Work: สถานการณ์ในโลกการทำงานยุคนี้ ไม่ได้น่าสนใจเฉพาะเรื่องบทบาทของเอไอที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เพราะเป็นยุคที่แทบทุกบริษัทมีช่วงวัยของพนักงานกว้างสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ไล่จากรุ่น Babyboom ต่อด้วย Gen X ลงมาถึง Gen Y และสุดที่ Gen Z หรือวัยเกษียณถึงวัยเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ
ดังนั้น ความเข้าใจลักษณะของคนแต่ละรุ่นจึงสำคัญมาก โดยในบรรดาคนทั้ง 4 รุ่นนี้ ต้องยอมรับว่า Gen Y สำคัญมากสุด เพราะด้วยวัย 30 ถึง 43 ปี จึงถือเป็นพนักงานกลุ่มใหญ่สุด ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานมาพอสมควร และยังมีไฟมีแรงให้ลุยงานต่อไปอีกหลายปี
มีการประเมินว่าเมื่อถึงปี 2026 Gen Y จะกินสัดส่วนเพิ่มเป็น 40% ของตลาดแรงงานในหลายประเทศ ดังนั้น ทั้งหัวหน้าแผนก ซีอีโอ และเจ้าของบริษัททุกแห่งจึงต้องเข้าไปนั่งในใจ Gen Y ให้ได้
เป็นที่ปรึกษามากกว่าบอส: เคล็ดลับข้อแรกในการบริหาร Gen Y คือการวางตัว โดยพวกเขาชอบที่จะให้บรรดารุ่นพี่ ๆ ที่มีตำแหน่งเหนือกว่ารับบทที่ปรึกษาคอยชี้แนะมากกว่าเป็นหัวหน้าคอยชี้นิ้วสั่ง
เพราะพวกเขาอยากให้งานของตัวเองมีคุณค่า มองเรื่องตัวตนมากกว่าตำแหน่ง และเน้นความเท่าเทียมเป็นหลัก ดังนั้น พวกเขาจึงเกลียดหัวหน้าที่เจ้ากี้เจ้าการ
แม้นี่จะต่างจากลักษณะของหัวหน้ารุ่นเก่า แต่ถ้าหัวหน้าของบริษัทไหนวางตัวเป็นโค้ชจนถึงขั้นมัดใจได้ Gen Y ก็พร้อมทุ่มทำงานให้สุดตัว
บอกให้รู้คุณค่าของงาน: Gen Y เป็นคนรุ่นที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ และนัยสำคัญ เพราะพวกเขาเติบโตมาในยุคที่ต้องตรวจสอบ ต้องเปรียบเทียบข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น หากอยากให้พวกเขาทุ่มกายทุ่มใจ ต้องชี้ให้เห็นว่างานนั้นสำคัญ ด้าน Laszlo Bock อดีตหัวหน้าฝ่ายบุคคล Google กล่าวถึง Gen Y ไว้ว่า “เป็นพนักงานที่คุณสมบัติถึงพร้อมสุดในหลายทศวรรษพร้อมทำงานหนักมากสุด แต่ก็อยากให้งานของตนมีความหมายกับองค์กรมากที่สุดเช่นกัน”
มองขาดเรื่องบริหารคน: เคล็ดลับข้อถัดมาในการบริหาร Gen Y ต่อเนื่องมาจากข้อที่แล้วเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ โดย Gen Y ชื่นชมผู้บริหารที่เก่งเรื่องวางคนให้ถูกกับงาน
หาจุดเด่นของพนักงานแต่ละคนได้ และเมื่อเจอก็หาทางพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ในทางตรงกันข้ามก็มองเห็นจุดอ่อนของผู้ใต้บังคับบัญชาและทยอยแก้ไขหรือขจัดให้หมดไปอีกด้วย
สื่อสารอยู่เสมอ: เคล็ดลับอีกข้อในการบริหาร Gen Y คือต้องบอกให้รู้อยู่เสมอว่าทำงานเป็นอย่างไร จุดไหนทำดีแล้ว และจุดไหนควรต้องปรับปรุง ซึ่งสาเหตุมาจากพวกเขาโตมาในยุคข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลเข้ามาตลอด และคุ้นเคยกับการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลนั่นเอง
ไม่มองข้าม Growth Mindset: เคล็ดลับข้อสุดท้ายในการบริหาร Gen Y ทื่บริษัทยุคนี้ต้องรู้ คือ การมีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพหรือสายงานให้เห็นชัดเจน ซึ่งก็โยงกับการเป็นคนรุ่นที่ใฝ่รู้
คุ้นเคยกับข้อมูลมากมาย และอยากลงทุนลงแรงไปกับสิ่งที่คุ้มค่าเหนื่อย เห็นอนาคตหรือสอดคล้องกับจุดยืนเท่านั้น/trainingmag
–