ตลาดขนมขบเคี้ยว 66 ผู้บริโภคยิ่งเคี้ยว ตลาดก็ยื่งโต (วิเคราะห์)
ตลาดขนมขบเคี้ยวกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ตลาดหดตัวลงในปี 2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
เมื่อดูมูลค่าย้อนหลังพบว่าในปี 2562 ตลาดขนมขบเคี้ยวมีมูลค่า 36,836 ล้านบาท เติบโต 5.4% จากปี 2561
ก่อนที่จะหดตัวลง 8.4% ในปี 2563 เหลือมูลค่าเพียง 33,731 ล้านบาท
และกลับขึ้นมาเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา
ด้วยมูลค่าตลาด
2564 37,480 ล้านบาท
2565 38,802 ล้านบาท
2566 40,000 ล้านบาท

การเติบโตของตลาดขนมขบเคี้ยวในปี 2566 เป็นการเติบโตจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่รับประทานขนมขบเคี้ยวระหว่างวันเพื่อผ่อนคลาย และอื่น ๆ รวมถึงการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น
บนการแข่งขันที่รุนแรง จากผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวแบรนด์ต่าง ๆ ที่ต่างแข่งขันกันด้วยแคมเปญโปรโมชั่น การพัฒนารสชาติใหม่ ๆ ในขนมบางเซกเมนต์ และการเปิดตัวขนมแบรนด์ใหม่ ๆ สินค้าใหม่ เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินในกระเป๋าผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
เช่น การเปิดเลย์รสชาติเลย์เวรี่ไทย 3 รสชาติ ได้แก่ รสต้มยำมันกุ้งหม้อไฟ รสก๋วยเตี๋ยวเรือทรงเครื่อง และรสทะเลเผาน้ำจิ้มแซ่บ พร้อมนำใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็นพรีเซนเตอร์, เลย์ แมกซ์ 4 รสชาติ รสพริกปีศาจ เอ็กซ์ตร้าชิลลี่, รสบาร์บีคิวพริกพ่นไฟ, รสโนริสาหร่ายโอเวอร์โหลด และรสเอ็กซ์ตรีมซาวครีมและหัวหอม เป็นต้น
แต่ถ้ามองไปที่เซกเมนต์ของขนมขบเคี้ยวพบว่า มันฝรั่งทอดกรอบยังคงเป็นเซกเมนต์ที่สร้างมูลค่าสูงสุดให้กับตลาด
อ้างอิงจากปีที่ผ่านมาตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่า 38,802 ล้านบาท
มันฝรั่งทอดกรอบมีมูลค่ามากถึง 13,982 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 36.0% ในตลาดรวม ในตลาดนี้เลย์ยังคงเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง ที่สร้างสีสันให้กับตลาดอย่างต่อเนื่องผ่านแคมเปญ โปรโมชั่น และพรีเซนเตอร์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
รองลงมาได้แก่ ขนมขึ้นรูป 10,491 ล้านบาท สัดส่วน 27.0%
ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อสัตว์ 4,419 ล้านบาท สัดส่วน 11.4%
ถั่ว 4,195.7 ล้านบาท
ขนมที่ทำจากข้าว 2,127.6 ล้านบาท
สาหร่าย 2,101.1 ล้านบาท
ข้าวเกรียบ 1,174.6 ล้านบาท
ป๊อปคอร์น 310.9 ล้านบาท
ถ้ามองไปที่เซกเมนต์ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อสัตว์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจมากถึง 40-50%
ในตลาดขนมขบเคี้ยวจากเนื้อสัตว์ถ้ามองแยกย่อยลงไปจะประกอบด้วย
ปลา 2,519.4 ล้านบาท
ปลาหมึก 1,349.4 ล้านบาท
หมู 500.2 ล้านบาท
ไก่ 50.0 ล้านบาท
และการเติบโตนี้ส่วนหนึ่งยังมาจากมูฟเมนต์ของแบรนด์ขนมของฝากอย่างเจ้าสัว และ ส.ขอนแก่น ที่นำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด
เช่น ส.ขอนแก่น เปิดตัว ส.อกไก่นรก เข้าทำตลาดในต้นปี 2565 หรือล่าสุดเจ้าสัวออกซับแบรนด์ เจ้าสัว สแนคซ์ เข้ามาลงเล่นใน ตลาดขนมขบเคี้ยว ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดขนมขบเคี้ยวจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต ตราบใดที่ผู้บริโภคยังคงกินขนม ♦
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
