สุรสิทธิ์ อัศดามงคล 35 ปีบนเส้นทาง “สวยสั่งได้” ที่ไม่ได้ง่ายเลย

เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนนั่งสัมภาษณ์โดยถูกแหล่งข่าวนั่งพิจารณาใบหน้าไปด้วย คุณหมอท่านคงคิดว่าผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าควรจะทำอะไรบ้างเพื่อให้ดูดีกว่านี้

เพราะบุคคลที่ก้าวมาในคอลัมน์ “The People” ในวันนี้คือ นพ. สุรสิทธิ์ อัศดามงคล ประธานกรรมการบริหาร รพ. บางมด แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ. บางมด

จากเจ้าของคลินิกเล็ก ๆ กลายมาเป็นโรงพยาบาลบางมด โรงพยาบาลทั่วไป ที่มีศูนย์ศัลยกรรมความงามเป็นจุดขายหนึ่งที่สำคัญ

วันนี้กำลังเตรียมเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรมแบบครบวงจร “Bangmod Aesthetic & Wellness Hospital” เพื่อรองรับตลาดความสวยสั่งได้ ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกวัน

 30 กว่าปีมานี้มีผู้หญิงสวยด้วยมือผมเนี่ยกว่าแสนคนนะครับ” นพ. สุรสิทธิ์เอ่ยอย่างอารมณ์ดีกับ Marketeer

วันนี้คุณหมออายุ 67 ปีแล้ว จะลงมือทำศัลยกรรมเองเฉพาะเคสใหญ่ ๆ ที่มีปัญหา หรือเคสยาก ๆ เช่น ทำหน้าอก ดึงหน้า เท่านั้น

เพราะปัจจุบันโรงพยาบาลบางมดมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ภายใต้การดูแลของ นพ. ธนัญชัย อัศดามงคล ลูกชายคนโต ผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เป็นผู้เข้ามาช่วยรับผิดชอบ

และมี นพ. เทวเดช อัศดามงคล ลูกชายคนเล็ก เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

“ไม่ง่ายเลยครับ กว่าเราจะมาถึงวันนี้ มันเริ่มต้นจากการที่ผมมีความสุขทุกครั้งที่ทำให้คนสวยขึ้น ดูดีขึ้น ด้วยมือของผม”

คุณหมอเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า เป็นคนกรุงเทพ จบมัธยมปลายจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล (พ.ศ. 2516) จบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ (ศิริราช) (พ.ศ. 2523)

หลังจากนั้นได้ไปทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลจักรราช อำเภอจักรราช จังหวัดนครราชสีมา การได้ไปอยู่ในโรงพยาบาลในต่างจังหวัดที่หมอมีน้อย เครื่องไม้เครื่องมือไม่ครบ บางครั้งหมอคนเดียวก็ต้องช่วยทำหลายหน้าที่ รวมทั้งการช่วยเหลือด้านการผ่าตัด ซึ่งจะเป็นเคสที่คุณหมอมีความสนใจมาก

ต่อมาก็กลับเข้ามาเป็นหมอที่โรงพยาบาลตากสิน และไปเปิดคลินิกเล็ก ๆ บนถนนพระราม 2 ย่านบางมด ก่อนจะขยายมาเป็นบางมดโพลีคลินิก ในปี 2526

“ถนนพระราม 2 ในช่วงเวลานั้นขึ้นชื่อมากว่าเป็นถนนสายอุบัติเหตุ เพราะการขับรถที่เร็วกันมากจึงได้ทำเคสอุบัติเหตุเยอะมาก เลยคิดว่าควรไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อที่จะได้ช่วยคนไข้ให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

พร้อม ๆ กับขยายจากโพลีคลินิกมาเป็นโรงพยาบาลบางมดในปี 2527 และใช้เวลาไปเรียนต่อศึกษาเพิ่มเติมทางด้าน Certificate plastic & cosmetic surgery ที่เมือง Osaka ประเทศญี่ปุ่น Member of plastic & reconstruction surgery ประเทศสหรัฐอเมริกา

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คุณหมอหันมาสนใจในเรื่อง cosmetic surgery อย่างจริงจัง นอกจากการทำศัลยกรรมตกแต่งทั่วไปเพราะเห็นลูกค้าบางรายที่ไม่ได้มีปัญหาจากเกิดอุบัติเหตุ แต่เกิดจากความทุกข์จากรูปร่างหน้าตาของตัวเอง เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปช่วยทำศัลยกรรมความงามให้ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปมีความสุขมากขึ้น

คุณหมอได้เรื่องเบสิกจากอเมริกาและพัฒนาความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงหน้าของคนเอเชียจากประเทศญี่ปุ่น

“ที่อเมริกาพื้นฐานค่อนข้างแน่นมาก แต่โครงหน้าของคนเอเชียกับอเมริกาจะต่างกันมาก อย่างจมูกเขามีแต่ทำจากสูงให้เตี้ยลง แต่ของเราต้องเสริมจากเตี้ยให้ดูโด่งขึ้น หน้าอกเขาต้องการทำให้เล็กลง แต่ของเราต้องทำให้ใหญ่ขึ้น จะตรงข้ามกันหมด ผมเลยพยายามหาสถาบันในเอเชียที่มีชื่อเสียง และได้ไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นอีก 2 ปี”

กลับมาเมืองไทย ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับการทำศัลยกรรมความงามเริ่มเป็นที่รู้จักและยอมรับกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับแพร่หลายเท่าใดนัก หลายคนยังต้องแอบ ๆ ทำแล้วไม่กล้าบอกใคร ประกอบกับแพทยสภาเข้มงวดในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างมาก

ทุกอย่างจึงค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปและรอเวลา

จุดเปลี่ยนอีกเรื่องหนึ่งของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นคือการที่ดาราเริ่มเข้ามาใช้บริการ

ดาราแต่ละคนที่คุณหมอพูดถึงเป็นระดับแถวหน้าของเมืองไทยในยุคหนึ่ง ที่นิยมมาทำ ตา จมูก หน้าอก พอทำแล้วสวย ทำแล้วดังกลายเป็นปากต่อปาก

word of mouth ที่พูดถึงผลงานของคุณหมอ น่าจะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำตลาดของโรงพยาบาลบางมดในช่วงนั้น

ปัจจุบันจากพฤติกรรมผู้บริโภคและค่านิยมสังคมที่เปิดกว้างต่อการทำศัลยกรรมมากขึ้น ทำให้ตลาดศัลยกรรมและเสริมความงามในประเทศไทยแข่งขันกันอย่างรุนแรง มีคลินิกศัลยกรรมด้านความงามเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากมาย

โรงพยาบาลบางมดเองก็จำเป็นต้องเร่ง Speed ในการตอกย้ำชื่อเสียงในเรื่องนี้ โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าระดับ A+ จนถึงระดับ B

word of mouth ที่บอกต่อกันแบบเดิมไม่เพียงพอแล้ว

เปลี่ยนมาบอกต่อกันบนออนไลน์ด้วย

สำหรับแผนการทำตลาดยุคใหม่ของโรงพยาบาลบางมด คุณหมอสุรสิทธิ์บอกว่า ได้ส่งต่อบทบาทในเรื่องนี้ให้กับคนรุ่นใหม่คือ ลูกชายคนโต นายแพทย์ ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ที่ได้นำแผนการตลาดแบบปากต่อปากปรับให้เข้ากับยุคสมัยผ่านทางสื่อออนไลน์

โดยในส่วนของออนไลน์ทำการตลาดทั้งในรูปแบบ Search Engine Optimization (SEO) และ Social Media Marketing (SMM) เน้นจับเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก

และทำการตลาดผ่านช่องทาง Facebook, Instagram และ YouTube โดยได้นำประสบการณ์และความประทับใจจากปากผู้ใช้บริการจริง มาถ่ายทอดว่าการทำศัลยกรรมที่นี่ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกับชีวิตคนไข้อย่างไร

“การนำประสบการณ์จริงจากปากผู้ใช้บริการจริงมาเผยแพร่ต่อ ผมคิดว่าคนที่รับสารก็จะได้รับทราบถึงความ Real และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น”

อะไรคือปัญหาและความท้าทายในการทำธุรกิจศัลยกรรมความงาม

คุณหมอบอกว่า มือหมอที่มีความชำนาญจากประสบการณ์ที่สะสมมาหลายปี กับเครื่องไม้เครื่องมือและวัสดุต่าง ๆ ที่นำมาใช้ ซึ่งมีความทันสมัยขึ้นทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น

แต่อุปสรรคสำคัญอยู่ที่การคัดเลือกคนไข้ให้ดี เพราะคนไข้ที่เข้ามาทำศัลยกรรมความงามนั้นจะมีหลายประเภท สำหรับคนที่เข้ามาเพราะอยากให้บุคลิกดีขึ้น หน้าตาดีขึ้น ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่มีปัญหา

แต่มีบางกลุ่มที่ความต้องการไม่พอ สวยแล้วต้องการสวยอีก ทำออกมาดีแค่ไหนก็ไม่พอใจ กลุ่มนี้จะมีปัญหา

“เรื่องนี้ต้องอาศัยประสบการณ์มาช่วยในการตัดสินใจที่จะรับเขาเป็นลูกค้าหรือไม่ ซึ่งสามารถดูออกได้ตั้งแต่วิธีการพูดคุยต่าง ๆ”

คุณหมอย้ำว่า การรู้จักคัดเลือกคนไข้ตั้งแต่ขั้นตอนการพูดคุยสำคัญมาก ๆ

จำนวนคนไข้ที่มากมายตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ทำมา คือประสบการณ์สำคัญที่ต้องส่งต่อไปให้ทีมงาน

และด้วยความมั่นใจว่า ทุกคนอยากดูดี ตลาดความสวยสั่งได้ต้องโตขึ้นแน่นอน รวมทั้งการกลับมาของกลุ่ม Medical Tourism เช่น จีน CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) คือที่มาของจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิตอีกครั้ง

ด้วยการประกาศสร้าง รพ. ศัลยกรรมครบวงจรแห่งใหม่ Bangmod Aesthetic & Wellness Hospital ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับพื้นที่เดิมของโรงพยาบาลบางมด คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568

หลังจากนั้นก็จะเตรียมเดินทางก้าวสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

สุดท้ายก่อนจะลาจากกัน คุณหมอสุรสิทธิ์เริ่มให้คำปรึกษา (ฟรี) กับ Marketeer ประมาณว่านี่นะถ้าเป็นลูกค้าผมจะดึงตรงนี้นิด จะทำตรงนั้นหน่อย รับรองสวยเลย

แต่พอ Marketeer ถาม คุณหมอ สุรสิทธิ์ อัศดามงคล กลับว่า

“อายุ 67 ปีแล้ว คุณหมอยังดูดีมากเลย ขออนุญาตถามทำหน้าตรงไหนมาบ้างคะ”

คุณหมอยิ้มกว้าง ตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า “ไม่ได้ทำ ผมทำหน้าให้ตัวเองไม่ได้ ทำไม่ถนัด (หัวเราะ)”

พร้อมทั้งย้ำว่า “ออกกำลังกายสม่ำเสมอ คิดในสิ่งดี ๆ ก็จะทำให้เราดูดีได้เหมือนกันครับ” ♦

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online