สนุกดอทคอม ทำความรู้จักเว็บไทยยุคดอทคอมเฟื่องฟู แต่ตอนนี้เป็นของ เทนเซ็นต์

เรียกได้ว่า สนุกดอทคอม ถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจเทนเซ็นต์ ในประเทศไทยอย่างจริงจัง

หลังจากที่เทนเซ็นต์เข้าซื้อหุ้นบริษัท สนุก ออนไลน์ เจ้าของเว็บไซต์สนุกดอทดอท ต่อจากเอ็มเว็บ ด้วยมูลค่า 10.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 341 ล้านบาทในปี 2553 เพื่อแลกกับหุ้นในสัดส่วน 49.92% ในการเข้ามาใช้ประโยชน์ของฐานผู้ใช้งานสนุก ดอทคอม สร้างรายได้ และต่อยอดไปยังบริการใหม่ ๆ ที่เครือเทนเซ็นต์มีอยู่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เช่น การนำบริการ Chat QQ ยอดนิยมในจีน มาให้บริการในชื่อ Sanook QQ  เป็นบริการแรก ๆ รวมถึงเกมและอื่น ๆ เข้ามาเสริมความแกร่ง เช่น บริการ We Chat  พร้อมกับทยอยซื้อหุ้นสนุกออนไลน์เพิ่มต่อเนื่อง

การซื้อหุ้นสนุกต่อจากเอ็มเว็บในเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ สนุกดอทคอม ได้ชื่อว่าเป็นเว็บไทยที่มีเพจวิวสูงสุดในประเทศ ถ้าไม่นับรวมเว็บไซต์ข้ามชาติต่าง ๆ เช่น กูเกิล

ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อจากบริษัทสนุกออนไลน์ เป็นเทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ในวันที่ 1 ธันวาคม 2559 พร้อมความต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของสนุกจากเว็บ Portal เป็นผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่ให้บริการทั้งข้อมูลข่าวสาร และบริการใหม่ ๆ ที่เสริมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเว็บไซต์สนุกดอทคอมเป็นหนึ่งในพลังที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ มีการนำ JOOX, PUBG, We TV และอื่น ๆ เข้ามาให้บริการ

ผ่าน 3 ขาธุรกิจ ได้แก่ News and Portal, Entertainment & Multimedia Platforms และ Services

โดยสนุกดอทคอมถูกวางให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ News and Portal

แม้เทนเซ็นต์จะปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์บริษัท จากสนุก ออนไลน์ สู่บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) เพื่อหวังลุยตลาดออนไลน์ในไทยอย่างเต็มที่

แต่ความท้าทายของเทนเซ็นต์ คือ สภาวะขาดทุนของบริษัท ที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน แม้ในบางปีจะมีกำไรก็ตาม

เมื่อดูตัวเลขจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในช่วง 9 ปีที่ผ่านมาพบว่า

ปี 2557 รายได้รวม 252 ล้านบาท ขาดทุน 51 ล้านบาท

ปี 2558 รายได้รวม 281 ล้านบาท ขาดทุน 192 ล้านบาท

ปี 2559 รายได้รวม 412 ล้านบาท ขาดทุน 156 ล้านบาท

ปี 2560: รายได้รวม 709 ล้านบาท กำไร 27 ล้านบาท

ปี 2561: รายได้รวม 1,077 ล้านบาท ขาดทุน 58 ล้านบาท

สำหรับปี 2562 รายได้รวม 1,263 ล้านบาท ขาดทุน 66 ล้านบาท

ต่อมาปี 2563 รายได้รวม 1,003 ล้านบาท ขาดทุน 114 ล้านบาท

ส่วนปี 2564 รายได้รวม 1,301 ล้านบาท ขาดทุน 184 ล้านบาท

และปี 2565 รายได้รวม 1,258 ล้านบาท ขาดทุน 117 ล้านบาท

 

แต่ภายใต้การขาดทุนนี้ เทนเซ็นต์ บริษัทแม่ ยังมีความเชื่อมั่นว่า เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ยังมีโอกาสทางธุรกิจ ในฐานะ Hub of ASEAN ด้าน Entertainment Platform ทิศทางใหม่ที่วางให้ เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ก้าวไปต่อไปนับจากปี 2562

พร้อมกับรีแบรนด์เว็บไซต์สนุกดอทคอมใหม่ ปรับเปลี่ยนโลโก้ นำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเสริมการใช้งานเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านมา จากการมองสนุกดอทคอมเป็นศูนย์รวมข่าวสารเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ส่วนปัจจุบัน เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ปรับเปลี่ยนตัวเองสู่ 2 ขาธุรกิจ  ได้แก่ Entertainment Platform ที่มี สนุทดอทคอมเป็นหนึ่งในนั้น และ Cloud and Solution for Enterprises

แม้สนุกคอมคอมจะมีการปรับตัวสู่แพลตฟอร์มข้อมูลข่าวสารให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา

แต่ฐานเศรษฐกิจได้รายงานว่า วันนี้สนุกคอมคอมได้เลย์ออฟพนักงานมากกว่า 10 คน หลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารชุดใหม่จากจีนเข้ามา เพื่อลดต้นทุนและประสิทธิภาพการทำงาน

อย่างไรก็ดี แม้ในวันนี้สนุกดอทคอมอาจจะเจอความท้าทายของการปรับเปลี่ยนองค์กรภายใน แต่จุดเริ่มต้นของสนุกดอทคอม ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเว็บไซต์ไทย เว็บแรกที่มีการเสนอเข้าซื้อธุรกิจ ในช่วงที่กระแสดอทคอมเฟื่องฟูเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อ 25-26 ปีที่ผ่านมา จากการที่คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้านเพิ่มขึ้นด้วยการเชื่อมต่อโมเด็มกับสัญญาณโทรศัพท์บ้านในรูปแบบ Dial Up จากค่าบริการต่อชั่วโมงที่ถูกลง

ประกอบกับในช่วงเวลานั้น ปรเมศวร์ มินศิริ ได้ก่อตั้งสนุกดอทคอมขึ้นมาเพื่อเป็นงานอดิเรกในปี 2541 ก่อนพัฒนาสู่ Web Portal (เว็บท่า) ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเว็บที่รวมเว็บลิงก์ต่าง ๆ จัดเป็นหมวดหมู่ให้เลือกกดลิงก์เข้าไปเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการ เนื่องจากในเวลานั้น Search Engine ยังไม่ได้รับความนิยม และนักท่องเน็ตไม่สามารถจำ Url ของเว็บไซต์ที่ไม่ได้เข้าใช้เป็นประจำได้

ในเวลานั้นมีเว็บไซต์ที่เป็นเว็บท่าอื่น ๆ เช่น หรรษาดอทคอมวางตัวเองเป็นเว็บท่าเช่นกัน

ด้วยความนิยมของสนุกดอทคอมในช่วงเวลานั้น ประกอบกับ MIH ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมจากประเทศแอฟริกาใต้ เข้ามาบุกตลาดดอตคอมในไทย ได้เข้าซื้อเว็บไซต์สนุกดอทคอม จากปรเมศวร์ในปี 2542 และเปลี่ยนบริษัทเป็นเอ็มเว็บ (ประเทศไทย)

สนุกดอทคอม ถือเป็นดีลแรกในประเทศที่มีการขยายธุรกิจเว็บไซต์ดอตคอมให้กับผู้สนใจ

ส่วนปรเมศวร์หลังจากขายสนุกดอทคอม ได้เปิดเว็บไซต์ กระปุกดอทคอม ขึ้นมาเป็นเว็บท่าเช่นเดียวกับ สนุกดอทคอม เพื่อแข่งกันในตลาดในปี 2544

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เอ็มเว็บ (ประเทศไทย) ยังคงทำสร้างการเติบโตในตลาดไทยผ่านสนุกดอทคอม และบริการอื่น ๆ ที่เข้ามาเสริม

จนในปี 2550 เอ็มเว็บ (ประเทศไทย) เปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น สนุกออนไลน์ จำกัด ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งผ่านการขายหุ้นเทนเซ็นต์ จากประเทศจีนในปี 2553 ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

 

 

ส่วนวันข้างหน้าสนุกดอทคอมจะสนุกได้เหมือนเดิมไหม

คงต้องดูกันต่อไป

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer