หากลองถามคนรอบข้างดูว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องพกติดกระเป๋าเสมอ คืออะไร  คำตอบจะต้องเป็น “ยาดม” อย่างเเน่นอน

ยาดมกลายเป็นหนึ่งในไอเทมที่ใครหลายคนขาดไม่ได้ ยิ่งในช่วงที่อากาศไม่ปลอดโปร่งด้วยแล้ว พอวิงเวียนศีรษะที ก็ต้องหยิบขึ้นมาดมที เป็นเช่นนี้มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นไอเทมไทยสไตล์ไปเเล้ว

เเต่ไม่ว่าชาติไหน ๆ ยาดมไทยก็ไม่ได้จำกัดอยู่เเค่ในกลุ่มคนไทยเเล้ว เเต่ใช้กันไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะกับกลุ่มไอดอลเกาหลี ที่สร้างเเรงกระเพื่อมต่อตลาดอย่างมาก เมื่อใครคนหนึ่งยกขึ้นมาใช้ เเฟนคลับจำนวนมหาศาล ก็เเห่ซื้อตามจนผลิตแทบไม่ทัน

อย่างล่าสุด เมื่อลิซ่า Blackpink ถ่ายภาพคู่ยาดมหงส์ไทยลงบนโซเชียลมีเดีย ก็เกิดเป็นไวรัลดัง คนเเห่ซื้อสินค้าตามจนขาดตลาด ซึ่งนอกจากลิซ่า ก่อนหน้าก็มีไอดอลคนดังอื่น ๆ อาทิ เเจ็คสัน GOT7, หวังอี้ป๋อ, มินนี่ (G) I-DLE, แบมแบม GOT7, เเจมิน NCT, เยดัม Treasure ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม คุณภาพที่ดีของยาดมไทยทำให้สินค้าขายดีมาตลอดอยู่เเล้ว จึงไม่น่าเเปลกใจที่ตลาดยาดมจะมีมูลค่าระดับพันล้านบาท

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรหลากหลายชนิด ทำให้ผู้คิดค้น ผลิตยาดมชนิดต่าง ๆ ออกมานำเสนอแก่ตลาดได้ทุกรูปแบบ เเละไม่ซ้ำเดิม  ทุกวันนี้ประกอบไปด้วยรูปแบบเเท่ง ขวดขนาดเล็กบรรจุน้ำยา กระปุกขนาดเท่าฝ่ามือ ตลับแบน ๆ ตลอดจนหลอดเล็ก ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค

เเม้เป็นสินค้าชิ้นเล็ก เเต่ก็มีมูลค่ามหาศาลเมื่อรวมกันเป็นตลาดใหญ่ เพราะผู้บริโภคคนหนึ่ง มียาดมหลายชิ้น ด้วยเป็นสินค้าราคาต่ำ ตัดสินใจซื้อง่าย

เคยมีการสำรวจของ Ac Nielsen เมื่อห้าปีก่อนว่า ในจำนวนประชากรไทย 70 ล้านคน มีคนใช้ยาดมอย่างน้อย 10% และในหนึ่งเดือนใช้อย่างน้อย 2 หลอดเป็นอย่างต่ำ

จนเกิดสินค้าเคสกระปุกยาดมตามมา เมื่อร้านค้าออนไลน์ต่างปิ๊งไอเดีย ทำเคสสำหรับกระปุกยาดม เพื่อเพิ่มความน่ารักสวยงามเวลาหยิบขึ้นมาใช้

เคสกระปุกยาดม

ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์

เจ้าของเดียวกับเซียงเพียว หรือเซียงเพียวอิ๊ว ยาดมยาหม่องที่มีรูปอากงติดอยู่หน้ากล่อง ของบริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด

รายได้ปี 2564 อยู่ที่ 1,420 ล้านบาท เเต่เมื่อปี 2563 เผชิญกับโควิดรายได้ก็ดรอปลงเช่นเดียวกับเเบรนด์อื่น ๆ ในปี 2563 รายได้ลดลง 29.1% เเต่เป็นรายได้รวมทั้งบริษัทไม่ใช่เพียงเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ตัวเดียว

นอกจากวางจำหน่ายในไทยเเล้ว ยังส่งออกขาย 22 ประเทศทั่วโลก ทั้งยุโรปเเละอเมริกาอีกด้วย ปัจจุบันอยู่ในมือทายาทรุ่นที่ 3

ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ต่อยอดมาจากตัวยาหม่องน้ำ “เซียงเพียวอิ๊ว” สินค้าตั้งเเต่รุ่นอากงที่รูปลักษณ์อาจดูเชยไปเสียหน่อย เเต่เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ที่เปิดตัวในปี 2005 เป็นทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อยากใช้สินค้ารูปลักษณ์ทันสมัยขึ้น อีกทั้งกลิ่นก็ถูกออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ซึ่งหลังจากนั้น ก็มียาดมภาพลักษณ์ใหม่ ๆ เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้ง แบล็คอินเฮเลอร์ ยาดมสีดำทั้งเเท่ง ฉีกรูปแบบให้ดูเท่  เเละเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ แมสก์ดรอป สำหรับหยดใส่เเมส เหมาะสำหรับช่วงที่คนต้องใส่เเมสจนรู้สึกอึดอัด

ยาดมพาสเทล

ของบริษัท มัลติพลาย บาท เอท (X8) กลุ่มบริษัทในเครือ คิง เพาเวอร์ ได้เปิดตัวแบรนด์ยาดม Pastel (พาสเทล) ไปเมื่อปีที่เเล้ว มีแบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ เเบมเเบม GOT7 นั่งเเท่นพรีเซนเตอร์ เพื่อสร้าง Brand Awareness ไปในวงกว้าง  เพราะเป็นบุคคลมีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าวัยรุ่น เเละคนทำงานยุคใหม่ รวมถึงตลาดต่างประเทศ

ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนเกิดเป็นชื่อสินค้าที่ผู้บริโภคตั้งให้ใหม่ว่า “ยาดมแบมแบม” เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยดีไซน์การใช้แสนสะดุดตา สีสันทันสมัย สไลด์เปิดเเทนการหมุนฝา เเก้ Paint point เรื่องฝาหายไปเสียสนิท  ตามสโลแกนว่า “ยาดมพาสเทล ฝาไม่หาย”

โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่  เหล่านักเรียนนักศึกษา และวัยทำงาน

รายได้ปี 2564 ที่ 92 ล้านบาท ซึ่งนอกจากยาดมพาสเทล ยังมี คลิปหอมพาสเทล สำหรับติดเเมส ที่โด่งดังไม่เเพ้ยาดมด้วย

โป๊ยเซียน

หากพูดถึงยาดม “โป๊ยเซียน” ไม่มีทางหลุดโผอย่างเเน่นอน  เพราะเป็นยาดมระดับตำนานของไทย ที่นักท่องเที่ยวประเทศไหน ๆ ก็อดไม่ได้ ที่จะซื้อติดไม้ติดมือหิ้วกลับประเทศไปด้วย

ยาดมโป๊ยเซียน เป็นของบริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด ที่เริ่มมาจากเพียงเเค่ร้านขายสมุนไพรเล็ก ๆ บนถนนเยาวราชสมัยสามสิบปีก่อน ของตระกูลลาภบุญทรัพย์  พวกเขาพัฒนาสูตรจนได้มาเป็น ยาดม “พีเป๊กซ์” ก่อนจะต่อยอดสู่รูปแบบใหม่ เป็นแบรนด์ “ยาดมตราโป๊ยเซียน” พร้อมสโลแกนที่คนทุกเพศทุกวัยรู้จัก “ยาดมตราโป๊ยเซียน ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน”

ปี 2564 รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 751 ล้านบาท เเต่ในปี 2562 รายได้อยู่ในระดับหลักพันล้านบาทนอกจากยาดมตราโป๊ยเซียนเเล้วนั้น  ยังมีพิมเสนน้ำเเละยาหม่องตราโป๊ยเซียนด้วย

ยาดมหงส์ไทย

ยาดมกระปุกเขียว ที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ เพราะล่าสุดคนดังอย่าง ลิซ่า Blackpink ถ่ายภาพติดยาดมหงส์ไทยลงบนโซเชียลส่วนตัว ทำให้คนเเห่ซื้อตาม จนบริษัทต้องออกมาเเถลงการณ์ขออภัยที่สินค้าขาดตลาด

เเต่ก่อนจะเป็นกระเเสจากลิซ่า  ยาดมหงส์ไทยเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น วัยทำงานอยู่ก่อนเเล้ว เจ้าของคือ บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด  ถือเป็นยาดมสมุนไพรหมักเจ้าแรกของประเทศไทย ที่เริ่มขายจากพิมเสนน้ำก่อนจะพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่นๆ เเละขายมาตั้งเเต่ยังไม่มีฉลาก จนกระทั่งบรรจุใส่กระปุกเขียว

ปี 2564 มีรายได้รวม 25 ล้านบาท โตจากปีก่อนหน้า 39.4%

ด้วยกลิ่นสมุนไพร หอมเเบบเฉพาะตัว ช่วยให้หายใจโปร่ง โล่งสบาย กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่โด่งดังในหมู่คนทำงานพนักงานออฟฟิศเป็นอย่างมาก มากไปกว่านั้นคุณสมบัติที่ดมเเล้วโล่งโปร่ง ตื่นตัวขึ้นมาทันที ทำให้หงส์ไทยกลายเป็นไอเทมประจำคอนเสิร์ตของเหล่าเเฟนคลับอีกด้วย

ศิลปินต่างชาติกับยาดมไทย

 

จากข้างต้น เเสดงให้เห็นว่า ยาดม ที่พยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ดีไซน์ ให้มีความทันสมัย สีสันสะดุดตา ก็เพื่อเเข่งขันกันอวดโฉมที่ถูกจริตคนรุ่นใหม่  เเย่งชิงลูกค้าที่ล้วนเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ที่ต้องการใช้ยาดม เเต่ก็เป็นกังวลเรื่องภาพลักษณ์ ที่อาจจะดูเชยเมื่อถือยาดมแบบเก่าขึ้นมา เเต่เมื่อผลิตภัณฑ์มีดีไซน์ที่ต่างไป ก็ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะหยิบขึ้นมาดมในที่สาธารณะ

ยาดมสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในทุกวันนี้ จึงต้องเเข่งกันที่ดีไซน์ เมื่อผลิตภัณฑ์ดูดี มีโอกาสดึงลูกค้าให้หยิบซื้อไปทดลองได้ง่าย นอกจากเรื่องกลิ่น ยังต้องให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่ทันต่อกระแสสังคม

ยาดมไทย ถูกใจไอดอลเกาหลี เป็นไวรัลที่ขายดีจนผลิตไม่ทัน

โป๊ยเซียน หงส์ไทย พาสเทล เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์
เจ้าของ บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด บริษัท มัลติพลาย บาย เอท กลุ่มบริษัทในเครือ คิง เพาเวอร์ บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด
อายุเเบรนด์ 87 ปี 16 ปี 2 ปี 18 ปี
รายได้ (ล้านบาท) 751 25 92 1,420
ศิลปินกับยาดมที่กลายเป็นไวรัล -เเจ็คสัน GOT7

-หวัง อี้ป๋อ

-อาซาฮิ Treasure

-ลิซ่า Blackpink

-มินนี่ (G)I-DLE

-แบมแบม GOT7

-แจมิน NCT

-เอ็กซี่ WJSN

-เเทยอน SNSD

 

 

 

 



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน