เป็นที่รู้กันดีว่าโลกการทำงานทุกวันนี้เปลี่ยนไปอย่างมากจากในอดีต นับเฉพาะแค่ 3-4 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดก็เป็นไฟลต์บังคับให้เราต้องใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้คล่อง
และต้องทำงานจากบ้าน (Work from Home) ให้ผลงานที่ออกมาอย่างน้อยก็ดีเทียบเท่าช่วงปกติ โดยพอวิกฤตโรคระบาดนี้ซาลงไป ก็เกิดเทรนด์ Hybrid workspace ที่ทำงานที่บ้านต่อสลับกับเข้าบริษัทตามมาอีก
จนรูปแบบทั้งการทำงานและปฏิสัมพันธ์กันของคนในองค์กรย้ายไปสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ต้องปรับตัวและซุบซิบพูดคุยทางออนไลน์กันอย่างระมัดระวัง
เพราะนอกจากมีโอกาสหลุดไปถึงหัวหน้าแล้ว ฝั่งหัวหน้าเองก็ใช้ซอฟต์แวร์ติดตามความความเคลื่อนไหวในแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เรียกกันว่า Bossware กันมากขึ้น จนมีคำเรียกหัวหน้ากลุ่มนี้ว่า Helicopter Boss ตามพฤติกรรมการดูลูกน้องจากระยะไกล ไม่ต่างจากเฮลิคอปเตอร์
อย่างไรก็ตาม มีความกลัวอย่างหนึ่งที่ไม่เคยหายไปจากโลกการทำงาน นั่นคือกลัวว่าจะถูกระบบอัตโนมัติต่าง ๆ เข้ามาแทนที่ เริ่มจากระบบสายพาน แขนกลต่าง ๆ จนมาถึงการสั่งงานผ่านคอมพิวเตอร์
มาปี 2022 ความกลัวดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก เพราะ ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถสนทนาโต้ตอบได้ (Chatbot) ที่ Microsoft สนับสนุนทุนในการพัฒนา ถูกนำไปใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่เขียนบทความ ทำการบ้านและวิทยานิพนธ์ หรือกระทั่งแต่งเพลง
จนบริษัทกลุ่มยักษ์เทคแห่งอื่น ๆ ทั้งของสหรัฐฯ และจีนพากันพัฒนา AI ของตนขึ้นมาบ้าง ท่ามกลางผลสำรวจและข้อมูลที่ชี้ไปในทางเดียวกันว่า ในอนาคตผู้คนมากมายทั่วโลกจะถูก AI แย่งงาน
ทว่า Martin Ford ผู้เขียนหนังสือ Rule of the Robots: How Artificial Intelligence Will Transform Everything เห็นแย้ง โดยเขาคาดว่าคนในอาชีพต่อไปนี้ยังไม่ถูก AI แย่งงาน
ครีเอทีฟ: แม้ข่าวการสร้างภาพด้วย AI ตั้งแต่ภาพคนที่เหมือนจนแทบแยกไม่ออก เมืองหรือประเทศในจินตนาการ สันตะปาปาที่แต่งตัวแบบแรปเปอร์
หรือหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่ภาพทั้งหมดสร้างขึ้นจาก AI แต่ก็อุ่นใจได้ว่า กลุ่มงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ยังไม่ถูกแทนที่ไปเสียทั้งหมดในอนาคตอันใกล้ เพราะงานเหล่านี้ต้องแก้โจทย์ใหม่หรือความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอด
แถมยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกพอสมควร และ AI ยังทำได้ดีเฉพาะแค่การค้นหาและเรียบเรียงข้อมูล แต่ Martin Ford ก็เตือนว่าเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้าไปมากขึ้น หากกลุ่มงานครีเอทีฟด้านภาพและการออกแบบไม่พัฒนาตัวเองก็อาจถูก AI แทนที่ก่อนเพื่อน
นักข่าวสายสืบสวน: ท่ามกลางนักสืบหุ่นยนต์พร้อมสมอง AI ที่มีให้เห็นมากมายในนิยายวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายเรื่อง จนมีการคาดกันว่า งานนักสืบและนักข่าวอาจจะถูก AI เข้ามาแทนที่ แต่ Martin Ford เห็นต่าง
Martin Ford ให้ทัศนะว่า นักข่าวสายสืบสวนสามารถอุ่นใจได้ว่าจะยังไม่ตกงาน เพราะเป็นงานที่ใช้ทักษะหลายอย่างประกอบกัน ทั้งการค้นหา วิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูล
ในช่วงหาข้อมูลบางครั้งยังต้องเข้าหาคน จึงต้องใช้วิธีที่เหมาะสมเพื่อเค้นข้อมูล นอกจากนี้ ยังต้องเรียบเรียงให้สะดุดตาน่าอ่าน อ่านได้ลื่นไหลอีกด้วย
พยาบาลและที่ปรึกษาด้านสุขภาพ: ประเภทงานต่อมาที่ยังรอดจาก AI ในอนาคตอันใกล้คือพยาบาล และที่ปรึกษาด้านสุขภาพ รวมถึงหมอ เพราะงานเหล่านี้ต้องวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยแต่ละคน และเมื่อไปเจอตัวผู้ป่วยก็ต้องมีวิธีสื่อสารต่างกัน
และยิ่งเป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรง ส่วนใหญ่ก็ต้องพูดคุยและให้ปรึกษาด้วยคำพูดและโทนเสียงที่นุ่มนวลเพื่อไม่ให้ตกใจ
ส่วนอนาคตในช่วง 10-20 ปีจากนี้ แพทย์และพยาบาลจะทำงานร่วมกับหุ่นยนต์และ AI มากขึ้น เพราะ AI มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และค้นหาข้อมูลดีขึ้น จะช่วยประหยัดเวลาในการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ลงไปได้มาก โดยแพทย์และพยาบาลจะเปลี่ยนไปรับบทที่ปรึกษา เพราะเป็นมนุษย์เช่นเดียวกันกับผู้ป่วย ผู้ป่วยจึงอุ่นใจกว่านั่นเอง
สารพัดช่าง: แขนกล สายพานและระบบอัตโนมัติต่าง ๆ คือภัยคุกคามแรก ๆ ต่อโลกทำงาน เพราะเขี่ยคนจำนวนมากให้พ้นไปจากอุตสาหกรรมโรงงาน และเมื่อได้พลัง AI เข้ามาเสริมหุ่นยนต์เหล่านี้จะทำงานได้ดีกว่าคนขึ้นไปอีก แถมยังไม่อู้ และไม่ลาป่วยอีกด้วย
แต่งานบำรุงซ่อมแซมต่าง ๆ ยังคงต้องผ่านมือคน โดย Martin Ford ให้เหตุผลงานว่า สารพัดช่าง เช่น ช่างยนต์ ช่างกล ช่างไฟฟ้า ช่างประปา เป็นงานที่จะเจอปัญหาปลีกย่อยใหม่ ๆ หน้างานให้ต้องแก้อยู่เสมอ
ขณะเดียวกันก็เป็นงานที่ต้องเคลื่อนไหว ต้องขยับอยู่ตลอด และมุมการเคลื่อนไหวก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในอนาคตอันใกล้บรรดาสารพัดช่างจึงยังไม่ตกงาน
อย่างไรก็ตาม ต่อไปทักษะด้านดิจิทัลและ AI จะจำเป็นต่องานทุกประเภท รวมถึง 4 ประเภทที่กล่าวมานี้ด้วย เพราะช่วยเรื่องการปรับตัวและเป็นการยกระดับทักษะ (Upskilling) มองเห็นว่า พัฒนาทักษะใหม่ ๆ ส่วนที่ AI ยังทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดี โดยเฉพาะ Soft skill ในการสร้างความสัมพันธ์กับคนด้วยกัน
และในอนาคตมีแนวโน้มว่าเราจะต้องทำงานร่วมกับหุ่นยนต์หรือ AI กันมากขึ้น/bbc
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
