เซ็นทรัลชิดลม ใช้งบ 4,000 ล้าน รีโนเวต มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ The Store of Bangkok รับกลุ่มกำลังซื้อสูง
ตลาดลักซัวรีในไทยแม้สะดุดจากสถานการณ์โควิด-19 และผลพวงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ทำให้คนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังขึ้น แต่ฟื้นตัวกลับมาได้ไวเนื่องจากกลุ่มกำลังซื้อสูงไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ
ส่งผลให้ดีมานด์ของสินค้าลักชัวรีมีอย่างตลอดต่อเนื่อง ห้างเซ็นทรัลชิดลม ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ลักชัวรีของเครือ ได้เวลารีโนเวตครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี เพื่อรับกระแสตลาดลักชัวรีที่เติบโตต่อเนื่อง
คุณณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เซ็นทรัลชิดลมเปิดให้บริการในปี 1974 เป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งทุกสิบปีจะมีการรีโนเวตครั้งหนึ่งเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้า แต่สำหรับการรีโนเวตครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุด โดยทุ่มทุนมากกว่า 4,000 ล้านบาท มากที่สุดจากทุกครั้ง ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคาร เพื่อก้าวสู่การเป็น No.1 Luxury Department Store ที่สมบูรณ์แบบที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ
ซึ่งที่ผ่านมา ภายใน 6 เดือน (1 มิ.ย. 67-30 พ.ย. 67) มียอดขายเติบโตสูงถึง 25% แล้ว กลุ่มสินค้าขายดียังคงเป็นสินค้าลักชัวรี, บิวตี้ และแฟชั่น ตามลำดับ และในปีหน้า 2568 เมื่อแล้วเสร็จตั้งเป้าว่าจะสร้างยอดขายเติบโตเป็น 30% ได้
กลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นผู้มีกำลังซื้อสูง ในกลุ่มนี้มีกลุ่ม High spending อยู่ที่ราว 7,000 คน ที่ใช้จ่ายกับทางเซ็นทรัลมากกว่า 600,000 บาทต่อปี โดยที่ 80% ของลูกค้าไฮสเปนดิงจะช้อปที่เซ็นทรัลชิดลมเป็นหลัก
ภายหลังการรีโนเวตแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถดึงลูกค้าเข้าเซ็นทรัลชิดลมได้วันละ 30,000 คน จากเดิมอยู่ที่ 25,000 คนต่อวัน
การรีโนเวตไม่เพียงแต่เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปใหม่ แต่ยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์ จุดยืนทางรสนิยมให้เด่นชัดตามไลฟ์สไตล์ไฮคลาส มอบประสบการณ์สุดพิเศษที่สัมผัสได้เฉพาะห้างเซ็นทรัลชิดลม ตามหลัก 4 Keys ดังนี้
- The Store of Curation
คัดสรรแบรนด์สินค้าลักชัวรีจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ Beauty Galerie โฉมใหม่ที่หรูหราที่สุดในประเทศไทย รวมผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ความงามระดับโลก 150 แบรนด์ อาทิ Chanel, Dior, Gucci, Prada Beauty, Lamer ฯลฯ พร้อมโซนพิเศษที่รวบรวมแบรนด์สกินแคร์ออแกนิกระดับพรีเมียม ยังมีโซนน้ำหอมเฉพาะกลุ่ม (Niche Fragrances) รวมทั้งเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่จำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมเท่านั้น เช่น Ausgustinus Bader, Officine Universelle Buly และ Valentino Beauty รวมถึงมี PRADA BEAUTY ที่เปิดให้บริการที่แรกที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม
ขณะที่โซนแฟชั่นมีให้เลือกกว่า 500 แบรนด์ โดยโซนไฮไลท์อย่าง Luxe Galerie เป็นที่เดียวในประเทศไทยที่เป็นรูปแบบ Shop in Shop รวบรวมแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย เช่น Bottega Veneta, Balenciaga, Burberry, Celine, Dolce & Gabbana, Emilio Pucci, Fendi, Gucci, Kenzo, Loewe, Louis Vuitton, Miu Miu, Missoni,Prada, Roger Vivier, Versace รวมถึงแบรนด์ที่กำลังจะเปิดให้บริการเดือนธันวาคมนี้ อย่าง Chanel
รวมถึงยังมีโซน Sneakers Boulevard & Streetwear Studio อาณาจักรสนีกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสินค้ากลุ่มสตรีทแฟชั่น และสินค้าลิมิเต็ด เอดิชัน ดึงฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่กว่า 800 คู่ คัดสรรสินค้าจากหลากหลายแบรนด์รวบรวมไว้ในพื้นที่เดียวกัน
แผนก Home รวบรวมของใช้เกี่ยวกับบ้าน ถูกออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ “Circle of Life” มีสินค้าแบรนด์คุณภาพชื่อดัง รวมถึงแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟ Only @ Central
Mom & Kids แผนกแม่และเด็กรวบรวมสินค้าคุณภาพจากกว่า 30,000 รายการจาก 400 แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก มีบริการ Baby Advisor บริการให้คำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์เพื่อให้คำแนะนำสำหรับคุณแม่ยุคใหม่
- The Store of Design
ห้างเซ็นทรัลชิดลมเป็นสาขาแฟล็กชิปที่ผสมผสานเอกลักษณ์และไอเดียของสถาปัตยกรรมระดับโลกเข้ากับสถาปัตยกรรมไทย สร้างพื้นที่ที่มีชีวิตชีวา และยังมีโซนที่สามารถเปลี่ยนแปลงสีสันได้ตามสภาพอากาศ พร้อมเปิดทางเข้าใหม่ Sky Terrace ที่เชื่อมจากรถไฟฟ้าสถานีชิดลมเข้าสู่ห้างเซ็นทรัลชิดลมที่ชั้น 1 ลักชัวรีได้โดยตรง
แนวคิดในการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ต่อยอดมาจากจุดเริ่มต้นของห้างเซ็นทรัลที่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปดอกกุหลาบ จึงตกแต่งในคอนเซ็ปต์ ‘Garden of Rose’ โดยมีหินทำจาก Terrazzo เป็นสี ‘Chidlom Pink’ สร้างบรรยากาศเสมือนเดินช้อปปิ้งที่ห้างหรูในยุโรป พร้อมยังสร้าง ‘New Brand Identity’ ของห้างเซ็นทรัลชิดลม ทั้งเปลี่ยนโลโก้ เป็นสี ‘Chidlom Pink’ ถุงช้อปปิ้ง สี Chidlom Pink พร้อมยูนิฟอร์มใหม่ของสาขา
- The Store of Excellent Services
ลงทุนในด้านเทคโนโลยี Omni-channel อำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้ง ให้บริการแบบ Omni service ที่มี Personal shopper บริการผู้ช่วยส่วนตัวในการช้อปปิ้ง, Personal stylist บริการผู้เชี่ยวชาญในการเลือกสินค้าในสไตล์ที่เป็นคุณ, Central App แอปพลิเคชันที่ให้ลูกค้าช้อปสะดวกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และยังมีการใช้ AI หรือ Data Analytics มาวิเคราะห์การนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละท่าน
นอกจากนี้ ยังมี CENFINITY Lounge ห้องรับรองพิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญ รวมทั้งโซน Work Work Co-working space พื้นที่ให้บริการฟรีสำหรับทุกท่านมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือนั่งพักผ่อน
- The Store of Communities
เจาะทุกกลุ่มเป้าหมาย เพราะ “ทุกคน” คือ#CitizenofChidlom คุณณัฐธีรากล่าวเพิ่มเติมว่า หลังปรับโฉมเสร็จสิ้น คาดการณ์ปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 30,000 คนต่อวัน ดึงลูกค้ามาจากหลากหลายกลุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่
- กลุ่ม CENFINITY และกลุ่ม Wealth & Premium ลูกค้าและสมาชิกคนสำคัญที่มียอดใช้จ่ายสูง ซึ่งจะมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์พิเศษและสิทธิประโยชน์เฉพาะตัว
- กลุ่ม Family & Kids กลุ่มครอบครัวที่นิยมใช้เวลาร่วมกันที่ห้างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน
- ต่อมากลุ่ม Gen Y & Gen Z กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ซึ่งมักมีอิสระทางการเงิน มีแนวโน้มใช้จ่ายสูงในกลุ่มสินค้าทันสมัย เช่น แฟชั่น เทคโนโลยี และเครื่องประดับ รวมถึงกลุ่มสินค้าลักชัวรีที่ตรงกับสไตล์ของตนเอง
- และกลุ่ม Expat & Tourist เป็นกลุ่มที่ตั้งใจเดินทางมาช้อปปิ้งและท่องเที่ยวโดยเฉพาะทางห้างได้เข้าไปถึงลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ ทั้งจากพันธมิตรสายการบิน บัตรเครดิต โรงพยาบาล และอีกมากมาย
และในวันที่ 12 ธันวาคม 67 เตรียมพบกับกิจกรรมและความประทับใจในงาน Grand Opening ‘The Store of Bangkok’ โดยมี นัม จู ฮยอก (Nam Joo Hyuk) แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของห้าง เซ็นทรัลชิดลม มาร่วมเซอร์ไพรส์ในงานด้วย
คุณณัฐธีรากล่าวว่า ปัจจัยบวกที่จะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ปัจจัยหลักยังเป็นการท่องเที่ยว และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ส่วนในปีหน้าเซ็นทรัลจะมีการรีโนเวตสาขาปิ่นเกล้า และแจ้งวัฒนะเพิ่มอีกสองแห่ง แต่ใช้งบประมาณน้อยกว่าที่เซ็นทรัลชิดลม
–
Website : Marketeeronline.co /