร้อยแห่งทั่วโลกจึงทำให้สิ่งเหล่านี้มีเรื่องราว มีชีวิตชีวาและจับต้องได้ขึ้นมา

มารู้จักกับ 5 พิพิธภัณฑ์อาหารและขนม ที่จะพาคุณเข้าไปผจญภัยในโลกอาหารกันเถอะ

พิพิธภัณฑ์ไอศกรีม (Museum of ice cream) ประเทศสิงคโปร์

Museum of Ice Cream หรือ MOIC ก่อตั้งโดย Maryellis Bunn (เมอร์ริลิส บุนน์) และ Manish Vora (มานิช โวรา) เนื่องจากเมื่อตอนที่ Maryellis Bunn ยังเด็ก เธอใฝ่ฝันอยากกระโดดลงสระว่ายน้ำที่เต็มไปด้วยเกล็ดน้ำตาลที่ราดบนไอศกรีมหลากสีสักครั้ง ความฝันนี้ทำให้เธอกลายเป็นผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ร่วมกับ Manish Vora

Museum of ice cream

ในตอนแรก MOIC เป็นเพียงป๊อปอัปที่เปิดขึ้นในเขต Meatpacking ของนครนิวยอร์กในปี 2016 เท่านั้น แต่ภายหลังการระดมทุนของทั้งคู่ทำให้สามารถเปิดพิพิธภัณฑ์ได้ในที่สุด

MOIC เป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์ธรรมดา ด้วยความตั้งใจของทั้งคู่ที่จะสร้างสถานที่ให้เป็นพื้นที่แห่งการ ‘Experium’ ซึ่งเป็นการผสานคำว่า Experience กับ Museum เข้าด้วยกัน MOIC จึงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มอบประสบการณ์แสนสนุกให้ผู้เข้าชมที่สามารถร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ และโพสต์ท่าถ่ายรูปได้อย่างอิสระ ซึ่งแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ

นอกจากในสหรัฐอเมริกาแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้พิพิธภัณฑ์ไอศกรีมนานาชาติของโลก MOIC ได้เปิดให้บริการในสิงคโปร์ พิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับไอศกรีม และประวัติของไอศกรีมจากธีมห้องที่สามารถใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ในแต่ละห้องของพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งยังมีร้านค้า และร้านกาแฟที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของไอศกรีมและเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้

‍ด้วยงานศิลปะที่จัดวางอย่างสวยงามและน่าสนใจในพื้นที่ 60,000 ตารางฟุต ใช้เวลาสำรวจและศึกษาประมาณ 60 – 90 นาที ในการช่วยสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายจินตนาการของนักท่องเที่ยว ทำให้พิพิธภัณฑ์นี้ช่วยกระตุ้นความมีชีวิตชีวาและความเป็นเด็กในตัวนักท่องเที่ยวอีกครั้งอย่างง่ายดาย จึงถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องมาเยือนของสิงคโปร์เลยทีเดียว

พิพิธภัณฑ์ขนมหวาน (The dessert museum) ประเทศฟิลิปปินส์

พิพิธภัณฑ์ขนมหวานก่อตั้งโดย Tasha Reyes (ทาชา เรยส์) Katrina Lacap (คริสตินา ลาแคป) และ Joseph Moore (โจเซฟ มัวร์) ในปี 2018 ภายใต้แนวคิดความรักและความหลงใหลในขนมหวาน จึงร่วมกันออกแบบพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา

พิพิธภัณฑ์ขนมหวานเป็นพิพิธภัณฑ์อาหารชั้นนำที่ตั้งอยู่ในฟิลิปปินส์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุด ด้วยการตกแต่งสีชมพูและการออกแบบที่สวยงาม ทำให้ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบของหวาน ก็จะเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดให้มาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์นี้มากขึ้น

The dessert museum

พิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ประสบการณ์แก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ขนาด 12,000 ตารางฟุต โดยสามารถถ่ายรูปภายในห้องทั้ง 8 ห้องได้อย่างอิสระ ดังนี้ ห้องโดนัตสุดประทับใจ ห้องมาร์ชเมลโลว์นับหมื่นที่เรียงกันเป็นชั้น ๆ ในห้อง ห้องแคนดี้เคนสร้างจินตนาการ ห้องไอศกรีมแห่งสีสัน ห้องขนมสายไหมยักษ์ที่ตกแต่งไปด้วยเครื่องผลิตขนม ห้องหมากฝรั่งที่จัดวางอย่างสร้างสรรค์ ห้องกัมมี่แบร์เยลลี่หมีสุดน่ารัก และห้องเค้กป๊อปแสนสนุก

นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ขนมหวานยังเป็นสถานที่เรียนรู้ประวัติต่าง ๆ และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจของขนมหวานได้เป็นอย่างดี เช่น วิธีที่ทันตแพทย์ วิลเลียม มอร์ริสัน และผู้ผลิตขนม จอห์น ซี. วาร์ตัน ทำขนมสายไหมโดยใช้น้ำตาลไหมขัดฟัน เป็นต้น ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้โด่งดังติดอันดับต้น ๆ ของพิพิธภัณฑ์ที่ต้องมาเที่ยวชมให้ได้สักครั้งหนึ่ง

พิพิธภัณฑ์ราเมนสำเร็จรูป (Instant ramen museum) ประเทศญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ Momofuku Ando Instant Ramen Museum ตั้งอยู่ในเมืองอิเคดะ โอซากา เป็นพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ Momofuku Ando (โมโมฟุคุ อันโด) ผู้ก่อตั้งบริษัท Nissin Food Product และผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นเป็นคนแรก

Instant Ramen Museum

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงแต่รวบรวมประวัติความเป็นมา วัตถุดิบที่ใช้ และกระบวนการผลิตของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อนิชชิน แต่ยังเปิดให้ผู้เข้าชมได้มีประสบการณ์ในการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยตัวเองอีกด้วย

ภายในพิพิธภัณฑ์จะตกแต่งไปด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของนิชชินทุกรสที่เคยวางขาย พร้อมนิทรรศการให้ชมความเป็นมาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนิชชิน รวมทั้งมีกิจกรรม My Cup Noodle Factory ให้นักท่องเที่ยวปรุงบะหมี่คัพรสชาติเป็นของตัวเอง และออกแบบดีไซน์กราฟิกบนถ้วยบะหมี่ได้เองอีกด้วย

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ เวิร์กช้อปทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ (Chicken Ramen Factory) ซึ่งจะได้เรียนรู้วิธีการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ รสชาติแรกของนิชชินที่วางตลาดตั้งแต่ปี 1958 โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการทำเส้นไปจนถึงการบรรจุใส่ซอง

พิพิธภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูปแห่งนี้จึงได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ด้วยประวัติความเป็นมาที่เต็มไปด้วยพลังในการสร้างแรงบันดาลใจ และกิจกรรมที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Museu de la Xocolata) ประเทศสเปน

พิพิธภัณฑ์ Museu de la Xocolata ตั้งอยู่ในบาร์เซโลนา สเปน ก่อตั้งโดย Gremio de Pastelería de Barcelona สมาคมผู้ผลิตขนมอบของเมือง ในปี 2000

ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เต็มไปประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลตในยุโรป การค้นพบเมล็ดโกโก้ และเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับช็อกโกแลต

Museu de la Xocolata

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตแห่งนี้แบ่งพื้นที่เป็น 8 ส่วน โดยมีทั้งร้านค้า-คาเฟ่สำหรับชิมช็อกโกแลตและขนมอบโฮมเมดชั้นเลิศ และพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับโกโก้และช็อกโกแลต ซึ่งมีการอธิบายกระบวนการทั้งหมดอย่างละเอียด ตั้งแต่เมล็ดโกโก้จนถึงจุดที่โกโก้กลายเป็นช็อกโกแลต รวมถึงกิจกรรมที่หลากหลายเกี่ยวกับช็อกโกแลตอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงสามารถเป็นสถานที่ศึกษาที่มีชีวิตชีวาและสร้างสรรค์ให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน ซึ่งตรงกับจุดมุ่งหมายหลักของพิพิธภัณฑ์ นั่นก็คือ การพัฒนาด้านวัฒนธรรมที่มุ่งเผยแพร่และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมช็อกโกแลต เพื่อเพิ่มชื่อเสียงด้านอาหาร ควบคู่ไปกับการทำช็อกโกแลตและประเพณีการทำขนมของประเทศ

ด้วยความที่พิพิธภัณฑ์ Museu de la Xocolata เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร จึงทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่ามาเยือน และสัมผัสกับประสบการณ์เกี่ยวกับช็อกโกแลตต่าง ๆ

พิพิธภัณฑ์มันฝรั่ง (The potato museum) ไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา

เป็นที่รู้กันว่าไอดาโฮขึ้นชื่อในเรื่องมันฝรั่ง ทำให้พิพิธภัณฑ์มันฝรั่งตั้งอยู่ที่นั่น ในฐานะหนึ่งในพิพิธภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคนที่หลงใหลในมันฝรั่ง โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1988 ภายในอาคาร 5,500 ตารางฟุต ซึ่งแต่เดิมเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่

The potato museum

พิพิธภัณฑ์มันฝรั่งแห่งนี้ประกอบด้วย การอภิปรายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมันฝรั่งและความสำคัญต่อรัฐไอดาโฮ รวมไปถึงการจัดแสดงนิทรรศการมันฝรั่งแผ่นทอดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับมันฝรั่งในรัฐไอดาโฮ

พิพิธภัณฑ์มันฝรั่งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติมันฝรั่ง กระบวนการปลูกและเก็บเกี่ยว โภชนาการ เกร็ดความรู้ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมมันฝรั่งอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์มันฝรั่งแห่งนี้เป็นสถานที่ให้ความรู้ และสามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของมันฝรั่งได้อย่างสนุกสนาน จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ หากมาเยือนรัฐไอดาโฮ