ได้ชื่อว่าเป็นปีแห่งการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม ทั้งการเปิดบริษัทใหม่ ทรู คอร์ปอเรชั่น เมื่อต้นปี 2566 หลังจากที่ดีลนี้เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่บอร์ดทรูและบอร์ดดีแทค มีมติเห็นชอบตั้งแต่ปี 2564 ก่อนที่จะผ่านขั้นตอนแจ้งกับ กสทช. การเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของหลาย ๆ ฝ่ายถึงผลกระทบทางลบกับผู้บริโภค ทั้งค่าบริการที่สูงขึ้น และอื่น ๆ จากการแข่งขันที่เหลือบริษัทให้บริการเพียง 2 บริษัท ได้แก่ เอไอเอส และทรู คอร์ปอเรชั่น

จน กสทช. ออกมาตรการเฉพาะสำหรับการควบรวมทรูและดีแทคขึ้นมาเป็นข้อบังคับ เช่น การคงแบรนด์เดิมไว้ 3 ปี หลังการควบรวม การคิดอัตราค่าบริการเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักของทั้งสองค่ายที่จะต้องลดลง 12% ใน 90 วัน

และหลังจากการควบรวมได้เกิดเสียงจากผู้บริโภคในแง่มุมต่าง ๆ

รวมถึงการสะท้อนผ่านมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร สภาองค์กรของผู้บริโภค ที่เปิด GOOGLE FORM รับฟังเสียงสะท้อนของผู้บริโภคตั้งแต่วันที่ 9-23 พฤศจิกายน 2566 และมีผู้ตอบแบบสำรวจทั้งสิ้น 2,924 ราย

ว่าพบ 5 ปัญหาใหญ่ในการใช้งานของลูกค้ามือถือ คือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า สัญญาณหลุดบ่อย โปรโมชั่นเดิมหมดต้องใช้โปรโมชั่นที่แพงขึ้น แพ็กเกจราคาเท่ากันหมด ทำให้ไม่มีทางเลือก และ Call Center โทรติดยากทั้งแบรนด์ทรู และดีแทค

จากเสียงทางลบต่าง ๆ ของลูกค้าที่ใช้บริการ ทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่น ออกมาแจ้งข้อเท็จจริง 6 ประกาศที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับทรูและดีแทคทั้งด้านเครือข่ายแพ็กเกจที่ให้บริการ

นอกจากการควบรวมของทรูและดีแทค เป็นทรู คอร์ปอเรชั่น ในส่วนของธุรกิจเครือข่ายมือถือ

ธุรกิจโทรคมนาคมด้านบอร์ดแบนด์อินเทอร์เน็ต หรือเน็ตบ้านได้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน

หลังจากที่เอไอเอสประกาศซื้อหุ้น TTTBB ผู้ให้บริการเน็ตบ้าน 3BB และหน่วยลงทุน JASIF ในปีที่ผ่านมา

และจบธุรกรรมเป็นที่เรียบร้อยในเดือนพฤศจิกายน 2566 พร้อมรีแบรนด์เป็น AIS-3BB Fibre 3

หลังจาก กสทช. มีมติให้เอไอเอสทำธุรกิจดังกล่าวได้ พร้อมมาตรการเฉพาะที่ กสทช. กำหนดให้คือ ห้ามขึ้นราคา หรือลดคุณภาพให้บริการ ให้คงแพ็กเกจราคาต่ำสุดที่เสนอขายก่อนการเข้าซื้อกิจการเป็นเวลา 5 ปี และมีทางเลือกของราคาที่แยกบริการ และต้องนำเงินที่ไม่ต้องลงทุนทับซ้อนในช่วง 5 ปี หรือประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท ไปลงทุนในโครงข่าย Fixed Broadband Access ในพื้นที่ห่างไกล ที่ไม่ซ้ำกับโครงการที่ กสทช. ทำอยู่

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมทั้งเครือข่ายมือถือ และเน็ตบ้านนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

และการควบรวมนี้ทำให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ แทนเอไอเอส

และเอไอเอสขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดเน็ตบ้านแทนทรู คอร์ปอเรชั่น


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer