Cybertruck กระบะที่เกิดมาเพื่อทำลายกรอบรถกระบะแบบเดิมๆ จาก Tesla

เป็นเวลากว่า 4 ปี หลังจากติดปัญหาทางเทคนิคและความล่าช้าในการผลิต ในที่สุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 Tesla ก็ได้เปิดตัว Cybertruck รถยนต์กระบะอเนกประสงค์ที่ใช้ไฟฟ้า 100% อย่างทางการครั้งแรกพร้อมส่งมอบยานยนต์แห่งอนาคตที่มียอดจองกว่า 2 ล้านคัน โดยในอีเวนต์นี้ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla มาส่งมอบรถพร้อมเผยสเปกและราคาด้วยตัวเองที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

Tesla Cybertruck: Car and Driver

Event เปิดตัว Tesla Cybertruck: The Verge

อีเวนต์นี้ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเพราะรถต้นแบบ (Prototype) ได้รับการเปิดเผยมาตั้งแต่ปี 2019 รวมถึงมีการเปิดให้จอง ในตอนนั้นแม้ว่าภายหลังการเปิดตัวCybertruckจะไม่ได้มีปัญหาหรือการวิพากษ์วิจารณ์อะไร แต่ในช่วงการสาธิตการกันกระแทกและความแข็งแรงของกระจกกลับล้มเหลวไม่เป็นอย่างที่ Elon เคยคุยไว้ แต่ยี่ห้อ Tesla และ Elon Musk เสียอย่าง รถยนต์รุ่นนี้ก็ยังได้รับความสนใจอยู่ดีจน Elon Musk ถึงกับประกาศว่า Tesla ได้รับยอดจองCybertruckมากกว่า 250,000 คันภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดตัว

เรียกได้ว่า Hype (ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง) มาก ๆ สำหรับรถกระบะรูปร่างหน้าตาเหมือนหลุดออกมาจากหนัง Sci-Fi ด้วยรูปทรงที่เหลี่ยม สีเงินเหมือนใช้โลหะอะไรบางอย่างมาทำ อีกทั้งเรายังไม่เห็นกระบะด้านหลังอย่างชัดเจนอีก เรียกได้ว่า “ฉีก” คอนเซ็ปต์และภาพจำการออกแบบรถกระบะแบบเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นมาตลอดทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้

หลายสื่อได้นำเสนอสเปกของรถ การออกแบบ สมรรถนะ รวมไปถึงราคากันไปเยอะแล้ว ในบทความนี้เราอยากพาผู้อ่านไปรู้อีกแง่มุมหนึ่งของ TeslaCybertruckว่ากว่าจะเปิดตัวได้ในวันนี้พวกเขามีแนวคิดและที่มาอย่างไร ตั้งแต่คอนเซ็ปต์ในกระดาษจนมาถึงการผลิตรถต้นแบบคันแรก ปัญหาที่พวกเขาต้องเจอ ฝ่าฟันมาจนสามารถเปิดตัวและเรียกความสนใจจากสายตาผู้คนทั่วโลกได้ ถ้าพร้อมแล้วคาดเข็มขัดแล้วออกเดินทางไปพร้อมกันได้เลยครับ

ปรัชญาเบื้องหลังการออกแบบCybertruck

“Tesla ทำลายการออกแบบรถกระบะแบบเดิม ๆ” เมื่อดูจากรูปทรงของCybertruckคำพูดนี้ก็คงไม่เกินจริง เพราะเมื่ออะไรก็ตามอยู่ในมือของชายที่ชื่อ Elon Musk ย่อมไม่มีอะไรธรรมดา ๆ ออกมาให้เห็นแน่นอน

นับตั้งแต่ Tesla Roadster ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ Tesla ผลิตขึ้นปี 2008 เราจะเห็นได้ชัดว่า Elon Musk ต้องการจะท้าทายขนบธรรมเนียมเดิม ๆ ของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยนับตั้งแต่นั้นมา Elon ได้ออกรถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์โดดเด่นซึ่งไม่มีผู้ผลิตรายอื่นใดจะทำรถได้ล้ำกว่า Tesla

และสิ่งเดียวกันนี้ถูกถ่ายทอดมายัง Tesla Cybertruck รถกระบะที่ดูไม่เหมือนรถกระบะ แต่ดูเหมือนว่าหลุดออกมาจากภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ซะมากกว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของ Elon Musk ทำให้ Franz von Holzhausen หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Tesla ก้าวข้ามขีดจำกัดความท้าทายในการสร้างกระบะ EV ที่กล้าหาญที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา

การผสมผสานระหว่างกรอบความคิดที่มีวิสัยทัศน์ของ Elon Musk และความสามารถของ Franz von Holzhausen การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไม่เหมือนใครที่เราเคยเห็นมาก่อน สำหรับโปรเจกต์นี้คอนเซ็ปต์การออกแบบคือ “The Form Followed the Funtions” หรือรูปร่างมาก่อนฟังก์ชันการใช้งานก็ค่อยปรับตามรูปร่างหน้าตาของรถ Tesla ได้พาผู้ใช้รถทุกคนเข้าสู่ยุคใหม่ของนวัตกรรมการออกแบบโดยหวังว่าจะจุดประกายนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมทั้งหมด

รถต้นแบบคันแรกของ Cybertruck: Insideevs

นอกจาก Franz von Holzhausen หัวหน้าทีมออกแบบ Tesla Cybertruck ยังมี Sahm Jafari, Ian Kettle, WooTak Kim และ Julien Bilodeau ที่ร่วมออกแบบให้ Cybertruck ออกมามีเอกลักษณ์เฉพาะและล้ำสมัย แตกต่างจากการออกแบบรถกระบะทั่วไป

Franz von Holzhausen หัวหน้าทีมออกแบบของ Tesla: CNBC

การออกแบบCybertruckนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์และวิดีโอเกมต่าง ๆ อย่างเกมแนวไซไฟอย่าง Cyberpunk การออกแบบภายในของรถCybertruckเน้นความเรียบง่าย โดยเน้นการใช้งานเป็นหลักเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ตามหลักสรีรศาสตร์และพยายามลดฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานง่ายที่สุดตามปรัชญาการออกแบบของ Tesla

ภายในของ TeslaCyberpunk Source: Tesla

คอนเซ็ปต์ดี คนสนใจจอง แต่ส่งมอบไม่ได้?

ปกติแล้วกระบวนการขายรถของ Tesla คือ Tesla จะเปิดตัวรถใหม่ พารถยนต์ต้นแบบมาโชว์ พูดถึงสเปก และราคา (เฟสนี้จะเป็นเฟสแรกก่อนจำหน่ายในเชิงพาณิชย์เป็นการทั่วไป) ปกติรถ Tesla เวลาเปิดตัวก็จะได้รับความสนใจและยอดจองมากอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับเคสของCybertruck

อย่างที่ได้กล่าวไปตอนต้นว่า TeslaCybertruckเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 แต่ก็ติดปัญหามากมายทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถได้ทันตามกำหนดที่ Tesla ได้ให้คำมั่นไว้กับคนที่จองรถมาในล็อตแรก

โดยกำหนดเวลาที่ Tesla จะส่งมอบCybertrucksให้กับผู้ถือการจองคือช่วงประมาณปลายปี 2021 โดยกำหนดนี้ Elon Musk ซีอีโอ Tesla เป็นผู้ประกาศด้วยตัวเองในระหว่างการเปิดตัวCybertruckในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 อย่างไรก็ตาม Tesla ก็ไม่สามารถส่งมอบรถได้ตามกำหนดเวลาและถูกเลื่อนออกไปหลายต่อหลายครั้ง

โดยข้อมูลจากสื่อหลายสำนักคาดกันว่าที่ Tesla ไม่สามารถส่งมอบรถได้ทันตามเวลาน่าจะมาจากเหตุผลหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

การออกแบบและกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน

ไม่บอกก็คงจะรู้จากภาพที่มีทั่วอินเทอร์เน็ตว่าเจ้าCybertruckนั้นมีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและล้ำสมัยเป็นอย่างมาก ทีนี้มันก็เลยไปสร้างปัญหาในการผลิตจริงด้วยโครงสร้างภายนอก มุมเหลี่ยมที่แหลมคม และขนาดที่ใหญ่ทำให้ต้องใช้เทคนิคการผลิตและเครื่องมือใหม่ทั้งหมด (แปลว่าแม่พิมพ์ตัวถังแบบเดิมใช้ด้วยกันไม่ได้) ซึ่ง Tesla ก็ยังคงพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การใช้เหล็กสเตนเลสรีดเย็นของCybertruckต้องใช้กระบวนการผลิตที่แตกต่างจากอะลูมิเนียมที่ใช้ในรถรุ่นอื่น ๆ ของ Tesla ก็ทำให้เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การส่งมอบนั้นล่าช้าออกไป

การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน

การขาดแคลนชิปทั่วโลกและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอื่น ๆ (เหล็ก นอต พลาสติก จอ ฯลฯ) ส่งผลกระทบต่อการผลิตส่วนประกอบต่าง ๆ ของCybertruckการหยุดชะงักของ Supply Chain เหล่านี้ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับ Tesla ในการจัดหาวัสดุและชิ้นส่วนที่จำเป็นให้ตรงเวลา นั่นก็ส่งผลทำให้การผลิตล่าช้าออกไปอีก

ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่

ในตอนเปิดตัว Elon Musk บอกว่าCybertruckจะวิ่งได้ประมาณ 402 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (ในรุ่น Single Motor) ระยะทางรวมไปถึงเรื่องสมรรถนะที่ Tesla ให้สัญญาไว้ จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีสมรรถนะที่มากกว่าที่มีในท้องตลาด ณ ขณะนั้น ในขณะที่ Tesla ในตอนนั้นก็กำลังพัฒนาเรื่องแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพไปถึงจุดนั้นอยู่ (จนถึงตอนนี้เรื่องแบตเตอรี่ก็ยังคงถูกเก็บเป็นความลับ) แต่ก็ยังทำได้ไม่ถึงจุดที่ตัวเองตั้งใจไว้ ซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าในการผลิต เนื่องจาก Tesla ต้องมั่นใจก่อนว่ารถทุกคันที่จะส่งมอบออกไปจะมีสมรรถนะและประสิทธิภาพดีอย่างที่เคยได้คุยไว้

การจัดลำดับความสำคัญของโครงการอื่นๆ

Tesla ก็เหมือนบริษัททั่วไปมีจำนวนคนทำงานประมาณหนึ่ง มีโรงงานประมาณหนึ่ง และมีนักวิจัยประมาณหนึ่ง แต่พวกเขามีโครงการที่อยากทำไม่จำกัด และเมื่อมีทรัพยากรที่จำกัด การจัดลำดับความสำคัญจึงเข้ามามีบทบาทกับเรื่องนี้ หลายครั้งที่Cybertruckต้องหลีกทางให้กับการผลิตรุ่นอื่น ๆ อย่างเช่น Model Y และ Model 3 ซึ่งมีความต้องการและความสามารถในการทำกำไรสูงกว่า ส่งผลให้Cybertruckถูกเลื่อนออกไปในคิวการผลิต

อุปสรรคด้านกฎระเบียบ

การออกแบบที่แหวกแนวของCybertruckต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบของบางประเทศเกี่ยวกับเรื่องความปลอด ดังนั้น Tesla จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ก่อนจึงจะสามารถเริ่มการผลิตและส่งมอบในวงกว้างได้ และกว่าจะขออนุญาตต่าง ๆ ได้มันก็ต้องใช้เวลา

ข้อพิจารณาทางด้านการเงิน

ต้นทุนการผลิตที่สูงของCybertruckและอัตรากำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับรุ่น Tesla อื่นๆ อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของบริษัทเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญและกำหนดการผลิต

ถึงแม้ว่า Tesla จะจัดอีเวนต์เปิดตัวไปแล้วแต่คนที่จองCybertruckไว้มากกว่า 1 ล้านคัน ก็จะยังไม่ได้รับรถจนกว่าจะถึงปี 2025 เพราะ Elon Musk บอกว่าสายการผลิตของCybertruck จะเริ่มรันการผลิตได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250,000 คันต่อปี

Cybertruck จุดเริ่มต้นโลกแห่งอนาคตที่ไม่รู้จะแมสไหม

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีค่ายรถที่ทำกระบะออกมาเคลื่อนไหวอะไร เพราะคงจะรอดูทิศทางลมว่าพอ Tesla เปิดตัวรถกระบะที่ล้ำขนาดนี้แล้วยอดขายในมุมการใช้งานโดยคนทั่วไปจะได้รับการตอบรับที่ดีหรือไม่ หรือจะเป็นแค่รถของเล่นคนรวยเพราะราคาเปิดตัวก็แรงเอาเรื่อง (รุ่นเริ่มต้น Single Motor อยู่ที่ 60,990 ดอลลาร์หรือประมาณ 2,134,650 บาทไทย)

ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกดูแข็งแรงทนทาน แถมยังสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 1.1 ตัน และสามารถลากจูงสิ่งของที่มีน้ำหนักสูงสุดถึงเกือบ 5 ตัน ก็นับว่าแข็งแรงทนทานไม่แพ้รถกระบะในปัจจุบันทำได้ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องราคานี่แหละที่จะเป็นจุดตัดสินใจว่า Tesla จะแมสหรือไม่

แต่ที่แน่ ๆ Ford เองก็เตรียมดัน F-150 แบบไฟฟ้าออกมาชนCybertruckเหมือนกัน รวมถึง Chevrolet ที่เตรียมเข็น Chevrolet Silverado ที่ถึงแม้โฉมจะไม่ล้ำแต่ก็ไฟฟ้าเหมือนกันโดนใจคนที่อยากใช้รถกระบะอีวีได้ในอนาคต แปลว่าไม่ใช่แค่คนขับรถเก๋งเท่านั้นที่จะได้สัมผัสรถไฮบริด แต่คนที่ชื่นชอบการขับรถกระบะก็มีโอกาสได้ใช้รถไฟฟ้าในเร็ววันนี้ไม่แพ้กัน

Ford F-150 All Electric