ปี 2011 เกิดหนังภาคต่อที่ออกฉายไล่เรียงและเชื่อมกันผ่านฉากเพียงไม่กี่นาทีช่วงท้ายหลังจบรายชื่อทีมงาน (End credit) ซึ่งนำมาสู่ The Avengers ในปีต่อมา

ปีถัด ๆ มาของยุค 2010 วงการหนังก็สั่นสะเทือนจากหนังค่าย Marvel ที่ทำให้ตัวละครจากซูเปอร์ฮีโร่ได้ออกมาปล่อยพลังปราบเหล่าร้ายอีกหลายต่อหลายเรื่อง

โดยมี Avengers : Endgame เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดของยุคนั้น ด้วยตัวเลขรายได้ทั่วโลกมหาศาลถึง 2,799 ล้านดอลลาร์ (ราว 96,000 ล้านบาท) และยังทำให้ Disney บริษัทแม่ของ Marvel ยิ้มแก้มปริ เพราะ 5 จาก 10 หนังทำเงินสูงสุดของยุค 2010 เป็นหนังของ Marvel

ด้านเกมและคอนเทนต์ต่อยอดจากหนังแม้ประสบความสำเร็จเช่นกัน แต่ยอดขายทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 34,300 ล้านบาท) ในเวลาเพียง 3 วันในปี 2013 ของเกม Grand Theft Auto 5

ขณะที่ในปี 2016 Warcraft เป็นหนังจากเกมที่ทำเงินได้สูงสุดและตลอดยุค 2010 มีหนังกับซีรีส์จากเกมออกมา เกือบ 140 เรื่อง แต่ทั้งหมดกลับถูกขาขึ้นของหนังซูเปอร์ฮีโร่กลบหมด

ทว่าหลังพ้นปี 2020 หนังซูเปอร์ฮีโร่ก็เหมือนพลังหมด เพราะมีออกมามากจนคอหนังอิ่มตัว ประกอบกับสถานการณ์โควิดทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกซบเซา

มาปี 2023 เกิดความเคลื่อนไหวสำคัญขึ้นในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ โดยซีรีส์ Last of Us ได้รับคำชมอย่างล้นหลามพร้อมถูกกล่าวถึงตลอดการทยอยออกอากาศช่วงไตรมาสแรกของปี

และพอถึงเมษายนหนัง The Super Mario Bros. ก็เปิดตัวแรง พร้อมเดินหน้าโกยรายได้ต่อเนื่องจนโค่น Warcraft ได้สำเร็จ

จุดร่วมและนัยสำคัญในความสำเร็จของ Last of Us กับ The Super Mario Bros. คือเป็นคอนเทนต์จากเกมในช่วงที่ตลาด Gaming กำลังโตอย่างมาก ทั้งเรื่องรายได้และความนิยม

ท่ามกลางคาดการณ์ว่าเมื่อถึงปี 2027 มูลค่าตลาด Gaming ทั่วโลกจะโตเพิ่มเป็น 215,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.3 ล้านล้านบาท) แซงทั้งเคเบิลทีวีและวิดีโอสตรีมมิ่ง

นี่จึงเป็นสัญญาณว่าต่อไปหนังและซีรีส์จากเกมจะมีออกมามากขึ้น อีก 40 เรื่อง (ต่อเนื่องจาก 57 เรื่องออกมาให้ชมกันไปแล้ว) โดยหนึ่งในนั้นมีหนังหรือซีรีส์จากเกม Warhammer ที่จะสร้างโดยปีกธุรกิจคอนเทนต์ของ Amazon รวมอยู่ด้วย

เทรนด์การสร้างหนังหรือซีรีส์จากเกมมากขึ้นสวนทางกับคอนเทนต์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ลดลงยังมาจากผู้ชมอิ่มตัวกับคอนเทนต์ภาคต่ออื่น ๆ เช่น Star Wars หรือ 007 แล้วเช่นกัน

ประกอบกับเทคโนโลยีในการสร้างภาพยนตร์โดยเฉพาะซีจี ดีขึ้นมาก ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับช่วงยุค 90 ซึ่งหนังจากเกม 59 เรื่องที่สร้างออกมาคือฝันร้าย

จนทำให้หนังจากเกมอย่าง Super Mario ปี 1993 และ Street Fighter ปี 1994 ล้มเหลวด้านรายได้ ทั้งที่ตัวเกมดังอย่างมาก

หนังและซีรีส์จากเกมที่มีออกมามากขึ้นยังจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย เพราะขณะที่ลูก ๆ ได้เริ่มทำความรู้จักคอนเทนต์จากเกมผ่านหนังและซีรีส์ พ่อกับแม่ก็จะได้ย้อนนึกไปถึงวันชื่นคืนสุขจากเกมเหล่านี้สมัยยังเด็กเท่าลูก

จนภาพลูก ๆ เดินคุยกับพ่อแม่เรื่องหนังจากเกมหลังออกจากโรง หรือคุยกันในบ้านหลังดูซีรีส์จากเกมมีให้เห็นกันมากขึ้น/ theguardian, wikipedia, japantoday

 

 

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online