ดราม่าในแวดวงธุรกิจยานยนต์รอบนี้เกิดขึ้นบนแผ่นดินญี่ปุ่น เมื่อหลายสำนักข่าวต่างประเทศรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า Akio Toyoda ประธาน Toyota Motors Corp ออกมายอมรับและขอโทษสาธารณชนในกรณีที่ Toyota บิดเบือนผลการทดสอบรถยนต์ 7 รุ่น ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Corolla Fielder, Corolla Axio, Yaris Cross, Crown, Isis, Sienta Minivans, Lexus RX luxury crossove

โดยเบื้องต้น Toyota สั่งระงับการผลิตรถยนต์ใน 3 รุ่นชั่วคราวแล้ว ได้แก่ Corolla Fielder, Corolla Axio และ Yaris Cross อีกทั้งใน 4 รุ่นหลังก็ไม่ได้มีการผลิตและจัดจำหน่ายแล้ว แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าจะมีรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนกว่า 1.7 ล้านคันได้รับผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาวนี้

ซึ่งก่อนที่ Toyota จะเป็นข่าวใหญ่ในหน้าสื่ออีกครั้งเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นเริ่มกระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวการโกงผลการทดสอบเครื่องยนต์มาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2024 ตั้งแต่ตอนที่ Toyota ออกมายอมรับว่าปรับแต่งผลการทดสอบด้านความปลอดภัย

ทำไม Toyota ถึงมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับความโปร่งใสอยู่บ่อยครั้งในรอบไม่กี่ปี เกิดอะไรขึ้นกับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายนี้ ในบทความนี้เราจะพาไปสืบค้นและเจาะลึกเพื่อหาคำตอบ

 

Toyota โกงผลทดสอบอะไร

นับเฉพาะเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่เรื่องที่ Toyota ส่งข้อมูลผลทดสอบที่ไม่เป็นจริงเพื่อให้ผ่านการรับรองทางกฎหมายจะมีทั้งสิ้น 2 เหตุการณ์ด้วยกัน

ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2023 ในตอนนั้นมีการเปิดเผยว่า Daihatsu ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Toyota ทำการปลอมผลการทดสอบ ‘การชน’ ในรถยนต์หลายรุ่น ซึ่งมีทั้งขายในนามแบรนด์ Toyota  Mazda แม้แต่ Subaru เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรื่องการปลอมข้อมูลผลทดสอบในตอนนั้นถูกพูดถึง คือการที่ Daihatsu ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 1989 โดยถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งในชุดรถยนต์ที่ทำมาทดสอบ เป็นคนละชุดกันกับที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ที่ออกจำหน่ายให้แก่สาธารณชน

 

Akio Toyoda ประธานกลุ่ม Toyota Motor Corporation โค้งคำนับแสดงการขอโทษภายหลังจากออกมายอมรับว่า Toyota โกงผลการทดสอบรถ: Kyodo News

 

และอีกครั้งให้หลังเพียงแค่ไม่ถึงปี ในเดือนมิถุนายน 2024 Toyota ออกมายอมรับว่า ‘โกง’ สื่อภาษาอังกฤษใช้คำว่า Cheating เกี่ยวกับการรับรองผลการทดสอบในรถยนต์ทั้งหมด 7 รุ่นอย่างที่ได้กล่าวไป ซึ่งในกรณีของ Toyota ในปี 2024 นั้นเกี่ยวข้องกับ

  • ให้ข้อมูลเก่าและไม่เพียงพอในกรณีการทดสอบการชน
  • ให้ข้อมูลผลการทดสอบที่ ‘ไม่ถูกต้อง’ เกี่ยวกับผลการทดสอบ ‘ถุงลมนิรภัย’ รวมถึงข้อมูลความเสียหายกรณีเกิดการชนในส่วนของที่นั่งด้านหลังของรถ
  • และยังมีการ ‘บิดเบือน’ ผลการทดสอบกำลังของเครื่องยนต์อีกด้วย

 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมกราคม Koji Sato Toyota Chief ก็ออกมากล่าวขอโทษลูกค้า ซัปพลายเออร์ และตัวแทนจำหน่าย ในเรื่องที่ Toyota ตรวจพบผลลัพธ์การทดสอบที่เป็นเท็จในการทดสอบเครื่องยนต์ที่อ้างว่าเป็นไปตามมาตรฐานแต่จริง ๆ แล้วไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

 

Yaris Cross รุ่นที่จำหน่ายในญี่ปุ่นเป็น 1 ใน 3 รุ่นรถยนต์ที่ Toyota ออกมายอมรับว่าโกงผลการทดสอบ Global.Toyota

 

ถึงแม้ตอนนี้สื่อจะเล่นข่าวไปที่ Toyota แต่จริง ๆ แล้วก็เคยเกิดกรณีที่คล้ายคลึงกันนี้มาแล้วกับค่ายรถคู่แข่งอย่าง Mazda ที่เคยออกมายอมรับว่าพวกเขา ‘สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จ’ ในผลการทดสอบรถ และติดสินบนสำหรับการทดสอบการชนในล็อตการผลิตรถยนต์กว่า 150,000 คันมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งนี่ยังไม่รวมกรณีของ Honda ด้วย ที่เคยออกมาขอโทษในเรื่องที่พวกเขาเซตอัปการทดสอบรถที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นจริงแต่ทำไปเพื่อให้ผ่านการรับรองในรถยนต์หลายรุ่นด้วยกัน

ในเคสของ Toyota ปัญหาทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ที่ถูกผลิตป้อนสู่ท้องถนนในญี่ปุ่นเดือนละกว่า 7,000 คัน และ 36,000 คันในระดับโลกซึ่งมีการจำหน่ายทั้งในประเทศญี่ปุ่นเอง รวมถึงยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และทั่วเอเชีย

 

ทำไม Toyota ถึงบิดเบือนผลการทดสอบ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้มงวดเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้ามาก ชนิดที่มี Defect แม้แต่ข้อเดียวก็อาจจะไม่ผ่านการรับรองเลย

ทีนี้จากข้อมูลของ Koji Endo จาก SBI Securities (โบรกเกอร์) บอกกับสื่อมวลชนว่า การทดสอบการรับรองของญี่ปุ่นนั้นเข้มงวดและเข้มงวดกว่าประเทศอื่น ๆ มาก

“สำหรับมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่ปี 1951 ดังนั้น จึงค่อนข้างล้าสมัยและยากที่จะปฏิบัติตามสำหรับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย”

“เราต้องรู้ไว้อย่างหนึ่งว่า Toyota ทำการทดสอบหลายแสนครั้งหรือหลายล้านครั้งตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา และจากการทดสอบเหล่านั้นมีเพียงข้อกังวลเกี่ยวกับการทดสอบ 3 หรือ 4 ครั้งเท่านั้น แล้วจะให้ Toyota ทำอย่างไรในเมื่อมาตรฐานความปลอดภัยของญี่ปุ่นสูงมาก และข้อกังวลก็เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ๆ”

จากข้อมูลของ The Japan times ระบุว่า ‘ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย’ ของญี่ปุ่นนั้นเข้มงวดมากจริง ๆ จนทำให้ Toyota Honda และผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นใช้คำว่า ยากมาก ๆ ที่กว่าจะฝ่าด่านอรหันต์จนได้รับใบรับรองความปลอดภัยจากการใช้งานยานพาหนะ

และเมื่อเป็นเช่นนี้ค่ายรถยนต์ในญี่ปุ่นจึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและผ่อนปรนความเข้มงวดของกฎระเบียบลงบ้าง ซึ่งไม่ใช่ว่าค่ายรถจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่กฎบางข้อก็ล้าสมัย

Takaki Nakanishi นักวิเคราะห์จาก Astris Advisory Japan เขียนในรายงานว่า “แม้ Akio Toyoda จะออกมากล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ แต่เขา (Akio) ก็ไม่วายที่จะชี้ว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Toyota ทำในสิ่งที่ไม่อยากจะทำ คือการส่งข้อมูลการทดสอบ (ที่ไม่เป็นไปตามจริง) เพื่อให้ผ่านในทางกฎหมาย เพราะ Akio มองว่าช่องว่างระหว่างกฎและความเป็นจริงมันมีมากเกินไปจนยากที่ค่ายรถยนต์จะปฏิบัติตามได้อย่างเป๊ะๆ” จนเกิดเป็นดราม่าตามหน้าสื่ออย่างที่เราเห็น

Nakanishi มองว่า จริงอยู่ที่กระบวนการสอบสวน Toyota ก็จะเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่นี่อาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลญี่ปุ่น (โดยเฉพาะในภาพกระทรวงคมนาคม) ทบทวนถึงความตึงของกฎระเบียบหรืออาจจะนำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการขอการรับรองด้านความปลอดภัยเลยก็ได้

 

รัฐบาลต้องส่งคนลงมาดู

เมื่อมีเหตุให้ต้องสั่นคลอนความเชื่อมั่นมีหรือที่ประเทศแห่งคุณภาพอย่างญี่ปุ่นจะนิ่งเฉย กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสำนักงานใหญ่ของ Toyota ภายหลังจากที่ Toyota ออกมายอมรับว่า “ใช้วิธีการทดสอบที่แตกต่างจากมาตรฐานของรัฐบาล”

ซึ่งกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ 5 ราย ได้แก่ Toyota Mazda Honda Suzuki และ Yamaha มีการส่งข้อมูลการทดสอบความปลอดภัยที่ไม่ถูกต้องหรือมีการดัดแปลง เพื่อยื่นขอการรับรองรถยนต์ผลการทดสอบคุณภาพ

รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่น Tetsuo Saito (เท็ตสึโอะ ไซโตะ) แสดงความผิดหวังต่อถ้อยแถลงของ Toyota โดยกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างแท้จริงที่ความไว้วางใจของสาธารณชนในเรื่องความปลอดภัยของรถยนต์ถูกทรยศ”

 

นาย Tetsuo Saito รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่น: The Japan Times

ในคำให้สัมภาษณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นไม่ได้กล่าวโทษแต่ Toyota เพียงอย่างเดียว แต่ยังพูดถึงเรื่องการปรับปรุงมาตรฐานการกำกับดูแลการผลิตยานพาหนะ และการทดสอบทั่วทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดนั้นมีความจำเป็นจะต้องได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยใหม่ทั้งหมด “กระทรวงจะตรวจสอบปัญหาเชิงระบบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทุกราย”

กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นระบุว่า การดำเนินงานที่โรงงานของ Toyota จะไม่ถูกระงับในระหว่างการสอบสวน แต่การผลิตจะหยุดชั่วคราวสำหรับรถทั้งสามรุ่นภายใต้การสอบสวน

 

เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับผลทดสอบในอดีต

แม้ว่าสิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นการทดสอบหลักครั้งแรกที่ Toyota ยอมรับว่า “เป็นเท็จ” (แปลว่า ไม่ตรงกับความเป็นจริง) แต่ในอดีตที่ผ่านมา Toyota ก็เคยมีเรื่องอื้อฉาวทำนองนี้มาก่อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา

ในปี 2009-2010 Toyota ถูกบังคับให้เรียกคืนรถยนต์มากกว่า 8 ล้านคันทั่วโลก เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับการเหยียบคันเร่งและปัญหาการรบกวนของพรมปูพื้นซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์การเร่งความเร็วโดยไม่ตั้งใจ การรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงของ Toyota เสื่อมเสีย และถึงจุดสูงสุดด้วยการถูกรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งปรับเป็นเงินกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2014

จากนั้นในปี 2016 Toyota เรียกคืนรถยนต์อีกกว่า 3.4 ล้านคัน เนื่องจากมีข้อบกพร่องที่ถุงลมนิรภัยฝั่งผู้โดยสาร ปัญหาคือถุงลมนิรภัยอาจกางโดยไม่ตั้งใจ และทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บได้

 

ผลกระทบต่อการผลิตและซัปพลายเออร์

เนื่องจาก Toyota เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ถ้าเกิดปัญหาใด ๆ ในตารางการผลิตของ Toyota จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมและผลกระทบต่อกันเป็นทอด ๆ ไปยังเครือของซัปพลายเออร์ชิ้นส่วนและพันธมิตรการผลิตที่มีจำนวนมากและซับซ้อน

นาโอโกะ โทยามะ ผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานกล่าว “เมื่อช้างล้ม หนูตัวน้อยทั้งหมดก็จะถูกทับ” “แม้แต่การปิดบริษัท Toyota เพียงช่วงสั้น ๆ ก็ทำให้ซัปพลายเออร์หลายพันรายเห็นคำสั่งซื้อหายไปในชั่วข้ามคืน”

แท้จริงแล้ว ผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็กหลายรายต้องพึ่งพาธุรกิจของ Toyota เป็นอย่างมากเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ การหยุดการผลิตกะทันหันในกลุ่มยานยนต์หลักสามสาย ซัปพลายเออร์เหล่านั้นต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง และอาจเกิดความเสียหายทางการเงินหากสถานการณ์ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

จะเห็นว่าข่าวฉาวเกี่ยวกับการโกงผลการทดสอบรถนั้นสั่นคลอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งพวกเขาคือเบอร์ 1 ที่ยากจะหาคู่ต่อกร แต่ตอนกลายเป็นว่าไม่เพียงแต่ผู้ใช้งานชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่คนซื้อรถทั่วโลกก็อาจไม่มั่นใจในคุณภาพรถยนต์จากญี่ปุ่นอีกต่อไปก็เป็นได้

ข่าวเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเป็นมูลค่าหลายล้านเยน ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องส่งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคมเข้าไปสืบสวนสอบสวนโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ในญี่ปุ่นกว่า 90 โรงงาน ♦


เรื่อง: ณัฐศกรณ์ แสงลับ


อ้างอิง

https://www.aol.com/toyota-apologizes-cheating-vehicle-testing-102117195.html

https://edition.cnn.com/2024/06/04/cars/japan-toyota-raid-safety-scandal-hnk-intl/index.html

https://news.sky.com/story/toyota-hq-inspected-as-japan-car-safety-testing-scandal-grows-13147731

https://www.reuters.com/business/autos-transportation/japanese-authorities-inspect-toyota-hq-over-certification-irregularities-2024-06-04/

https://www.cnbc.com/2024/06/04/toyota-apologizes-for-cheating-on-vehicle-testing-and-halts-production-of-three-models.html

https://www.japantimes.co.jp/business/2024/06/05/companies/cars-safety-requirements/

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer