คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ศึกครั้งใหม่ของคอนโดเมื่อ “น้อน” กับ “นุด” จะอยู่ด้วยกัน
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) คือผู้มาก่อนกาลในวงการ Pet friendly Residence
เพราะเป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อสัตว์เลี้ยงขึ้นมาตั้งแต่ 25 ปีก่อน
อาจจะเป็นความคิดแปลก ๆ เพราะในช่วงเวลานั้นคำว่า ทาสหมา ทาสแมว ยังไม่เกิด “น้อน” กับ “นุด” ยังต่างคนต่างอยู่
ปัจจุบันคอนโดเพื่อสัตว์เลี้ยงของแบรนด์อสังหาฯ รายใหญ่ได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งแสนสิริ โนเบิล อนันดา ฯลฯ
โดยเฉพาะ ค่ายออริจิ้น ที่ “เอาจริง” 2 ปีนี้ประกาศลุยคอนโดเพื่อสัตว์เลี้ยงพร้อมกันถึง 16 ทำเล
วันนี้ ทุกคนล้วนอยากเป็น Pet Family ตัวจริง
เรื่องที่อยู่อาศัยของ “น้อน” ผู้ฮีลใจ “นุด” ในยามเหนื่อยล้า ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้ว แต่กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของจุดขายคอนโดในอนาคต
คอนโดเพื่อสัตว์เลี้ยง “บูม” ไม่ใช่เพียงแค่ “เทรนด์”
เมื่อคนเลี้ยงสัตว์ด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม เปลี่ยนจาก “Pet Lover” ที่แค่รักเป็น “Pet Parent” รักและผูกพันจนวันตาย การทุ่มเท ปรนเปรอ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดเลยเกิดขึ้น
ในขณะที่อัตราการเติบโตของสุนัขและแมว (สัตว์เลี้ยงยอดฮิตในคอนโด) ที่มีเจ้าของ จากปี 2562 ถึง 2565 เพิ่มขึ้นถึง 64% สวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ของเด็กที่มีอัตราลดลงถึง 20%
พร้อม ๆ กับวิถีชีวิตของกลุ่มคนในสังคมที่เปลี่ยนไป เช่น
1. กลุ่ม SINKs (Single Income No Kids หรือ โสดและไม่มีลูก)
2. กลุ่ม DINKs (Double Income No Kids หรือ มีคู่แต่ไม่มีลูก)
3. กลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ผันตัวมาเลี้ยงสัตว์เสมือนลูก สอดคล้องกับเทรนด์ Pet Humanization และ Pet Parents
ทุกอย่างคือปรากฏการณ์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ “เทรนด์” แต่คือของ “จริง” ที่กำลังกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่ทีเดียวนั่นคือที่มาที่ทำให้ในปี 2021 มูลค่าตลาดรวมทั้งตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง สินค้า และบริการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ 44,592 ล้านบาท
และคาดการณ์มูลค่าตลาดภายในปี 2026 มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงรวมอาจมีมูลค่าถึง 66,748 ล้านบาท
เมื่อเป็นไลฟ์สไตล์ของคน ไม่มีเหตุผลเลยที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะไม่เข้าไปเติมเต็มชีวิตของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบ

จาก Passion กลายเป็นจุดขายที่เป็นจุดแข็งของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์
ต้องยอมรับว่าถ้าจะหาคอนโดเพื่อเลี้ยงสัตว์ได้ โดยไม่ต้องแอบ โครงการของเมเจอร์ ฯ น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายคนอาจคิดถึง
ซึ่งไม่แปลกเพราะค่ายนี้เขาคือเจ้าตลาด และพัฒนาโครงการเพื่อสัตว์เลี้ยงมานานถึง 25 ปี เป็นคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้โดยมีกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ เจ้าแรกในประเทศไทย
เพชรลดา พูลวรลักษณ์ CEO ของเมเจอร์ เคยให้สัมภาษณ์กับ Marketeer ว่า รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นป้ายโต ๆ เขียนไว้หน้าโรงแรม คอนโด ศูนย์การค้า หรือร้านอาหารต่าง ๆ ว่า ห้ามนำสัตว์เข้ามาในพื้นที่
เมื่อมีโอกาสได้มาทำ “แฮมป์ตัน ทองหล่อ” คอนโดมิเนียม เมื่อ 20 ปีก่อน จึงเปิดโอกาสให้คนเอาสัตว์มาเลี้ยงได้
แน่นอนไม่ได้ตั้งใจให้เป็นจุดขายเลย แต่เป็น Passion ส่วนตัวของเธอล้วน ๆ เพราะสมัยนั้น เทรนด์ของคนที่เลี้ยงน้องหมา น้องแมว ไม่ได้มากเหมือนสมัยนี้
จนกระทั่งเมื่อจำนวนของคนเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น จึงได้เริ่มเอาเรื่องนี้มาสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
ประสบการณ์ที่สะสมมากลายเป็นจุดขายสำคัญในการที่จะทำให้คน 2 กลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยง และไม่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้ ผ่านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ
ปัจจุบันเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วกว่า 50 โครงการ รวมทั้งสิ้นกว่า 6,202 ยูนิต และมีโครงการปัจจุบันที่ยังเปิดขายอยู่ 6 โครงการ ทุกโครงการสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทั้ง 100%

ออริจิ้น มาแรง บุกตลาด Pet Parent
ออริจิ้น คอนโดมิเนียม เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อีกเจ้าหนึ่ง ที่กำลังบุกตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับกลุ่ม Pet Parent อย่างต่อเนื่อง
โครงการแรกที่เริ่มลองตลาดเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน คือบริกซ์ตัน เพ็ท แอนด์ เพลย์ สุขุมวิท 107
ปีนี้ 2566 ออริจิ้นเปิดโครงการคอนโดทั่วประเทศ 20 โครงการ 29,060 ล้านบาท มีโครงการคอนโดสำหรับ Pet Lover 8 โครงการ (อยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลทั้งหมด)
รวม 2 ปี ออริจิ้นมีคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้จำนวน 16 โครงการ และหากนับเฉพาะยูนิตที่เลี้ยงสัตว์ได้ สมสกุล แสงสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่
เช่น โครงการ Low-rise 8 ชั้น จะมีการใช้วิธีแบ่งตึก บางตึกเลี้ยงสัตว์ได้ทั้งตึก บางตึกเป็นที่อยู่อาศัยปกติ เลี้ยงสัตว์ไม่ได้
กลุ่มโครงการ High-rise อาจจะใช้วิธีแบ่งชั้น ชั้นไหนเลี้ยงได้ ก็จะเลี้ยงได้ยกฟลอร์ แล้วแยกลิฟต์กันขึ้น ระหว่างลิฟต์ปกติ กับลิฟต์ที่มีสัตว์เลี้ยง
ราคาขายทั้งยูนิตเลี้ยงสัตว์ได้และไม่ได้ ราคาเท่ากัน แต่ค่าส่วนกลางในโครงการเดียวกันก็จะไม่เท่ากัน ยูนิตที่เลี้ยงสัตว์ได้จะมีค่าส่วนกลางแพงกว่าเล็กน้อย ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการยูนิตแบบไหน
โดยเฉลี่ยภาพรวมจะมียูนิตเลี้ยงสัตว์ได้ประมาณ 30%

แสนสิริ อนันดา โนเบิล ก็ Love
ทั้ง 3 บริษัทคือยักษ์ใหญ่ในวงการที่อยู่อาศัยที่ไม่พลาดในการลงมาเล่นตลาดนี้เช่นกัน
Pet-friendly โครงการแรกของแสนสิริ คือ โครงการ ได้แก่ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดบนเส้นทองหล่อ และเป็นโครงการที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ Sansiri Luxury Collection ที่เปิดขายมาประมาณ 3 ปี และปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วน Via ARI แบรนด์บูทีคคอนโดของแสนสิริ ที่กำลังเปิดขาย มีเพียง 114 ยูนิต
โนเบิลก็ไม่พลาด ชิมลางกับคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ในโครงการ “Noble Create” คอนโดมิเนียม High-Rise เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ทั้งหมดมี 6 ตึก สูง 25-33 ชั้น คอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้มี 1 ตึกสูง 29 ชั้น จำนวน 208 ยูนิต
ส่วนอีกโครงการหนึ่งคือ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ คอนโดริมแม่น้ำเปิดใหม่ในย่านราษฎร์บูรณะ-พระราม 3
ทั้งโครงการมีทั้งหมด 8 ตึก เลี้ยงสัตว์ได้ มี 1 ตึกประมาณ 19 ชั้น 194 ยูนิต
Ashton Residence 41 เป็นหนึ่งในโครงการจากอนันดาฯ ที่เปิดโอกาสให้ลูกบ้านสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต
นอกจากนี้ ยังมีอสังหาฯ รายอื่น ๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ที่กำลังเปิดขายคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้กระจายในหลายทำเล

Love Me Love My Pets
เมื่อก่อนเจ้าของโครงการจะต้องมีงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกค้า เพื่อทำโครงการตอบโจทย์ความต้องการของคนให้ดีที่สุด
วันนี้ต้องไม่พลาดที่จะศึกษาข้อมูล Insight ความต้องการของสัตว์เลี้ยงด้วยเพื่อให้การออกแบบคอนโดที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ทั้งสัตว์เลี้ยงและเจ้าของอย่างแท้จริง
เช่น เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ใช้กำแพงแบบ Double Wall 2 ชั้น ที่ช่วยลดเสียงรบกวนไปยังห้องอื่นได้ดียิ่งขึ้น เลือกใช้วัสดุที่เป็น Non-Toxic และ Zero VOCs เพื่อเป็นมิตรต่อคนและสัตว์เลี้ยง
รวมทั้งนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ทั้ง SMART HOME AUTOMATION สำหรับเฝ้าดูสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงระบบกรองอากาศภายใน รวมถึงพื้นผิวห้องสามารถช่วยลดความร้อน สัตว์อยู่สบาย คนก็อยู่สบายด้วยเช่นกัน
ส่วน PET ZONE พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของได้ใช้ชีวิตทำกิจกรรมร่วมกันในโครงการ แต่ละโครงการก็จะให้ความสำคัญมากขึ้น
คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้
ออริจิ้นจัดตั้ง “RED Team By Origin” หรือ Research for Excellent Development Team (ทีมวิจัยเพื่อการพัฒนาที่เป็นเลิศ)
รวมทั้งหลายโครงการยังได้ร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศที่ตอบโจทย์ทุกมิติการใช้ชีวิตของสัตว์เลี้ยง เช่น ร่วมกับโรงพยาบาล ร้านขายอาหาร ประกันภัยของสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

เป็นโอกาสที่ดีของทาสหมาแมว และสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย แต่ถ้าสนใจโครงการไหนจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของคุณ เช่น น้ำหนักของหมา-แมวต้องไม่เกินเท่าไร เลี้ยงได้กี่ตัวต่อยูนิต หรือมีค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพิ่มขึ้นเท่าไร
เมื่อเป็นไลฟ์สไตล์ของคน ไม่มีเหตุผลเลยที่บริษัทอสังหาฯ จะไม่เข้าไปเติมเต็มชีวิตของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบ
และไม่มีเหตุผลเลยที่เราจะไม่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อคอนโดที่ทั้งเราและน้อนถูกใจ
–
Website : Marketeeronline.co /
