ย้อนไปปี 1996 วงการภาพยนตร์เต็มไปด้วยความหลากหลาย มีทั้งหนังฟอร์มเล็ก-ฟอร์มใหญ่ หนังดราม่า รัก ตลก หรือแอ็กชั่น มนุษย์ต่างดาวถล่มโลก หรือแม้กระทั่งหนังอินดี้สหราชอาณาจักรที่ต่อมาจะกลายมาเป็นหมุดหมายของยุค 90
ในจำนวนนี้มี 2 เรื่องที่แม้ต่างกันสุดขั้วแต่ก็เป็นที่จดจำของคนยุค 90 และยังถือเป็นก้าวสำคัญของ Tom Cruise อีกด้วย นั่นคือ Jerry Mcguire ที่เล่าเรื่องผู้จัดการนักกีฬาหนุ่มอนาคตไกลที่ลาออกจากบริษัทใหญ่มาเริ่มต้นใหม่กับพนักงานสาวตัวเล็ก ๆ แม่ลูกติดร่วมออฟฟิศ
และ Mission Impossible ที่นำซีรีส์สายลับเรื่องดังจากยุค 60 กับ 80 มาทำใหม่ โดยเรื่องหลังสำคัญต่อ Tom Cruise มาก โดยนอกจากทำให้เขาลบคำสบประมาทว่า นักแสดงหนุ่มที่รูปร่างไม่ได้สูงใหญ่นั้นไม่สามารถเป็นนักแสดงหนังแอ็กชั่นได้แล้ว
ยังทำให้เขาเป็นภาพจำของ Ethan Hunt ในสายตาคอหนัง และตัวหนังยังทำเงินทั่วโลกไปมากถึง 457 ล้านดอลลาร์ (ราว 15,800 ล้านบาทตามค่าเงินปัจจุบัน) ถือว่าสุดในปี 1996 อีกด้วย
แต่เรื่องราวระหว่าง Mission Impossible กับ Tom Cruise มีมากกว่านั้น เพราะการสร้างหนังเรื่องนี้เคยเกือบจะเป็นไปไม่ได้ตามชื่อหนังเสียแล้ว
ปี 1992 Tom Cruise ในวัย 30 ปี จับมือกับ Paula Wagner ผู้จัดการส่วนตัวเปิดบริษัทสร้างหนังของตัวเองในชื่อ Cruise/Wagner ต่างหาหนังที่จะมาเปิดตัวบริษัท
เวลาล่วงมาถึงปี 1994 เขาก็เห็นว่า Mission Impossible ซีรีส์ทางโทรทัศน์แนวสายลับที่เคยดูช่วงสมัยเด็ก ๆ ในยุค 60 และถูกนำมาให้อีกครั้งในยุค 80 น่าจะเหมาะสมที่สุด
Brian De Palma
โปรเจกต์นี้เริ่มเดินหน้าหลัง Tom Cruise ไปสังสรรค์กับ Steven Spielberg ผู้กำกับคนดัง ที่แนะนำให้เขาทาบทาม Brian De Palma ผู้กำกับร่วมรุ่น ที่สามารถเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง
หนัง Scarface
มีผลงานดัง ๆ หลายแนวอย่าง Carrie, Scarface และ The Untouchable แต่ยังไม่เคยกำกับหนังสายลับและแอ็กชั่นฟอร์มยักษ์เลย
หลังกลับไปย้อนดูผลงานของ Brian De Palma แล้ว Tom Cruise ก็ประทับใจมาก และติดต่อให้มากำกับ Mission Impossible ที่ตัวเขาเองเป็นทั้งผู้อำนวยการสร้างและรับบทนำ
แต่ตัวหนังกลับออกตัวได้ไม่สวย ทั้งจากบทร่างแรก ๆ ที่ต้องแก้แล้วแก้อีก และเมื่อได้บทแล้ว หนึ่งในผู้เขียนบทก็มาถูกตัดออกจากโปรเจกต์ไป ทำให้ต้องเปิดกล้องไปก่อน ทั้ง ๆ ที่บทยังไม่เสร็จดี
และเมื่อบทลงตัวก็ยังมีปัญหาขัดแย้งระหว่าง Tom Cruise กับ Brian De Palma อีก
อย่างไรก็ตาม ที่ Mission Impossible ก็ได้เดินหน้าถ่ายทำมาจนถึงฉากสำคัญในร้านอาหารทำจากกระจกกรุงปรากของสาธารณรัฐเชก ที่ Ethan Hunt รับบทโดย Tom Cruise จับต้นชนปลายได้แล้วว่า ถูกหักหลัง และต้องมีการระเบิดครั้งใหญ่ จนทำให้ตัวร้านระเบิดออกมาคล้ายตู้ปลา
Brian De Palma ไม่ปลื้มกับการใช้ตัวแสดงแทนในฉากนี้ เพราะภาพที่ออกมาไม่ได้ทำคนดูเชื่อและตื่นเต้น จึงไปโน้มน้าวให้ Tom Cruise แสดงเอง โดยหลังเจรจากันอยู่พักใหญ่ และเตรียมความพร้อมต่าง ๆ Tom Cruise ก็ตกลง จนฉากนี้ที่เรียกกันว่าฉากระเบิดตู้ปลา กลายเป็นภาพจำของวงการภาพยนตร์
เมื่อออกฉายปรากฏว่า Mission Impossible ทยอยเก็บเกี่ยวความสำเร็จ จนที่สุดคว้าหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ทั่วโลกปี 1996 รองจาก The Independence Day กับ Twitter เท่านั้น และยังทำให้ Tom Cruise ได้แสดงหนังแอ็กชั่นคนดังอีกคนของวงการ ลบคำสบประมาทไปอย่างราบคาบ
จากนั้น Mission Impossible ก็มีต่อมาอีก 6 ภาค และทุกภาค Tom Cruise จะเล่นฉากเสี่ยงตายเองเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโหนตึก Berj Khalifah ของดูไบ ในภาค Ghost Protocol และการเกาะประตูเครื่องบินที่กำลังทะยานขึ้นในภาค Rouge Nation
รวมไปถึงการดิ่งพสุธาในภาค Fall Out ด้วยวัย 50 ปลาย ๆ นี่ทำให้ Tom Cruise เลื่อนขึ้นเป็นนักแสดงหนังแอ็กชั่นรุ่นใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงฉากเสี่ยงตายใหญ่ ๆ เอง และระดับการเสี่ยงตายก็มากขึ้นเรื่อย ๆ
Tom Cruise ย้ำตำแหน่งนี้อีกครั้งด้วยการแสดงเสี่ยงตาย เช่น ขี่จักรยานยนต์ลงหน้าผาสูงชันใน Dead Reckoning Part One ที่เป็นภาคล่าสุดด้วยตนเอง
การเล่นฉากเสี่ยงตายใหญ่ ๆ เองของ Tom Cruise นี้ยังเป็นประโยชน์ต่อการโปรโมต ดึงคนดูให้เข้าโรง ไปดู Tom Cruise สวมบท Ethan Hunt นำทีม IMF รับภารกิจผ่านเทปเสียงทำลายตัวเอง ตามด้วยเพลงนำจากการประพันธ์ของ Lalo Schifrin มาแล้ว และฉากวิ่งสุดตัวอันเป็นเอกลักษณ์มาเกือบ 30 ปี
ส่งให้หนัง Mission Impossible ตั้งแต่ภาคแรกปี 1996 จนถึงภาคก่อนหน้านี้ในปี 2018 ทำเงินทั่วโลกรวมไปกันแล้วมากถึงกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 121,000 ล้านบาท)
ส่วนจากนี้แฟน ๆ หนังภาคต่อเรื่องนี้ ยังจะได้ดูต่อไป เพราะ Tom Cruise ที่ปัจจุบันอายุ 61 ปีแล้ว เพิ่งประกาศว่า จะสวมบท Ethan Hunt นำทีม IMF ปฏิบัติภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งต้องมีการแสดงฉากเสี่ยงตายเองต่อไปจนถึงอายุ 80 ปี/sceenrant, wikipedia, variety, theguardain
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ