Trend/หลังยิ้มรับความสำเร็จต่อเนื่องและเป็นหนึ่งในหัวหอกสำคัญตามแผน Soft power ยุคใหม่ที่หลายประเทศอยากเดินตาม แต่ล่าสุดวงการหนังเกาหลีใต้กำลังตกอยู่ในฝันร้ายที่อาจลากยาวไปตลอดปี 2025
เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมายอดขายตั๋วหนังเกาหลีใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเข้าไปชมหนังในประเทศ อยู่ที่ 11.8 ล้านใบ ลดลงไปเกือบ 3 ล้านใบจากสิงหาคมปี 2023
จนสื่อเกาหลีใต้เรียกว่าเป็น สิงหาคมสุดช็อก ของทั้งธุรกิจโรงหนังและค่ายหนัง สะท้อนถึงขาลงของวงการหนัง
ขาลงดังกล่าวมีที่มาจากหลายปัจจัย เริ่มจากหนังที่เข้าโรงฉาย ณ เวลาดังกล่าว ไม่สามารถจูงใจให้ผู้คนออกจากบ้านไปดูได้จึงทำเงินไม่มากอย่างที่คาดไว้

ปัจจัยต่อมาคือราคาตั๋วหนัง ที่แพงจนชาวเกาหลีใต้ไปดูหนังกันน้อยลง โดยตั๋วหนังในเกาหลีใต้ปัจจุบันราคาเริ่มต้นขึ้นไปอยู่ที่ 15,000 วอน (ราว 370 บาท) แล้ว
เพิ่มจาก 12,000 วอน (ราว 300 บาท) เมื่อ 2 ปีก่อน และหากไปดูเป็นคู่ที่ต้องซื้อป๊อปคอร์นด้วย ค่าใช้จ่ายในการดูหนังเฉลี่ยต่อครั้งอาจเพิ่มเป็น 40,000 วอน (ราว 1,000 บาท) ซึ่งถือว่าแพงในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง

ปัจจัยต่อมาคือ หนังโรงแพ้ให้กับหนังและซีรีส์สตรีมมิ่ง ที่ราคาถูกกว่า มีมากกว่า และเลือกดูได้ตามที่สะดวกอีกด้วย ซึ่งกลุ่มที่เลือกดูคอนเทนต์ในสื่อสตรีมมิ่งมากสุดคือ Gen Z ซึ่งเป็นประชากรรุ่นใหม่ (อายุระหว่าง 12-28 ปี)
ความนิยมของคอนเทนต์ สตรีมมิ่ง จากฝั่งผู้ชม และงบการสร้างที่น้อยกว่า ยังทำให้ค่ายหนังหันไปผลิตหนังลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย

ปัจจัยสุดท้ายมาจากฝั่งค่ายหนังเอง โดยปี 2024 ค่ายหนังใหญ่ 5 แห่งของเกาหลีใต้ต่างก็ยังไม่ฟื้นจากวิกฤตโควิด จึงต้องคิดให้รอบคอบยิ่งขึ้นในการสร้างหนังออกมาแต่ละเรื่อง
นี่ส่งผลให้ ณ ปัจจุบันทั้ง 5 ค่ายใหญ่คือ CJNEM, Showbox, Lotte Entertainment, New และ Plus M Entertainment มีหนังที่อยู่ในช่วงถ่ายทำหรือเตรียมการถ่ายทำรวมกันเพียง 10 เรื่องเท่านั้น
ทำให้ปี 2025 จะมีหนังเกาหลีใต้ฟอร์มใหญ่ สำหรับฉายในประเทศและส่งไปฉายต่างประเทศน้อยลงมาก ด้านผู้บริหารของ CJNEM ยอมรับว่า นี่ถือเป็นวิกฤตใหญ่สุดในรอบ 25 ปี

ขาลงครั้งนี้ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะฟื้นกลับมาได้เร็วแค่ไหน เพราะวงการหนังเกาหลีใต้ได้รับการสนับสนุนและปกป้องจากรัฐบาลมาหลายทศวรรษ
เพื่อกระตุ้นการเติบโตและส่งออกไปฉายในต่างประเทศ ที่จะแปรเป็นเงินกลับเข้าประเทศ และช่วยโปรโมตประเทศกับสินค้าเกาหลีใต้ได้อีกทาง ตามแผน Soft power
ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกไปแล้วตลอดราว 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

สื่อเกาหลีใต้วิเคราะห์ผ่านทัศนะของคนในวงการหนังว่า วิธีที่จะฝ่าวิกฤตนี้คือ สร้างหนังเนื้อหาน่าสนใจและอาจต้องลดราคาค่าตั๋วลงบ้างเพื่อดึงผู้คนออกไปดูหนังโรงให้ได้มากกว่านี้

ซึ่งก็คงไม่ง่าย เพราะนอกจากต้องเดาใจผู้ชมให้ได้ และใช้สารพัดกลยุทธ์ทางการตลาดแล้วยังต้องสู้กับคอนเทนต์สตรีมมิ่ง โซเชียลมีเดีย และปัญหาค่าครองชีพอีกด้วย/koreaherald, koreatimes
–
